แม้ว่าเกมสุดท้ายประจำซีซั่นล่าสุด ยูเวนตุส จะจบไม่ค่อยสวยนักเมื่อพวกเขาออกไปแพ้ ซามพ์โดเรีย แต่งานนี้แฟนบอล "ม้าลาย" ก็คงไม่ได้เสียความรู้สึกอะไรมากนัก เพราะพวกเขาได้แชมป์ลีกไปครอบครองก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์แล้ว ที่สำคัญ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดแข้งชาวโปรตุกีส สร้างสถิติให้กับตัวเองเมื่อไปได้แชมป์ลีกสูงสุดจาก 3 ลีกชั้นนำในยุโรป

ยูเวนตุส ภายใต้การนำทัพของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เทรนเนอร์มือทอง ผงาดคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา ในฤดูกาลล่าสุด โดยเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 5 ติดต่อกันในการทำงานกับ ยูเว่ ซึ่งเป็นการจบหน้าที่เฮดโค้ช "ม้าลาย" อย่างสวยสดงดงาม และก้าวเดินออกจากถิ่นอัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม อย่างยิ่งใหญ่ราวมหาบุรุษ

ทัพ "ม้าลาย" การันตีคว้า "สคูเด็ดโต้" มาครอบครองอย่างเป็นทางการหลังจากเปิดบ้านเฉือน "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า 2-1  ทั้งๆ ที่เกมลีกยังเหลืออีก 5 แมตช์ โดยหลังจากที่พวกเขาได้แชมป์แล้ว ซึ่งเป็นแชมป์สมัยที่ 8 ติดต่อกัน ผลงานของทีมก็ออกแนวสบายๆ โดยสะกดคำว่าชนะไม่เป็เลย โดย เสมอ 3 และแพ้ 2 ซึ่งเกมส่งท้ายซีซั่นก็แพ้ ซามพ์โดเรีย 0-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ผลงานของ ยูเวนตุส ต้องยอมรับว่าเหนือกว่าคู่แข่งร่วมลีกโดยพวกเขาเก็บชัยชนะไปถึง 28 เกม เสมอ 6 และแพ้ 4 เกมเท่านั้น พร้อมคว้าไป 90 แต้ม ทิ้งห่าง นาโปลี อันดับ 2 ไกลสุดกู่ 11 คะแนนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามงานหนักของพวกเขาในช่วงซัมเมอร์นี้ก็คือการหากุนซือที่จะมาสานต่อความยิ่งใหญ่จาก อัลเลกรี ซึ่งแว่วๆ มาว่าน่าจะเป็น เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ปัจจุบันกุมบังเหียน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี

แน่นอนว่าเป้าหมายของ ยูเวนตุส ในฤดูกาลหน้าก็คือความสำเร็จในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งนอกจาก "ม้าลาย" แล้วอีกสามทีมที่จะได้ตั๋วไปลุยถ้วยใบโตยุโรปก็คือ นาโปลี  ตามมาด้วย อตาลันต้า ที่คว้าอันดับ 3 และทีมสุดท้ายก็คือ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน โดยทั้งหมดนี้ได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ

ขณะที่อีกสามทีมที่จะได้ไปวาดลวดลายในถ้วยใบเล็กอย่าง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ประกอบไปด้วย "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ทีมอันดับห้าที่ได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ, "หมาป่าเหลืองแดง" โรม่า คว้าอันดับ 6 ซึ่งต้องไปเล่นในรอบคัดเลือกรอบ 2 และ "อินทรีฟ้าขาว" ลาซิโอ ที่ได้ตั๋วไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์โคปา อิตาเลีย ซีซั่นล่าสุด

ในส่วนของโซนท้ายตารางคะแนน เจนัว รอดตกชั้นอย่างหวุดหวิดเมื่อเกมสุดท้ายพวกเขาบุกเสมอ ฟิออเรนติน่า 0-0 ทำให้เก็บ 1 แต้มส่งผลให้มี 38 คะแนนเท่ากับ เอ็มโปลี ที่แพ้ อินเตอร์ 1-2 แต่ เจนัว ได้อยู่ในลีกสูงสุดต่อไปเนื่องจากเฮดทูเฮด (ผลการเจอกันเองระหว่างทั้งสองทีม) ดีกว่า

สำหรับ คิเอโว่ ที่ฤดูกาลนี้ทำผลงานได้ย่ำแย่สุดๆ เมื่อชนะเพียงแค่ 2 เกม และเสียไปถึง 75 ประตู ทำให้เก็บได้เพียงแค่  17 แต้มรั้งอันดับบ๊วยลีก ด้าน โฟรซิโนเน่ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นมาสู่ลีกสูงสุดเมืองมะกะโรนีเมื่อซีซั่นที่ผ่านมาต้องกลับไปอยู่ที่เดิมอีกครั้งเมื่อรั้งอันดับ 19 และเก็บได้แค่ 25 แต้มเท่านั้น

สำหรับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดฤดูกาลนี้ตกเป็นของ ฟาบิโอ กวายาเรลล่า กองหน้าจอมเก๋าจาก "ลา ซามพ์" ซามพ์โดเรีย ที่ตะบันไปเบาะๆ 26 ประตู ขณะที่อันดับ 2 ตกเป็นของ ดูวาน ซาปาต้า หัวหอกโคลอมเบียจาก อตาลันต้า และ คริสตอฟ ปิออนเต็ก ดาวยิง เอซี มิลาน ด้วยสถิติ 22 ประตูเท่ากัน ในส่วนของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีสจาก ยูเวนุตส รั้งอันดับ 4 ด้วยผลงานกดไป 21 ประตู จากการลงเล่นในเซเรีย อา ฤดูกาลแรกเท่านั้น

ด้านจอมแอสซิสต์นั้นเป็นของ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ดาวเตะ นาโปลี ที่ทำไป 11 แอสซิสต์  ส่วนอันดับ 3 มีสามคนได้แก่  โฆเซ่ กาเยฆ่อน (นาโปลี), อเลฮานโดร โกเมซ (อตาลันต้า และ ซูโซ่ (เอซี มิลาน) ทำไปคนละ 10 แอสซิสต์ สำหรับ โรนัลโด้ รั้งอันดับ 5 ร่วมด้วยการทำไป 8 แอสซิสต์ 

  ในส่วนของรางวัลส่วนตัวในเกมลีกสูงสุดเมืองมะกะโรนีนั้น โรนัลโด้ คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำฤดูกาลนี้ ขณะที่ นิโคโล่ ซานิโอโล่ กองกลางอนาคตไกลโรม่า คว้าผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม ตามด้วย ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช โกล์อินเตอร์ มิลาน สอยตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม ตามด้วย คาลิดู คูลิบาลี เซนเตอร์นาโปล ได้รางวัลกองหลังยอดเยี่ยม,  เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช มิดฟิลด์ลาซิโด ได้รางวัล กองกลางยอดเยี่ยม และ กวายาเรลล่า ผงาดกองหน้ายอดเยี่ยม

...ศึก กัลโช่ เซเรีย อา ฤดูกาล 2018/19 ปิดฉากลงไปพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของ ยูเวนตุส ที่ได้แชมป์มาครองเป็นสมัยที่ 35 แน่นอนว่า ซีซั่นหน้าพวกเขาจะกลับมาในฐานะทีม "เต็งแชมป์" อีกครั้ง แต่ที่น่าสนใจก็คือทิศทางของทีมจะเป็นยังไงเมื่อไม่มี อัลเลกรี กุมบังเหียนอีกต่อไป