กราฟชีวิตของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ กุนซือชาวสแปนิชดิ่งลงเหวอย่างหนักหลังจากที่เขาพา บาร์เซโลน่า ตกรอบรองชนะเลิศของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2018-19 แบบสุดช็อก โดยที่จริงแค่การตกรอบก็ถือว่าน่าเลวร้ายมากพอแล้ว แต่นี่ทีมของเขายังตกรอบทั้งที่นัดแรกชนะมาก่อน 3-0 อีกต่างหาก จนทำให้มันเป็นการตกรอบที่น่าอับอายมากยิ่งขึ้นไปอีก
    ชีวิตของ บัลเบร์เด้ แย่ลงไปอีก หลังจากที่ "อาซูลกราน่า" แพ้ บาเลนเซีย 1-2 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก โกปา เดล เรย์ โดยถึงแม้ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ประธาน บาร์เซโลน่า จะออกมากางปีกป้อง บัลเบร์เด้ ในเบื้องหน้าอย่างบสุดชีวิต แต่มันก็ไม่สามารถสกัดกั้นทุกความเกลียดชังที่ถาโถมใส่ บัลเบร์เด้ ได้ และทำให้กระแสข่าวที่ว่า บัลเบร์เด้ จะตกงาน ก็รุนแรงยิ่งกว่าอะไรดี

    ทั้งนี้ ว่ากันว่าเต็ง 1 ที่ บาร์เซโลน่า จะดึงเข้ามาคุมทีมแทน บัลเบร์เด้ ได้แก่ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เทรนเนอร์ทีมชาติเบลเยียม โดย สปอร์ต และ อาร์เอซี1 สื่อของแคว้นกาตาลุนย่าทั้ง 2 เจ้าต่างก็ประโคมข่าวว่า บาร์เซโลน่า ถึงขั้นติดต่อไปหา มาร์ติเนซ แล้วด้วย และเจ้าตัวก็อยากมารับงานนี้เหมือนกันจนตอนนี้พร้อมมาเปิดตัวกับ บาร์เซโลน่า เมื่อเก้าอี้กุนซือของที่นั่นว่างลง ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ มาร์ติเนซ เหมาะกับงานนี้หรือไม่

    - ข้อดีของ มาร์ติเนซ
    มาร์ติเนซ ทำงานคุมทีมมาแล้ว 4 แห่ง เริ่มจาก สวอนซี ซิตี้, วีแกน แอธเลติก, เอฟเวอร์ตัน แล้วตามด้วยทีมชาติเบลเยียม ซึ่งกุนซือชาวสแปนิชรายนี้เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องการให้ทีมของเขาเน้นเล่นเกมบุกเป็นหลักมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่ว่าจะตอนอยู่กับทีมไหนก็ตาม

    ขนาดตอนอยู่กับ สวอนซี และ วีแกน ทีมของเขายังทำประตูได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ ด้วยจำนวน 181 ลูกจาก 117 นัดในทุกรายการกับ "หงส์ขาว" และ 208 ประตูจาก 175 นัดในทุกรายการกับ "เดอะ ลาติกส์" ทั้งที่ทั้งสองทีมที่ว่านั่นไม่ได้มีนักเตะแนวรุกชั้นยอดให้ใช้งานเลย

    พอโยกมาคุม เอฟเวอร์ตัน มาร์ติเนซ ก็ทำให้ทีมของเขายิงไปรวมแล้ว 239 ประตูจาก 143 นัดในทุกรายการ ส่วนกับทีมชาติเบลเยียม ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ที่สุดในอาชีพการคุมทีมของกุนซือวัย 45 ปีนั้น เขาทำให้ทีมกดไปแล้ว 99 ประตูจาก 35 นัดในทุกรายการ นั่นหมายความว่าตลอดอาชีพการคุมทีมรวม 470 นัดจากทุกรายการ มาร์ติเนซ ทำให้ทีมของเขายิงไปรวมแล้ว 727 ประตู

    แน่นอนว่าปรัชญาการเน้นเล่นเกมบุกเป็นหลักของเขาจะเข้ากับดีเอ็นเอของ บาร์เซโลน่า ได้เป็นอย่างดี และถ้าไม่มีใครย้ายออกจากทีม เขาก็จะมีแนวรุกชื่อดังให้ใช้งานหลายคน ไม่ได้มีเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ แค่คนเดียว ซึ่งมันอาจจะทำให้เกมบุกของ บาร์เซโลน่า กลับมาน่าตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง

    ขณะเดียวกัน ตลอดเวลาที่ผ่านมา มาร์ติเนซ ยังไม่ค่อยมีปัญหาขัดแย้งกับคนใหญ่คนโตของทีมที่เขาไปรับงานให้เท่าไหร่ด้วย และเขาก็มีข่าวเชิงขัดแย้งกับนักเตะน้อยพอตัว ประมาณว่าจะมีสัก 2 จาก 10 คนที่จะเกลียดเขา ซึ่งนั่นก็ทำให้ บาร์เซโลน่า ในยุคของเขาน่าจะมีบรรยากาศที่ดีได้

    - ข้อเสียของ มาร์ติเนซ
    ในโลกฟุตบอลมีกุนซือเพียงไม่กี่คนที่จะวางแผนได้ดีทั้งเกมรุกและเกมรับ บางคนถนัดในการทำให้ทีมเล่นเกมรุกเป็นหลัก แต่พอถึงเกมรับแล้วกลับทำผลงานได้น่าผิดหวัง ซึ่ง มาร์ติเนซ ก็เข้าข่ายนั้นเช่นกัน

    ตลอดอาชีพการคุมทีมของเขานั้น มาร์ติเนซ เห็นทีมตัวเองเสียประตูไปรวมแล้วถึง 644 ประตู โอเค กรณีของ สวอนซี กับ วีแกน อาจจะพอเข้าใจได้ เพราะทั้งสองทีมนั้นเป็นทีมเล็ก แต่ขนาดมาคุมเบลเยียม เขายังเคยทำให้ทีมเสีย 5 ลูกในนัดเดียวมาแล้ว นั่นคือเกม ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ เบลเยียม แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ 2-5

    ขณะที่ยอดรวมการเสียประตูของ เบลเยียม ภายใต้การคุมทีมของ มาร์ติเนซ อยู่ที่ 31 ลูก จริงอยู่ว่าถ้าดูเฉพาะตัวเลขแล้วมันไม่ได้แย่อะไร แต่ต้องไม่ลืมว่า เบลเยียม ในยุคของ มาร์ติเนซ ไม่ได้เจอทีมชั้นนำหลายทีมเลย

    ยิ่งไปกว่านั้น สภาพกองหลังของ บาร์เซโลน่า ในตอนนี้ก็ถือว่าน่าเป็นห่วงพอตัว เคราร์ด ปิเก้ ที่เคยไว้เนื้อเชื่อใจได้อยู่เสมอก็ฟอร์มดร็อปลงไปตามสังขารของตัวเองที่อายุ 32 ปีเข้าไปแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจแบบคงเส้นคงวาได้

    นอกจากนี้ มันยังมีเรื่องของความกดดันกับการทำหน้าที่ให้ทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ด้วย จริงอยู่ว่าเขาพา เบลเยียม ที่เต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอดคว้าอันดับ 3 ในศึก ฟุตบอลโลก 2018 มาครองได้ รวมถึงพาทีมเล็กๆ อย่าง วีแกน แอธเลติก ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ มาแล้ว แต่ความกดดันในงานทั้ง 2 ตำแหน่งนั้นก็น้อยกว่าการเป็นกุนซือ บาร์เซโลน่า เยอะพอตัว

    สรุป : ในแง่ของเกมบุก มาร์ติเนซ ถือเป็นตัวเลือกที่ดูดีมีระดับ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้ว่าจะมีทรัพยากรเพียงแค่น้อยนิด เขาก็สามารถทำให้ทีมๆ นั้นมีเกมบุกที่ดูดีได้ และพอมีทรัพยากรให้ใช้งานเยอะเกมบุกของเขาก็ดีขึ้นไปอีก ถึงกระนั้น กุนซือวัย 45 ปีก็ยังมีจุดอ่อนเรื่องเกมรับมาจนถึงตอนนี้ และปัจจุบัน บาร์เซโลน่า ก็มีปัญหาด้านเกมรับด้วย ถ้าเกิด บาร์เซโลน่า อยากใช้งานเขาจริงๆ ล่ะก็ การซื้อเซนเตอร์แบ็กเก่งๆ มาร่วมทีมสัก 2 คนก็อาจจะเป็นภารกิจที่สำคัญระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว