หลังจากมีการระบุแล้วว่า ลิเวอร์พูล จะลงเล่นเกม คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศกับ แอสตัน วิลล่า ตามโปรแกรมเดิม ล่าสุด เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ "หงส์แดง" ก็ยอมรับว่าทีมของตนต้องจำใจเลือกแบบนี้ เพราะโดนกดดันจากหลายๆ ประเด็น พร้อมหวังว่าคนที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาเรื่องโปรแกรมการแข่งขันจนทำให้มันไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก
    เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าทีมของตนโดนกดดันจากหลายๆ ประเด็น โดยเฉพาะการที่ไม่อยากมีปัญหากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ อิงลิช ฟุตบอล ลีก (อีเอฟแอล) จนทำให้จำเป็นต้องยอมเตะเกม คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศกับ แอสตัน วิลล่า ในวันอังคารที่ 17 ธันวาคมนี้ ด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่

    ในรอบ 4 ของศึก คาราบาว คัพ เมื่อวันพุธที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้น ลิเวอร์พูล ผ่านรอบ 4 ของศึก คาราบาว คัพ มาได้ จากการชนะ อาร์เซน่อล ในช่วงดวลจุดโทษ แต่ทันทีที่จบเกมนัดดังกล่าว คล็อปป์ ก็ออกมาขู่ว่าทีมของตนอาจจะจำเป็นต้องถอนตัวจากรายการนี้ นอกจากว่า อีเอฟแอล ซึ่งเป็นฝ่ายจัดการแข่งขัน คาราบาว คัพ จะหาวันแข่งใหม่ที่เหมาะสมให้กับ "หงส์แดง" ได้ เนื่องจาก คาราบาว คัพ วางแผนที่จะเตะรอบ 8 ทีมสุดท้ายกันในช่วงสัปดาห์ของวันที่ 16 ธันวาคม (หมายถึงเตะในวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์นั้น) แต่ในช่วงนั้น ลิเวอร์พูล มีคิวแข่งรายการชิงแชมป์สโมสรโลกที่ประเทศกาตาร์พอดี

    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามันก็มีการหาทางออกถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด จนในที่สุด ลิเวอร์พูล ก็ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่าพวกเขาจะลงเล่นเกม คาราบาว คัพ ตามโปรแกรมเดิม โดยจะจัดทีมคนละชุดลงเล่นทั้งรายการ คาราบาว คัพ และศึกชิงแชมป์สโมสรโลก

    หลังจากถูกถามว่า ลิเวอร์พูล โดนกดดันให้ต้องยอมรับสถานการณ์แบบนี้หรือไม่นั้น คล็อปป์ ก็ตอบว่า "ก็ประมาณนั้นแหละ คุณอยากมีปัญหากับ ฟีฟ่า งั้นเหรอ ? คุณย่อมไม่อยากมีปัญหากับพวกเขาอยู่แล้ว คุณอยากมีปัญหากับ อีเอฟแอล รึเปล่า ? คุณก็คงอาจจะไม่อยากมีปัญหากับพวกเขาเหมือนกัน! เราเคารพรายการนี้ มันอาจจะฟังดูเหมือนว่าเราไม่ชอบรายการ คาราบาว คัพ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย"

    กุนซือชาวเยอรมันกระตุ้นให้ อีเอฟแอล และสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) วางแผนเรื่องตารางการแข่งขันให้ดีขึ้นในอนาคตด้วย เพื่อที่จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก "ผมคิดว่าคุณควรจะต้องคิดเผื่อว่ามันอาจจะเกิดสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มเตะกันแล้ว เราทำแบบเดิมกันทุกปี หลายคนคิดว่ามันน่าตลกที่มีทีมที่ต้องลงเล่นถึง 5 เกมในระยะเวลาแค่ 3 วัน"

    "สิ่งที่ผมไม่ชอบ (ในศึก คาราบาว คัพ) ก็คือในรอบรองชนะเลิศมันต้องเตะกันแบบเหย้า-เยือน ผมไม่เข้าใจเลยว่ามันจะทำแบบนั้นไปทำไมกัน และผมก็ไม่ชอบให้มันมีโปรแกรมแบบนั้นในช่วงที่มีเกมให้ลงเล่นต่อเนื่อง"

    "ที่จริงมันไม่ใช่แค่ คาราบาว คัพ หรอกนะที่เป็นปัญหา ถ้าคุณต้องลงเล่นนัดแข่งใหม่ใน เอฟเอ คัพ และไปถึงนัดชิงชนะเลิศของ คาราบาว คัพ ได้แล้วน่ะ มันก็จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากๆ ซึ่งผมก็ไม่ชอบให้เกม เอฟเอ คัพ มีการแข่งใหม่เหมือนกัน"

    "เมื่อราว 3 ปีก่อนเราก็เคยเจอสถานการณ์แบบที่ว่านี้มาแล้วในตอนที่เราเจอกับ เวสต์แฮม และหลายคนที่นั่งดูเกมอยู่หน้าจอโทรทัศน์ก็หวังว่าเราจะตกรอบ ในสถานการณ์แบบนั้นคุณทำได้เพียงหวังว่าจะมีบางคนลงไปเล่นได้ และทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่ที่จริงแล้วคุณไม่ควรจะต้องทำงานในสภาพนั้นเลย"