ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ลอนดอนเดือด! ปืน10คนไม่ท้อตามเจ๊าเชลซี2ครั้ง2คราสุดดราม่า

ลอนดอนเดือด! ปืน10คนไม่ท้อตามเจ๊าเชลซี2ครั้ง2คราสุดดราม่า

Posted 22/01/2020 by siamsport

อาร์เซน่อล แม้โอกาสยิงจะแค่ 2 ครั้งในเกมแต่ทำเรื่องเหลือเชื่อเมื่อลั่นไกไล่ตีเสมอเจ้าถิ่น เชลซี 2-2 ได้สำเร็จ ทั้งที่เหลือแค่ 10 คนหลัง ดาวิด ลุยซ์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ก่อนจะบุกแบ่งแต้มออกมาชนิดสุดมันส์ดราม่า ในเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

    "ลอนดอนดาร์บี้แมตช์" ระหว่าง เชลซี อันดับ 4 ที่เกมล่าสุดสะดุดบุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล 0-1 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล อันดับ 10 ของตารางที่ผลงานล่าสุดในลีกทำได้แค่เฝ้ารังแบ่งแต้มกับ เชฟฯยูไนเต็ด เท่านั้น

     ออกสตาร์ทครึ่งแรก แค่นาทีที่ 6 "สิงห์บลูส์" ได้ลุ้นก่อนเลย หลังบอลขึ้นทางขวา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย จ่ายเข้ากลางต่อให้ อัซปิลิกวยต้า ก่อนที่จะไหลนิ่มๆให้ มาเตโอ โควาซิช วิ่งมาซัดเต็มแรงแต่ไปติดบล็อคของมุสคาฟี่ที่ช่วยทัพปืนไว้ได้

    นาที 10 บอลเตะมุมทางขวาของ เอเมอร์สัน เปิดลึกมาถึง อันเดรส คริสเตียนเซ่น ตั้งหัวโขกแต่บอลหลุดกรอบบออกไป

    เจ้าถิ่นโจมตีเข้าใส่อย่างหนัก นาที 15 บอลครอสจากขวามาเสาไกลให้ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โขกชงเข้ากลางให้ แทมมี่ อบราฮัม โหม่งจ่อๆแต่บอลไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ เซฟไว้ได้

    นาที 26 แนวรับของปืนใหญ่มาเล่นผิดพลาดหลัง มุสตาฟี่ จ่ายคืนหลังเลโน่สั้นเกินไป แทมมี่ อบราฮัม ฉกบอลแตะหลบ เลโน่ ไปได้ทว่ามาโดน ดาวิด ลุยซ์ เข้าฟาวล์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที พร้อมกับชูใบแดงไล่ ลุยซ์ ออกจากสนาม ก่อนที่ จอร์จิ
นโญ่ จะยิงไปทางขวามือตัวเองเข้าประตูไปในนาที 28 ให้ "สิงห์บลูส์" ออกนำ อาร์เซน่อล ที่เหลือแค่ 10 คน 1-0

    ลูกทีมของ แลมพาร์ด โจมตีไอ้ปืนใหญ่ชนิดโงหัวไม่ขึ้น นาที 32 ก็องเต้ จ่ายต่อให้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย กดด้วยขวานอกกรอบเต็มแรงแต่ยังไม่ผ่านมือ แบร์นด์ เลโน่ เซฟช่วยทีมไว้อีก

     จังหวะได้ลุ้น เชลซี ยังมีมากกว่า คราวนี้ นาที 43 เอเมอร์สัน เปิดเตะมุมจากด้านซ้ายเข้าไปกลางประตู อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ขึ้นโขกได้สูงกว่าแต่กดไม่ลงบอลเหินคานออกไป

    จบครึ่งแรก เชลซี ขึ้นนำ อาร์เซน่อล ที่เหลือแค่ 10 คน 1-0

    ครึ่งหลังเริ่มมา เชลซี โจมตีทันทีเลย เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จ่ายเข้ามาให้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ยิงไปติดบล็อคแนวรับของไอ้ปืนใหญ่

    นาที 55 อาร์เตต้า แก้เกมอีกเปลี่ยนเอา มัตเตโอ เก็นดูซี่ ลงไปเล่นแทน เมซุต โอซิล

    นาที 63 อาร์เซน่อลมาทวงประตูตีเสมอ 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ "สิงห์บลูส์" เปิดเตะมุมเข้ามาก่อนโดน ชโคดราน มุสตาฟี่ เคลียร์บอลออกมาเข้าทาง กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ พาบอลตะลุยเดี่ยวกว่า 70 หลาหน้าบ้านตัวเอง เลี้ยงผ่าน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ลื่นล้มพอดีก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวาผ่านมือ เกปา เข้าไปอย่างเด็ดขาด

    นาที 69 "สิงห์บลูส์" เปลี่ยนตัวบ้างถอดเอา เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ออกแล้วส่ง เมสัน เมาน์ท ลงเล่นแทน

    นาที 76 เจ้าบ้านได้ลุ้นจากฟรีคิกทางด้านซ้าย วิลเลี่ยน เปิดบอลโค้งเข้ามากลางประตู แทมมี่ อบราฮัม หนีตัวประกบเทกตัวโขกแต่บอลไปตรงตัว เลโน่ รับไว้ได้สบาย

    นาที 84 เจ้าถิ่นหลังบดอย่างหนัก มาได้ประตูแซงขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะเล่นคอนเนอร์สั้นทางด้านซ้าย คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ครอสไปเสาแรกให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า สอดเข้ามาแปด้วยขวาเปลี่ยนทางเสียบเสาแรกเข้าไป

    ทว่า นาที 87 อาร์เซน่อลทำเรื่องดราม่าอีกจนได้ มาไล่ตีเสมอ 2-2 ได้สำเร็จ หลัง ลูกัส ตอร์เรยร่า จากบอลออกซ้ายให้ เอคตอร์ เบเยริน ก่อนโยกเข้ากลางในกรอบประตู แล้วปั่นด้วยซ้ายข้างไม่ถนัดบอลพุ่งหนีมือ เกปา เสียบเสาไกลอย่างงดงาม

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เชลซี เสมอกับ อาร์เซน่อล 10 คน ไปได้อย่างสนุก 2-2 แบ่งแต้มกันไปอย่างสนุก

       รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        เชลซี (4-3-3) : เกปา อาร์รีซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตียนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เอเมอร์สัน - เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (เมสัน เมาน์ท น.69), จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาซิช (รอสส์ บาร์คลี่ย์ น.66) - คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, แทมมี่ อบราฮัม, วิลเลี่ยน (มิชี่ บาตชูอายี่ น.79)

        ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด

        อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เอคตอร์ เบเยริน, ชโคดราน มุสตาฟี่, ดาวิด ลุยซ์ (ใบแดง น.26), บูคาโย่ ซาก้า - ลูกัส ตอร์เรยร่า, กรานิต ชาคา - นิโกล่าส์ เปเป้ (ร็อบ โฮลดิ้ง น.81), เมซุต โอซิล (มัตเตโอ เก็นดูซี่ น.55), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ (เจเซ็ป วิลล็อค น.90+1) - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์

        ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

        ผู้ตัดสิน : สจ๊วร์ต แอตเวลล์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »