ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เซนเตอร์แบ็ก ตำแหน่งที่ แมนฯ ยู มองข้ามได้จริงหรือ?

เซนเตอร์แบ็ก ตำแหน่งที่ แมนฯ ยู มองข้ามได้จริงหรือ?

Posted 27/03/2019 by siamsport

ในตอนนี้ตำแหน่ง "ผู้จัดการทีมแบบถาวร" คนต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะตกเป็นของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แบบ 99.99 เปอร์เซ็นต์แล้ว หลังจากที่เขาทำผลงานได้โดดเด่นเหนือความคาดหมายของหลายคน โดยว่ากันว่าเจ้าตัวอาจได้รับการแต่งตั้งภายในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคมนี้ด้วย

    แน่นอนว่าถ้าเกิด โซลชา ได้เข้ามาคุมทีมแบบถาวร แมนฯ ยูไนเต็ด ก็จะเดินหน้าไปตามนโยบายที่ผู้บริหารวางแผนเอาไว้ ซึ่ง เดลี่ เมล สื่อชื่อดังของเมืองผู้ดีเพิ่งนำเสนอเรื่องที่น่าสนใจว่าหนึ่งในแนวทางที่คนใหญ่คนโตของทีมกำหนดเอาไว้คือจะไม่กำหนดให้การซื้อเซนเตอร์แบ็กมาร่วมทีมเป็นภารกิจสำคัญอันดับ 1 อีกแล้ว

    เดลี่ เมล อ้างว่าที่บอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด คิดแบบนั้นก็เพราะมองว่าเกมรับของทีมดูดีขึ้นเยอะหลังจากที่ โซลชา เข้ามากุมบังเหียน โดยพวกเขาจะเน้นช็อปตรงแบ็กขวากับมิดฟิลด์ตัวกลางมากกว่า คำถามที่น่าสนใจก็คือเกมรับของ "ปีศาจแดง" ดีขึ้นจริงๆ หรือไม่ ?

    - สาเหตุที่บอกได้ว่าดีขึ้นแล้ว
    ในเกมลีก 17 นัดแรกของฤดูกาลนี้นั้น ค่าเฉลี่ยการเสียประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ที่ 1.7 ลูกต่อนัด และเก็บคลีนชีทได้เพียง 2 หน นั่นทำให้ตอนนั้นพวกเขาเป็นทีมที่มีค่าเฉลี่ยเสียประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของลีก แย่กว่าแม้แต่ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ด้วยซ้ำ และทำให้ชื่อเสียง "เจ้าพ่อเกมรับ" ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องมัวหมอง

 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ โซลชา เข้ามาคุมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีค่าเฉลี่ยเสียประตูน้อยลงเยอะ โดยตลอดเกมลีก 13 นัดภายใต้การทำทีมของ โซลชา พวกเขาเสียประตูเฉลี่ยแล้ว 0.8 ลูกต่อนัด ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในช่วงดังกล่าว เท่ากับ ลิเวอร์พูล (จากจำนวน 14 เกม) และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (จากจำนวน 13 นัด)

สถิติการเสียประตูของทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ของ พรีเมียร์ลีก ระหว่างที่ มูรินโญ่ คุม แมนฯ ยูไนเต็ด
    - ลิเวอร์พูล - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (10), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.4)
    - แมนฯ ซิตี้ - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (9), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.6)
    - เชลซี - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (9), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.8)
    - สเปอร์ส - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (7), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.9)
    - อาร์เซน่อล - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (3), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (1.4)
    - แมนฯ ยูไนเต็ด - จำนวนเกม (17), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (2), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (1.7)

    สถิติการเสียประตูของทีมในกลุ่มท็อปซิกซ์ของ พรีเมียร์ลีก ระหว่างที่ โซลชา คุม แมนฯ ยูไนเต็ด
    - ลิเวอร์พูล - จำนวนเกม (14), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (7), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.8)
    - แมนฯ ซิตี้ - จำนวนเกม (13), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (6), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.8)
    - แมนฯ ยูไนเต็ด - จำนวนเกม (13), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (5), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (0.8)
    - อาร์เซน่อล - จำนวนเกม (13), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (3), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (1.2)
    - สเปอร์ส - จำนวนเกม (13), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (3), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (1.2)
    - เชลซี - จำนวนเกม (13), จำนวนนัดที่ไม่เสียประตู (4), ค่าเฉลี่ยการเสียประตูต่อนัด (1.5)

     จากตัวเลขในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่าเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเหนียวแน่นขึ้น และทำให้มันอาจจะดูสมเหตุสมผลถ้าพวกเขาจะไม่ซื้อเซนเตอร์แบ็กเพิ่มขึ้นจริงๆ

    - สาเหตุที่บอกได้ว่ายังแย่อยู่
    ถึงแม้ตัวเลขในเบื้องต้นจะแสดงให้เห็นว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มีค่าเฉลี่ยเสียประตูต่อนัดน้อยลงอื้อซ่า แต่ในความเป็นจริงนั้น พวกเขาเสียประตูถึง 12 เกมจากทั้งหมด 19 นัดในทุกรายการที่ โซลชา เป็นกุนซือของทีม ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขายังเสียประตูไปแล้ว 5 นัดรวดด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น เกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีปัญหาเวลาเจอกับทีมใหญ่ๆ ที่มีแนวรุกอันตรายอยู่ ถึงแม้บางนัดที่เจอกับทีมใหญ่ๆ พวกเขาจะเก็บคลีนชีทได้บ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้สื่อให้เห็นว่าเกมรับโดยรวมของพวกเขาเหนียวแน่น อย่างเกมที่ชนะ สเปอร์ส 1-0 มันก็ต้องให้เครดิต ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูชาวสแปนิชซะมากกว่า ที่เซฟเป็นพัลวัน

นอกจากนี้ ถ้าพิจารณากันจริงๆ ก็จะเห็นว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเซนเตอร์แบ็กที่พอจะฝากผีฝากไข้แบบคงเส้นคงวาได้แค่คนเดียว นั่นคือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ในขณะที่ คริส สมอลลิ่ง ออกแนวลูกผีลูกคน ขณะที่ เอริก ไบยี่ ก็ยังฟอร์มออกทะเลชนิดที่หาทางกลับฝั่งไม่ได้ นับตั้งแต่ที่หายเจ็บกลับมา

    สรุป : การเสริมทัพในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กยังควรจะเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะเห็นได้ว่ามันยังมีจุดอ่อนที่ชัดเจน ยิ่งถ้าเกิดฤดูกาลหน้า ลินเดอเลิฟ เกิดเจ็บขึ้นมา และคนอื่นยังเล่นได้แย่แล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นฝันร้ายของยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »