หมัดต่อหมัด!วัดใจ 5 จุดสำคัญเปลี่ยนเกม ลิเวอร์พูล VS อาร์เซน่อล
Posted 24/08/2019 by siamsport
แมตช์นี้ถือเป็นบททดสอบแรกที่สำคัญมากๆ ของฤดูกาลนี้สำหรับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล และ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เมื่อพวกเขาต้องโคจรมาปะทะกันในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตั้งแต่ไก่โห่ ที่สนามแอนฟิลด์ ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคมนี้
ทั้งสองทีมยังคงทำผลงานได้ดีเยี่ยมด้วยสถิติเก็บชัย 2 แมตช์แรก อย่างไรก็ตามในแมตช์นี้จะต้องมีหนึ่งทีมที่จะยังคงรักษาสถิติที่สุดเพอร์เฟกต์ต่อไป (กรณีหากไม่เสมอ) โดยก่อนเกมนี้ อูไน เอเมรี่ กุนซือทีมเยือน ได้เล่นสงครามจิตวิทยาด้วยการอวยเจ้าบ้านว่า อาร์เซน่อล ไม่อยากเจอกับ "เดอะ เร้ดส์" ไปตลอดกาลหลังจากแพ้ยับเยิน 5-1 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถือเป็นผู้จัดการทีมที่มีชั้นเชิงในการรับมือกับสงครามจิตวิทยาแบบนี้ และเขาก็ไม่ปล่อยให้คำพูดยกยอปอปั้นเหล่านี้มาทำให้เสียสมาธิ โดย กุนซือชาวเยอรมัน ยังคงสั่งลูกทีมซ้อมหนักเพื่อเตรียมความพร้อมเต็มทีในการเจอกับหนึ่งในทีมคู่แข่งแย่งแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
สำหรับแมตช์สำคัญนี้แน่นอนว่านักเตะทุกคนต้องพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในการปะทะกับคู่แข่ง เพราะหากเสียสมาธิ หรือเล่นผิดพลาด นั่นหมายถึงหายนะอาจจะเกิดขึ้นกับต้นสังกัดของพวกเขาก็เป็นได้
1. โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ VS ดาวิด ลุยซ์
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เพิ่งซัดประตูให้กับ ลิเวอร์พูล ในแมตช์เฉือน "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน เกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยตอนนี้ สตาร์ลูกหนังชาวบราซิเลียน เป็นนักเตะที่ "หงส์แดง" ขาดไม่ได้จริงๆ เพราะเขามีส่วนสำคัญอย่างมากในการเชื่อมระหว่างแผงกองกลาง และกองหน้า รวมทั้งยังยิงประตูได้เฉียบคมด้วย
กองหน้าทีมชาติบราซิล ยังคงเป็นนักเตะที่แฟนบอล "เดอะ กันเนอร์ส" หลอนไม่หาย เพราะเขาเคยสวมวิญญาณเพชฌฆาตโหดซัดแฮตทริกในเกมที่ทั้งสองทีมพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ลิเวอร์พูล ถล่มยับ 5-1) ฉะนั้นการเห็น ฟีร์มีโน่ โลดแล่นในสนามคงทำให้สาวกอาร์เซน่อล ใจหายใจคว่ำกันพอสมควร
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล มีแนวรับชั้นดีอย่าง ดาวิด ลุยซ์ ที่เพิ่งย้ายมาจาก เชลซี แน่นอนว่า ฟีร์มีโน่ คงต้องเจอกับบททดสอบครั้งสำคัญในการปะทะกับ กองหลังหัวฟูเพื่อนร่วมชาติ ซึ่งเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ใช่งานง่ายๆ สำหรับ "บ็อบบี้" ที่จะสลัดการประกบของ ลุยซ์ เข้าไปซัดประตู
ขณะเดียวกัน อดีตสตาร์ เชลซี และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งได้ลงตัวจริงให้กับต้นสังกัดใหม่ในเกมเฉือน เบิร์นลี่ย์ ยังมีทีเด็ดในการเติมเกมบุกด้วย และมีโอกาสที่จะน็อก "เดอะ เร้ดส์" ที่ช่วงเวลานี้เกมรับไม่ค่อยจะแกร่งเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมา
2. ฟาบินโญ่ VS ดานี่ เซบายอส
ฟาบินโญ่ ไม่ได้ลงเล่นตัวจริงในเกมชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่เขาลงมาทำผลงานให้กับต้นสังกัดในช่วงครึ่งหลัง โดยเหตุผลที่โดนดร็อปไม่ใช่เพราะฟอร์มตกอะไรหรอก แต่เป็นนโยบายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในการสับเปลี่ยนผู้เล่นเพื่อให้ร่างกายมีความสดอยู่เสมอ
มิดฟิลด์เลือดแซมบ้า ถือเป็นแข้งสำคัญในแผงมิดฟิลด์ของ "เดอะ เร้ดส์" โดยเขาคอยทำหน้าที่ทั้งคุมเกมเพื่อสร้างโอกาสในเกมบุกของทีม และคอยตัดเกมในยามที่แนวรุกคู่แข่งดันขึ้นมา อย่างไรก็ตามเกมนี้ ฟาบินโญ่ จะต้องปะทะกับนักเตะใหม่ของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่กำลังทำผลงานได้อย่างร้อนแรงกับ อาร์เซน่อล
ดานี่ เซบายอส โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในเกมเฉือน เบิร์นลี่ย์ โดยเขามีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โอกาสให้ทีมซัด 2 ประตูในแมตช์ดังกล่าว สำหรับ มิดฟิลด์ตัวยืมรายนี้ มีทักษะเฉพาะตัวที่สามารถสร้างปัญหาและคอยปั่นป่วนเกมรับของเจ้าบ้านได้แน่นอน
ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ ฟาบินโญ่ ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือเขามีหน้าที่ในการตัด เซบายอส ออกไปจากเกมตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกของท่านเปาพ่นออกมาจากปาก อย่างไรก็ตาม เซบายอส ก็มีของดีซ่อนเอาไว้ซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีกว่านักเตะลิเวอร์พูล ฉะนั้นหากปล่อยให้แข้งสแปนิชได้ใช้ความสามารถเฉพาะตัว งานนี้ สาวก "เดอะ ค็อป" อาจเศร้าก็ได้
3. เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ VS โอบาเมยอง-ลากาแซ็ตต์
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่ช่วงออกทัวร์ปรีซีซั่น ดูเหมือนแนวรับของ ลิเวอร์พูล ที่ได้ชื่อว่าแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเหล็ก กลายเป็นอ่อนยวบใครก็สามารถหลุดเข้าไปส่องตาข่ายได้สบายๆ โดยผลพ่วงในช่วงซัมเมอร์ยังลามมายังช่วงต้นฤดูกาล 2019-20 เพราะผ่านเกมลีกไปสองนัดยังไม่มีคลีนชีตเลย
อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" ยังพออุ่นใจได้บ้างกับการที่มี เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป คอยทำหน้าที่กำกับแนวรับได้อย่างเหนียวแน่น โดยแข้งเลือดดัตช์มีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่ง และเล่นได้คงเส้นคงวาในการจัดการกับผู้เล่นเกมรุกคู่แข่งซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่าน อดีตแข้งเซาธ์แฮมป์ตัน เข้าไปดวลกับ อาเดรียน นายทวารจอมเก๋า
กระนั้นปัญหาสำคัญในเกมรับของ "หงส์แดง" ไม่ได้อยู่ที่ ฟาน ไดค์ แต่อยู่ที่คู่หูเซนเตอร์แบ็กของเขามากกว่า (โฌเอล มาติป กับ โจ โกเมซ) เพราะในเรื่องผลงานของ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ เชื่อขนมกินได้ว่าแนวรุกอาร์เซน่อล ต้องเจอกับงานรากเลือดในการดวลกับเขา
สำหรับเกมนี้ ฟาน ไดค์ ต้องเจอกับหนึ่งในคู่กองหน้าที่น่ากลัวที่สุดในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี เพราะทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง กับ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ มีทั้งความแข็งแกร่ง, รวดเร็ว, ทักษะเฉพาะตัว และความเฉียบคมในการยิงประตู ฉะนั้น ฟาน ไดค์ และคู่หู ต้องไม่ปล่อยให้สองคนนี้มีโอกาสเด็ดขาดไม่งั้นอาจน้ำตาตกได้
4. โรเบิร์ตสัน VS เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส
ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล มักจะได้ประตูจากการสร้างสรรค์เกมจากฟูลแบ็กทั้งสองฝั่งของพวกเขา ฉะนั้นในเกมรับมือทีมของกุนซืออูไน เอเมอรี่ แน่นอนว่าแฟนบอล "หงส์แดง" คงคาดหวังที่จะได้เห็น กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ โชว์ฟอร์มจอมแอสซิสต์อีกครั้ง
สำหรับ โรเบิร์ตสัน ต้องบอกเลยว่าเขาเจอกับงานสุดหนักหนาสาหัสมากๆ ในเกมที่ปะทะกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน อย่างไรก็ตาม แบ็กซ้ายชาวสกอตติช ยังคงทำผลงานได้คงเส้นคงวาเมื่อสามารถแย่งบอลคืนมาได้ถึง 8 ครั้ง และสร้างโอกาสในพื้นที่สุดท้ายได้ถึง 18 ครั้ง
ในการพบกับ อาร์เซน่อล ซึ่งมีระบบการเล่นที่เน้นดันเกมรุกขึ้นสูงทำให้ เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส มีโอกาสที่จะต้องปะทะกับ โรเบิร์ตสัน ตลอดทั้งเกม งานนี้หากใครที่เพลี่ยงพล้ำในการตั้งรับ มีสิทธิ์ที่จะส่งผลเสียต่อทีมจนนำไปสู่การโดนเจาะตาข่ายได้เลยทีเดียว
5. โม ซาลาห์ VS นิโกล่าส์ เปเป้
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยังคงอันตรายเสมอ และแน่นอนว่าเจ้าตัวตั้งเป้าที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดในเกมวันเสาร์นี้ ขณะที่ฝั่งผู้มาเยือน นิโกล่าส์ เปเป้ คาดหวังที่จะทำผลงานเลียนแบบสตาร์ชาวอียิปต์ ด้วยการระเบิดฟอร์มในแมตช์สุดยิ่งใหญ่ที่สนามแอนฟิลด์
ดาวเตะชาวไอวอรี่ โคสต์ ซึ่งเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์อาร์เซน่อล มีสถิติที่ค่อนข้างน่ากลัวกับฤดูกาลสุดท้ายที่ค้าแข้งให้ลีลล์ เพราะเล่นได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่าพอๆ กับ "บังโม" ตอนที่เล่นให้ โรม่า ในซีซั่นสุดท้ายก่อนจะย้ายมาอยู่กับ "หงส์แดง"
สำหรับซีซั่นสุดท้ายกับ "หมาป่าเหลืองแดง" นั้น ซาลาห์ ซัดไป 15 ประตู กับ 11 แอสซิสต์จาก 26 ประตูที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกัลโช่ เซเรีย อา หรือเฉลี่ยแล้วในทุกๆ 95.6 นาทีจะมี 1 ประตู ขณะที่ เปเป้ ยิงประตูได้ 22 ลูกและ 11 แอสซิสต์จาก 33 ประตูที่มีส่วนเกี่ยวข้องตอนเล่นให้ ลีลล์ ฤดูกาลสุดท้ายโดยเฉลี่ยแล้วทุกๆ 100.8 นาทีจะมี 1 ประตู
ขณะที่หากเปรียบเทียบในเรื่องของสไตล์การเล่นระหว่างทั้งคู่ บางที เปเป้ มีสถิติที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เพราะมีความพยายามในการกระชากลากเลื้อย 213 ครั้ง เหนือกว่า ซาลาห์ ที่ทำได้ 70 ครั้ง และได้ฟาวล์ 108 ครั้ง ส่วน "บังโม" 26 ครั้ง
ฉะนั้น อาร์เซน่อล คงคาดหวังที่จะเห็น เปเป้ สามารถนำฟอร์มสุดยอดของเล่นตอนที่เล่นให้ ลีลล์ มาใช้ในเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่งนั่นจะทำให้ อาร์เซน่อล ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นทั้งในเกมกับ ลิเวอร์พูล และหลายๆ เกมในฤดูกาลปัจจุบัน
สถิติ เฮด ทู เฮด
- ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ อาร์เซน่อล ในการพบกัน 8 แมตช์หลังสุด
- อาร์เซน่อลสะกดคำว่าชนะไม่เป็นในเกมลีก 6 แมตช์หลังสุดที่แอนฟิลด์ และยังเสียประตูอย่างน้อย 2 ลูกในทุกๆ แมตช์ที่ปะทะแข้งกัน (เสีย 22 ประตู)
- นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก นั้น เกมระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล เป็นคู่ที่ยิงประตูรวมมากที่สุดถึง 155 ประตูจากการปะทะกัน 54 เกม แถมยังมีสถิติทำแฮตทริกได้ถึง 6 ครั้ง
- 12 เกมหลังสุดระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ อาร์เซน่อล จากการแข่งขันทุกรายการยิงประตูระเบิดเถิดเทิงถึง 53 ลูกเฉลี่ยแล้วประมาณ 4.4 ประตูต่อเกม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
มีแต่คำชม!คล็อปป์ชูคูตินโญ่เหมือนตำนานยูเว่
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางคนใหม่ของ บาเยิร์น มิวนิค สามารถตัดเข้ากลางแล้วยิงได้ดีเหมือนกับ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ตำนานดาวเตะชาวอิตาเลียน พร้อมชี้ ถ้าเกิด คูตินโญ่ ปรับตัวกับ บาเยิร์น ได้ เขาก็จะไปรุ่งกับ "เสือใต้" ชัวร์อลังการ!ลิเวอร์พูลขยายแอนฟิลด์รองรับแฟนกว่า60,000ที่นั่ง
ลิเวอร์พูล มุ่งมั่นที่จะสร้างความเกรียงไกรเทียบเท่ากับบรรดาทีมชั้นนำในอังกฤษ โดยเตรียมที่จะปรับปรุงสนามแอนฟิลด์ ให้มีความจุมากขึ้นกว่า 60,000 ที่นั่ง โดยเหตุผลเพื่อรองรับความต้องการของคอลูกหนังที่อยากเข้าชมผลงานของ "หงส์แดง" ที่นับวันยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณอาจแซงแมนยู!ลิเวอร์พูลจ่อเซ็นไนกี้ผลิตชุดแข่ง
ลิเวอร์พูล ใกล้ที่จะเซ็นสัญญากับ ไนกี้ บริษัทผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกเป็นผู้ผลิตชุดแข่ง โดยข้อเสนอมูลค่าสูงจนอาจจะทำให้ "หงส์แดง" เป็นทีมที่ได้เงินค่าสปอนเซอร์ด้านชุดแข่งสูงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วย ตามรายงานของ ฟอร์บส์ สื่อด้านการเงินชื่อดังจะแม่นอีกไหม?โอเว่นฟันธงเกมแมนยู-ลิเวอร์พูล
โชว์แม่นดั่งมีตาทิพย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุด ไมเคิ่ล โอเว่น ขอสวมบทพ่อหมอทำนายผล แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์