"เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าตำนานทีมชาติไทย มองนักเตะ 33 คนที่ถูกเลือกติดทีมชาติไม่เห็นแปลกเพราะนิชิโนะเลือกเอง เผยเขาอาจมียุทธวิธีและมีวิธีการใช้นักเตะอยู่แล้ว ชี้ผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์นิชิโนะ พร้อมมั่นใจแข้งช้างศึกมีสิทธิ์คว้าแชมป์กลุ่มทะลุรอบ 3 ได้ แต่ต้องโกยแต้มในบ้านให้หมดรวมถึงการออกไปเยือนต้องห้ามแพ้ หวั่นเพียงแค่แมตช์เยือนอินโดนีเซีย คาดคนเขาชมเหยียดแสนคนแน่
 
    จากกระแสการประกาศตัว 33 แข้งทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ "อากิระ นิชิโนะ" ลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง อาจจะดูแปลกตาไปสำหรับแฟนบอลชาวไทย หลังจากมีผู้รักษาประตูถึง 5 คน แต่กองหน้ามีเพียง 2 คนเท่านั้น
 
    ล่าสุด "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตศูนย์หน้าระดับตำนานทีมชาติไทย ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า "การเรียกนักเตะครั้งนี้ไม่แปลกใจเพราะว่าทางนิชิโนะเป็นคนคัดเลือกเอง เขาอาจจะมีวิธีการแนวคิด รวมทั้งยุทธวิธีในการเล่นที่จะให้นักฟุตบอลเล่นให้สอดคล้องกับที่เขาต้องการ ถึงแม้บางคนอาจจะมองว่าผู้รักษาประตู 5 คนนั้นไม่เท่าไหร่ กองหลังยังไม่ใช่ปัญหา กองกลางอาจจะมากหน่อย แต่กองหน้ามี 2 คนอาจจะมีเครื่องหมายคำถามเยอะ เพียงแต่ว่านิชิโนะคงมีวิธีการทำงานของเขา ต้องให้เวลาเขาครับ ซึ่งผลงานออกมาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ของตัวเขาเอง"
 

    "เรื่องของระยะเวลาที่นิชิโนะมานั้นถามว่าสั้นไหมแน่นอนว่าสั้น เพราะการดูนักฟุตบอลให้ครบถ้วนทุกองค์ประกอบนั้น มันจะต้องใช้เวลา 5-6 เดือน ดูทั้งหมด 16 ทีม ดูคาแรกเตอร์ของนักฟุตบอล และอะไรหลายๆอย่าง นิชิโนะมา 2 เดือนอาจจะน้อย แต่ข้อมูลผู้ช่วยโค้ชชาวไทยรวมทั้งสมาคมฟุตบอลฯคงมีให้อยู่แล้ว และตัวนิชิโนะคงจะทำการบ้านมาเป็นอย่างดี"
 
    "เพราะฉะนั้นการคัดเลือกตัวแบบนี้เขาจะอัดกลางแน่นเพื่อที่จะเติมความเร็วให้กับแนวรุกให้มากขึ้น และอาจจะมีวิธีการเล่นที่หลากหลายให้นักบอลเรามีการพัฒนาต่อเนื่อง ก็คงต้องดูเขาระยะหนึง ถ้าจะถามว่าเกมในบ้านเจอเวียดนาม และไปเยือนอินโดฯนั้นสาหัสไหม ผมว่าสาหัสมากทั้งสองเกม โดยเฉพาะการพบเวียดนามในบ้านก็เหนื่อยพอสมควรอยู่แล้ว แล้วไปเยือนอินโดฯ ซึ่งถือว่าเป็นการเยือนในบ้านอินโดฯสนามเสนายันในอดีตที่ชื่อแบบนั้น คนดูจุได้เกือบแสนคน ก็ถือว่าไม่ธรรมดา ก็ต้องมีการทำการบ้านอย่างดี แต่ไม่หนักใจกับนักฟุตบอลไทย เพราะตอนนี้ยกระดับมาตรฐานไปมากขึ้นเรื่อยๆ"
 
    "เดอะตุ๊ก" ยังพูดถึงความเป็นไปได้ของกลุ่มนี้ด้วยว่า "ในสายนี้ผมมั่นใจว่าไทยสามารถจะเป็นที่ 1 ในสายได้เข้ารอบ 3 ต่อไปได้ในความคิดของผม แต่วิธีการปฏิบัตินั้นจะเป็นแบบไหนต้องดูกันอีกที รวมทั้งทีมอื่นๆก็มีแนวคิดเหมือนกับทีมชาติไทยเหมือนกัน เวียดนามก็คิดว่าจะเป็นที่ 1 ได้รวมทั้งยูเออี ส่วนอินโดฯกับมาเลเซีย ผมว่าเขาคิดคล้ายๆกับเราเช่นกัน เพียงแต่สถานการณ์แบบนี้ใครจะเล่นในบ้านดีกว่ากัน ใครไปเยือนเก็บแต้มได้มากกว่ากัน"