สมาคมฟุตบอลจีน ระบุ ต่อไปนี้ กุส ฮิดดิ้งค์ จะไม่ได้มีหน้าที่คุมทีมชาติจีนรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีอีกต่อไป โดยยังไม่ชัวร์ว่ามันเป็นการปลดหรือลาออก ซึ่งว่ากันว่าสมาคมลูกหนังของแดนมังกรไม่ปลื้ม ฮิดดิ้งค์ มาพักหนึ่งแล้ว ส่วนเกมสุดท้ายของ ฮิดดิ้งค์ ในการทำงานกับทีมชาติรุ่นเด็กของจีนก็คือนัดที่แพ้ เวียดนาม
    สมาคมฟุตบอลจีน (ซีเอฟเอ) ประกาศว่า กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือชื่อดัง ไม่ได้เป็นนายใหญ่ให้ทีมชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีอีกต่อไปแล้ว หลังจากนัดล่าสุดเขาพาทีมแพ้ทีมชาติเวียดนามรุ่นเดียวกัน 0-2 คาบ้านของตัวเอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา

    เดิมที ฮิดดิ้งค์ เริ่มงานกับ ซีเอฟเอ ในฐานะกุนซือทีมชาติจีน รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปีก่อน และพอถึงต้นปีนี้เขาก็ได้รับงานคุมทีมรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีอีก โดยภารกิจของเขาคือการพาทีมทำผลงานให้ดีในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งทวีปเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ประจำปี 2020 (เอเอฟซี ยู-23) ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ เพื่อคว้าสิทธิ์เข้าแข่ง โอลิมปิก เกมส์ ในปีเดียวกันให้ได้

    ที่จริง ฮิดดิ้งค์ ก็สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึก เอเอฟซี ยู-23 ได้สำเร็จ หลังจากเป็นแชมป์ของรอบคัดเลือก กลุ่ม เจ แต่มันก็ไม่ได้เป็นผลงานที่น่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะพวกเขาเป็นแชมป์จากการมีแต้มเท่ากับ มาเลเซีย โดยในกลุ่มนั้นพวกเขาเสมอกับ "เสือเหลือง" 2-2 ในนัดสุดท้าย เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ มีข่าวลือว่า ซีเอฟเอ ไม่พอใจในตัว ฮิดดิ้งค์ ในเรื่องทัศนคติและการตอบคำถามกับสื่อของเขามาพักหนึ่งแล้ว  ซึ่งการโดน เวียดนาม บุกมาเผาเครื่องคาบ้านเมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ก็กลายเป็นเกมสุดท้ายของ ฮิดดิ้งค์ ในฐานะกุนซือทีมรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีของจีน โดยไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาโดนปลด หรือลาออกจากตำแหน่งเอง ขณะที่ เฮ่า เหว่ย กุนซือทีมหญิงของทีมชาติจีน ก็จะได้เข้ามาคุมทีมรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีต่อจาก ฮิดดิ้งค์

    สำหรับทีมชาติเวียดนาม รุ่นอายุไม่เกิน 22 ปีนั้น อยู่ภายใต้การทำทีมของ ปาร์ค ฮัง-ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ที่คุมทีมชุดใหญ่ของทัพ "ดาวทอง" เช่นกัน ซึ่งที่จริง ปาร์ค ก็เคยเป็นหนึ่งในผู้ช่วยของ ฮิดดิ้งค์ ในตอนที่กุนซือชาวดัตช์คุมทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดที่ได้อันดับ 4 ของศึก ฟุตบอลโลก 2002 ด้วย