แฟนผีแดงกลับมาชื่นใจอีกครั้งเมื่อ แมนฯยูไนเต็ด ซิวชัยชนะ 2 เกมติดต่อกันในทุกรายการหลังเมื่อคืนที่ผ่านมาเปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน 3-1 เกมนี้มีประเด็นให้พูดถึงมากมายทั้งการประเดิมสนามของเจ้าหนูแบรนดอน วิลเลียมส์ รวมถึงฟอร์มที่จัดจ้านของแนวรุกผีแดง ไปดูประเด็นที่น่าสนใจในเกมนี้กัน
1.วิลเลียมส์แจ้งเกิด

    เมื่อ แอชลีย์ ยัง ถูกแบนเนื่องจากสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ จึงเป็นโอกาสที่เจ้าหนู แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ จะได้ออกสตาร์ทตัวจริงเกมแรกในพรีเมียร์ลีกเสียทีหลังจากก่อนหน้านี้เคยโชว์ฟอร์มน่าประทับใจในฟุตบอลถ้วย เกมเมื่อคืนที่ผ่านมาแบ็กซ้ายวัย 19 ปีถือว่าทำผลงานยอดเยี่ยม แม้จะมีจังหวะฟาวล์โฉ่งฉ่างจนเสียใบเหลือง แต่ในเรื่องการป้องกันเกมรับและการเติมเกมรุกทำได้ดีในหลายๆครั้ง ฟอร์มแบบนี้มีลุ้นเบียดตำแหน่งกับ แอชลีย์ ยัง ได้เลย แต่ต้องรอดูว่า โซลชา จะให้โอกาส วิลเลียมส์ ลงสนามต่อเนื่องหรือไม่

    สถิติเกมนี้ของ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์
    เลี้ยงผ่านคู่แข่งสำเร็จ 100%
    ส่งบอลสำเร็จ 88%
    สัมผัสบอล 55
    แท็กเกิ้ล 4
    ครอสบอล 2
    สร้างโอกาสยิงประตู 1
    ยิงตรงกรอบ 1
    ตัดบอล 1

2.เฟร็ด-หนูแม็ค กองกลางสุดลงตัว

    หลังจากที่ โซลชา พยายามควานหาคู่มิดฟิลด์ที่ลงตัวในช่วงต้นซีซั่นเนื่องจาก ปอล ป็อกบา ได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าคู่ที่เพอร์เฟคที่สุดคงจะเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และเฟร็ด ซึ่งเกมเมื่อคืนที่ผ่านทั้งสองแสดงให้เห็นว่า โซลชา เลือกไม่ผิดแต่อย่างใด

    แม็คโทมิเนย์ แข็งแกร่งมากในแดนกลาง ช่วงครึ่งแรกมีหลายครั้งที่เจ้าตัวต้องปะทะแดนกลางกับคู่แข่งแต่ทว่าเขาสามารถครองบอลและพาบอลขึ้นหน้าหนีตัวประกบได้หน้าตาเฉย แถมยังมีส่วนกับการทำประตูที่สองของเกมด้วย ขณะที่ เฟร็ด ยิ่งเล่นยิ่งดีขึ้น เมื่อคืนเป็นเกมที่เขาจ่ายบอลขึ้นหน้าสวยๆหลายลูกโดยเฉพาะการแทงบอลจนเป็นที่มาของประตูที่ 3 เห็นฟอร์มของทั้งสองแล้วเป็นคำถามว่าหาก ปอล ป็อกบา กลับมาเขาจะต้องนั่งสำรองหรือไม่?

3.มาร์กซิยาลสร้างความแตกต่าง

    เป็นอีกหนึ่งคนที่ทำผลงานในเกมนี้ได้ดีเช่นกัน อองโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาออกสตาร์ทตัวจริงเป็นเกมแรกใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นับตั้งแต่การพ่ายแพ้คาบ้านต่อ คริสตัล พาเลซ เมื่อต้นซีซั่น  ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าการมี มาร์กซิยาล กับไม่มีค่อนข้างต่างกันชัดเจน แม้เกมนี้จะไม่มีชื่อทำประตูแต่ทว่าเขามีส่วนในการช่วยดึงตัวประกบจนเกิดพื้นที่ว่างให้เพื่อนร่วมทีมทำเกมรุก และยังลงมารับบอลในหลายๆตำแหน่งเพื่อช่วยทำเกมสวนกลับ นอกจากนี้เจ้าตัวยังทำสองแอสซิสต์ให้ อันเดรียส เปเรยร่า และมาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูด้วย เรียกได้ว่าเกมนี้กองหลังไบรท์ตันแทบตามเกมของ มาร์กซิยาล ไม่ทัน

4.นกนางนวลเจ๊งทีมเยือน

    ไบรท์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ เกรแฮม พอตเตอร์ มีสถิติในบ้านกับนอกบ้านค่อนข้างต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งความจริงก็เล่นเรื่องปกติของทีมระดับนี้อยู่แล้ว โดยสามเกมหลังสุดของพวกเขาใน เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด แถมยิงประตูรวมถึง 8 ประตู และเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อออกมานอกบ้านแล้ว เกมพ่ายผีแดงกลายเป็นการปราชัย 4 ครั้งจากการเป็นทีมเยือน 5 ครั้งหลังสุดในลีก (อีกหนึ่งนัดคือเสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 0-0) ดังนั้นพวกเขาต้องปรับปรุงฟอร์มเกมเยือนโดยด่วน

5.แรชฟอร์ดทั้งฮีโร่และซีโร่

    มาร์คัส แรชฟอร์ด ออสตาร์ทในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายซึ่งเขาสามารถปั่นป่วนกองหลังของ ไบรท์ตัน ได้แทบทั้งแมตช์ แบ็กขวาอย่าง มาร์ติน มอนโตย่า เจอพาทัวร์อยู่หลายครั้ง  กองหน้าทีมชาติอังกฤษประสานงานกับ มาร์กซิยาล ได้ดีจนกระทั่งมายิงประตูในเกมนี้ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามหลังจากทีมได้ประตูที่ 3 พวกเขาก็ค่อนข้างมีปัญหากับการตามหาประตูที่ 4 โดย แรชฟอร์ด มีโอกาสทองฝังเพชรชนิดประตูโล่งๆแต่เขาดันยิงพลาดไปแบบเหลือเชื่อ แถมยังมีอีกหลายครั้งที่เจ้าตัวน่าทำประตูได้แต่ก็ใช้โอกาสเปลือง หากเมื่อคืนเขาเปลี่ยนโอกาสเหล่านี้เป็นประตูได้จะถือเป็นค่ำคืนที่เพอร์เฟคสำหรับ แรชฟอร์ด ดังนั้นเจ้าตัวคงต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไป