เรอัล เละเทะ! 5 ประเด็นจากเกม มาดริด ดาร์บี้แมตช์
Posted 27/07/2019 by siamsport
ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าเกมอุ่นเครื่องของรายการ อินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ ที่ เรอัล มาดริด เจอกับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา (เช้าวันเสาร์ที 27 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย) จะเป็นเกมที่ดุเดือดระดับ 5 ดาว เพราะทั้ง 2 ทีมต่างก็เป็นยอดทีมของโลก แถมมันยังเป็นดาร์บี้แมตช์ของกรุงมาดริดด้วย
อย่างไรก็ตาม มันกลับกลายเป็นว่าเกมนี้เกิดเรื่องไม่คาดฝัน หลังจากที่ แอต. มาดริด ไล่ถล่ม เรอัล ไปแบบขาดลอย 7-3 ซึ่งที่จริงบางคนมองว่า "ตราหมี" น่าจะชนะขาดกว่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าพวกเขาจบสกอร์ได้เฉียบคมในบางจังหวะ และวันนี้เราจะมาพูดถึงประเด็นที่น่าสนใจของเกมนี้กัน
- เกมรับที่เปื่อยยุ่ยของ เรอัล มาดริด
เดิมที 2 นัดก่อนหน้านี้ เรอัล ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่อยู่แล้ว หลังจากเสียไป 5 ลูกจากการลงเล่น 2 นัด ประกอบด้วยเกมแพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-3 และนัดที่เสมอกับ อาร์เซน่อล 2-2 ในช่วงเวลาปกติ นั่นหมายความว่าถ้านับรวมนัดล่าสุดเข้าไปด้วย ทีมของ ซีเนดีน ซีดาน ก็เสียไปถึง 12 ลูกจากการลงเล่นเพียงแค่ 3 นัด
แน่นอนว่าหนึ่งในประเด็นที่ทำให้เกมรับของ เรอัล เสียประตูง่ายแบบนี้คือการที่ขุมกำลังโดยรวมในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กของพวกเขาไม่ดีเท่าที่ควร ตัวเลือกที่ดูดีมีระดับมีเพียง เซร์คิโอ รามอส กับ ราฟาแอล วาราน เท่านั้น ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่ในช่วงที่ฟอร์มไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนตัวเลือกอื่นๆ อย่าง นาโช่ เฟร์นานเดซ ก็ดูยังไม่เหมาะที่จะช่วยทีม
นอกจากนี้ แบ็กทั้ง 2 ข้างของ เรอัล ก็ทำผลงานได้ย่ำแย่ เกมกับ แอต. มาดริด มันเห็นได้ชัดว่าผู้เล่นของ "ตราหมี" ลากเกมจากริมเส้นได้อย่างสบายใจมากเกินเหตุเหมือนกับกำลังเดินเล่นในสวนหลังบ้านก็มิปาน ซึ่งนี่ก็เป็นโจทย์ที่ ซีดาน ต้องแก้ให้ได้
- เฟลิกซ์ มีแววรุ่ง
ถึงแม้ในฤดูกาลก่อน ซึ่งเป็นซีซั่นแรกของเขากับทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิก้า เฟลิกซ์ จะทำผลงานได้โดดเด่น ด้วยการทำไป 20 ประตู กับอีก 11 แอสซิสต์ แต่หลายคนก็ยังมองว่าค่าตัวโดยรวม 126 ล้านยูโร (ประมาณ 4,536 ล้านบาท) ที่ แอต. มาดริด จ่ายให้ เบนฟิก้า มันสูงเกินไป
อย่างไรก็ตาม เกมกับ เรอัล แข้งวัย 19 ปี แสดงให้เห็นว่าเขามีดีแค่ไหน เฟลิกซ์ สามารถขึ้นเกมบุกได้แบบมีประสิทธิภาพสุดๆ จนทำไป 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ ถ้าในฤดูกาลปกติเขายังเล่นได้ดีแบบนี้แล้วล่ะก็ แฟนบอล แอต. มาดริด อาจจะลืมชื่อของ อ็องตวน กรีซมันน์ ได้เร็วกว่าที่คิดก็ได้
- ซีดาน อาจต้องซื้อมิดฟิลด์ตัวรับ
ด้วยความที่ คาเซมิโร่ ไปรับใช้ทีมชาติบราซิลในศึก โกปา อเมริกา 2019 ทำให้เขาได้รับอนุญาตจากต้นสังกัดให้มารายงานตัวซ้อมกับทีมช้ากว่าคนอื่นๆ และ 3 เกมที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นว่ากองกลางตัวรับชาวบราซิเลียนมีความสำคัญกับทีมมากแค่ไหน
ที่จริงทีมฟุตบอลทุกทีมควรจะมีกองกลางตัวรับเอาไว้ช่วยเหลือเหล่าแผงหลัง ซึ่งพอไร้เงาของ คาเซมิโร่ มันก็ทำให้คู่แข่งทะลวงไปถึงแดนหลังของ เรอัล ได้อย่างง่ายดาย ปัญหาก็คือตอนนี้ในขุมกำลังของ เรอัล มันมีแค่ คาเซมิโร่ เพียงคนเดียวที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับแบบคุณภาพดี นั่นหมายความว่าถ้าเขาเจ็บหรือโดนแบนขึ้นมา เรอัล ก็อาจจะเจอเกมที่แพ้แบบสุดช็อกเหมือนอย่างเกมกับ แอต. มาดริด ก็ได้
- เอแด็น อาซาร์ ยังจูนกับเพื่อนไม่ติด
อาซาร์ ถูกคาดหวังว่าจะพาทีมกลับไปมีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมเหมือนสมัยที่ เรอัล มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คอยประจำการในแนวรุก เพราะตลอดช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมาแข้งชาวเบลเยียมกระชากลากเลื้อยได้ดีสุดๆ แถมยังทำประตูและแอสซิสต์ได้ดี
ถึงกระนั้น หลังจากผ่านมา 3 นัด แข้งวัย 28 ปีก็ยังจูนกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่ดีเท่าไหร่ จริงอยู่ว่ามันต้องให้เวลาเขาปรับตัวสักหน่อย แต่เขาก็อาจจะต้องรีบทำอย่างนั้นให้ได้เร็วๆ เพราะตอนนี้ เรอัล เหลือเกมอุ่นเครื่องอีกเพียง 2 นัด ก่อนที่จะลงเล่นเกมแรกของฤดูกาลด้วยการไปเยือน เซลต้า บีโก้ ในวันที่ 17 สิงหาคมนี้
- ดีเอโก้ คอสต้า คนดีคนเดิม
หลายฤดูกาลก่อน คอสต้า เป็นที่หวาดกลัวของกองหลังทุกทีม หลังจากที่เขามีศักยภาพในการทำประตูสูงสุดๆ ซึ่งสิ่งนั้นหายไปจากตัวเขาในซีซั่นก่อน จนทำให้หลายคนคิดว่าเจ้าตัวอาจจะหมดอนาคตกับทีมแล้ว
อย่างไรก็ตาม เกมกับ เรอัล มันเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า คอสต้า คนเดิมกลับมาแล้ว เขายิงได้เฉียบขาดจนสามารถทำแฮตทริกได้ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนที่จะทำเพิ่มได้อีก 1 ลูกในช่วงครึ่งหลัง เรียกได้ว่าเมื่อมีโอกาส เจ้าตัวก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือ
น่าเศร้าที่ความเป็น "คนเดิม" ที่กลับมาของ คอสต้า มันไม่ได้มีเฉพาะการทำประตู เพราะเกมนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เขาอารมณ์ร้อนโดยไม่จำเป็น จากการที่ไปเตะใส่ ดานี่ การ์บาฆาล ดาวเตะ เรอัล เพียงเพราะไม่พอใจที่อีกฝ่ายเล่นงานเพื่อนร่วมทีมของเขา จนสุดท้าย คอสต้า และ การ์บาฆาล ก็โดนใบแดงไล่ออกจากสนามทั้งคู่
จริงอยู่ว่าการปกป้องเพื่อนร่วมทีมถือเป็นเรื่องที่ดี แต่มันมีการแสดงออกแบบอื่นๆ ที่เหมาะกว่าการไปไล่อัดคู่แข่งเพื่อเอาคืน แถมตอนนี้ คอสต้า ก็กลายเป็นกองหน้าตัวเป้าตัวความหวังในการทำประตูของทีมแทนที่ กรีซมันน์ แล้วด้วย นั่นหมายความว่าอดีตแข้ง เชลซี จำเป็นต้องเก็บอารมณ์ให้ได้ เพื่อที่จะได้อยู่ช่วยทีมในสนามเป็นเวลานาน
เพราะการที่เขาโดนไล่ออกในเกมของฤดูกาลปกติมันไม่ได้ส่งผลเสียกับตัวเขาเองเท่านั้น แต่รวมถึงส่งผลเสียกับต้นสังกัดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์