“เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลเมคเกอร์ทีมชาติไทยเปิดใจก่อนลงรับใช้ชาติสู้ศึกคัดบอลโลกเปิดบ้านรับเวียดนาม วันที่ 5 ก.ย.นี้ ย้ำชัดเวียดนามเขาตั้งใจมาเอาชนะไทยให้ได้ เรื่องโค้ชนิชิโนะส่วนตัวมองว่าต้องให้เวลาเขาปรับตัวเข้ากับผู้เล่น เช่นกันทุกคนก็ต้องปรับตัวเข้ากับโค้ชด้วย มันจะได้เป็นทีมเวิร์ค

ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองกลางทีมชาติไทยของทีมคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในศึกเจลีก ยืนยันว่า การพ่ายแพ้ต่อเวียดนาม ครั้งล่าสุด ในศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ถือเป็นแรงผลักดันให้เราจะเอาชนะให้ได้ในครั้งนี้

ครั้งล่าสุดที่ช้างศึก พบกับ เวียดนาม เป็น ฝ่ายหลังที่เฉือนชนะไป 1-0 ในการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

“ดีใจและก็ภูมิใจครับ ที่ได้เจอกับโค้ช, สตาฟฟ์โค้ช และก็เพื่อนๆทุกคน ผมว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน” ชนาธิป กล่าว
“(เรื่องการเดินทาง) ผมอาจจะไม่เหนื่อยเท่าพี่ตอง (กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์) แต่ว่าทั่วโลก นักเตะที่ต้องเดินทางข้ามประเทศ ก็ต้องดูแลตัวเอง ดูแลร่างกาย ก็ต้องมีวินัย ไม่ต่างกัน ผมเป็นคนไทย ฟุตบอลเป็นกีฬามีแพ้ มีชนะ เราก็มีวันที่แพ้ และชนะ แต่วันที่เราแพ้ ก็เก็บเป็นแรงผลักดัน ให้เราพยายามเอาชนะเขาในวันข้างหน้า”
“จุดแข็งของเวียดนาม ก็น่าจะเป็นเรื่องทีมเวิร์ค มีความดุดัน กระหายที่อยากชนะไทย”
“สำหรับผมโค้ชญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องวินัย ผมเชื่อมั่นในตัวโค้ช ต้องให้เวลาเขาเรียนรู้กับนักเตะ เพราะเขามีเวลาค่อนข้างน้อย เราเองก็ต้องการเรียนรู้จากเขา ไม่ใช่แค่ผม แต่คือทุกคน เราต้องเดินเข้าหากันตรงกลาง ฟุตบอลเล่นเป็นทีม การจะทำความเข้าใจกันในระยะเวลาที่น้อย เราต้องมีสมาธิและวินัย ผมคิดว่ามันเป็นผลดีกับพวกเรา ผมรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมงานกับโค้ชนิชิโนะ ผมคิดว่าเขาทำฟุตบอลสมัยใหม่ เพรสซิ่งไว คิดไว ทำไว และเล่นเป็นทีม”

“เกมนี้เป็นการเล่นในบ้าน แฟนบอลคาดหวังถือเป็นสิ่งที่รู้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้เราแพ้มา เราอยากชนะก็ต้องใส่ความกระหาย เล่นในบ้านเราต้องเล่นดุดัน และเล่นเพื่อแฟนบอลให้ได้”
สำหรับ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 วันที่ 5 กันยายน 2562 เวลา 19.00 น. ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ต่อด้วยบุกเยือน ทีมชาติอินโดนีเซีย วันที่ 10 กันยายน เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32