สำหรับตอนนี้ชื่อของ อดาม่า ตราโอเร่ ปีกกล้ามโต วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ น่าจะได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่มากมาย หลังทำผลงานได้เด็ดสะระตี่ให้กับ "หมาป่า" ในฤดูกาลนี้ และในแมตช์ล่าสุดที่ต้นสังกัดแพ้ ลิเวอร์พูล แต่เจ้าตัวแสดงให้โลกได้เห็นแล้วว่าความแข็งแกร่งและความเร็วของเขามันยากที่จะรับมือได้จริงๆ
    เกมที่โมลินิวซ์ กราวน์ด ต้องบอกว่านักเตะของ "หงส์แดง" ที่ต้องเจอกับงานยากลำบากที่สุดก็หนีไม่พ้น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายชาวสกอตแลนด์ ที่มีหน้าที่จัดการกับ ตราโอเร่ โดยตรง และงานนี้กัปตันทีมชาติสกอตแลนด์ ต้องเปิดตำรายุทธทั่วทุกเล่นในพิภพนี้ เพื่อจัดการความร้อนแรงของ ดาวเตะชาวสแปนิช
 

 
    แน่นอนว่าต่อให้ "แอนดี้" ใช้ตำราพิชัยสงคราของซุนวู หรือกลยุทธ์ปราบศึกจากขงเบ้ง ก็ต้องบอกว่าแทบรากเลือดในยามที่ต้องดวลกับ ตราโอเร่ แบบตัวต่อตัว ขนาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่ว่าทั้งใหญ่ทั้งแกร่ง เวลาที่ปะทะกับ ปีกหุ่นนักกล้าม ถึงกับสะเทือนกายลงไปนอนดิ้นมาแล้ว
    ต้องยอมรับว่าในเกมปะทะ วูล์ฟส์ นั้น โรเบิร์ตสัน โดน ตราโอเร่ เล่นจนเปื่อย โดยเฉพาะในจังหวะที่คู่แข่งใช้ความเร็วสปีดหนี ทำให้ สตาร์แบ็กซ้ายเลือดวิสกี้ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากตัดฟาวล์บริเวณกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เพราะขืนปล่อยให้หลุดเข้าไปในเขตโทษ คงได้เจอผลลัพธ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้
    แน่นอนว่าการทำฟาวล์ดังกล่าวทำให้ โรเบิร์ตสัน โดน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ กรรมการในเกมนี้จัดการควักใบเหลืองทันที และนั่นทำให้ อดีตฟูลแบ็ก ฮัลล์ ซิตี้ กลายเป็นเหยื่อคนล่าสุดที่โดนลงทัณฑ์จากความแข็งแกร่งของ ตราโอเร่ ในซีซั่นนี้
 

 
    สำหรับตอนนี้ ตราโอเร่ กลายเป็นนักเตะโดนทำฟาวล์เยอะมากในพรีเมียร์ลีก นั่นเป็นผลสะท้อนที่แสดงให้เห็นว่าเขากลายเป็นอาวุธเด็ดของ วูล์ฟแฮมป์ตัน  และเป็นหนึ่งในผู้เล่นแนวรุกที่สุดอันตรายที่สุดในลีกเมืองผู้ดี ซึ่งทำให้แนวรับคู่แข่งต้องหวาดผวากันเลยทีเดียว
    แม้ว่าในเกมล่าสุด ลิเวอร์พูล จะบุกมาชนะ วูล์ฟส์ ถึงถิ่นก็ตาม แต่ผลงานของ ตราโอเร่ ทำให้บรรดานักวิเคราะห์เกมจากหลายสำนักยกย่องให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เลยทีเดียว เนื่องจากฟอร์มที่ทำให้ โรเบิร์ตสัน ต้องเจอกับงานสุดหิน จนแทบไม่มีโอกาสได้เติมเกมรุกให้ต้นสังกัด แถมยังมีส่วนแอสซิสต์งามหยดให้ ราอูล ฮิเมเนซ โหม่งตีเสมอด้วย
   
    จริงๆ แล้ว โรเบิร์ตสัน เป็นแค่หนึ่งใน 20 เหยื่อที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้ทำกับ ตราโอเร่ เพราะจะว่าไปแล้ว อดีตเด็กศูนย์เยาวชนลูกหนังลา มาเซีย เคยเจอเล่นงานอย่างหนักในแมตช์พบกับ สเปอร์ส เพราะเขาโดน 3 แข้ง "ไก่เดือยทอง" ได้แก่ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ดายเออร์ และ แฮร์รี่ เคน จัดหนัก และทั้งหมดก็โดนใบเหลืองเป็นการตักเตือน
 

 
    ขณะเดียวกันในเกมก่อนหน้านั้นก็มี 3 แข้งจาก ไบรท์ตัน ที่ถูกใบเหลืองเนื่องจากพยายามหยุดความแกร่งของ ตราโอเร่ ฉะนั้นหากมองในแง่ของการเรียกใบเหลือง ตอนนี้ ตราโอเร่ กลายเป็นนักเตะที่คู่แข่งต้องหาวิธีหยุดแบบผิดกติกาเพราะการทำฟาวล์แบบปกติมันเอาไม่อยู่จริงๆ
    ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ต้องออกโรงกล่าวยกย่อง ตราโอเร่  "เขาเป็นนักเตะที่เล่นด้วยไม่ได้แล้วในเวลานี้ มันไม่น่าเชื่อจริงๆ เขาเป็นสุดยอดนักเตะ มันไม่ได้มีแค่เขา แต่สำหรับเขาแล้วช่างยอดเยี่ยมจริงๆ"
    ขณะที่ เยโทร วิลเลมส์ แบ็กซ้าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เชิดชู ตราโอเร่ ว่าเป็นนักเตะที่รับมือได้ยากกว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงซูเปอร์สตาร์ของ ยูเวนตุส ซะอีก "หลายคนพูดกันว่าเขา (ตราโอเร่) เป็นคนที่เร็วที่สุดในโลกฟุตบอล และตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง"
    "ที่จริงผมก็อยากจะคิดว่าตัวเองเร็วพอตัวน่ะนะ อย่างน้อยผมก็คิดแบบนั้นในตอนที่ยังไม่ได้ดวลกับเขา! ผมเคยดวลกับ โรนัลโด้ ที่เร็วมากๆ เหมือนกันมาแล้ว แต่เขา (โรนัลโด้) ยังเร็วน้อยกว่าเลย แน่นอนว่าเขามีทักษะการเล่นที่ดีเหมือนกัน แต่บางครั้งการเจอกับนักเตะแบบนั้นมันก็รับมือได้ง่ายกว่านักเตะที่มีความเร็วสูง (แบบ ตราโอเร่)"
 

 
    ส่วนอันดับ 2 ในการเรียกใบเหลืองจากคู่แข่งก็คือ วิลฟรีด ซาฮา ปีกจอมพลิ้วของ คริสตัล พาเลซ เพราะเขาเรียกใบเหลืองจากคู่แข่งได้ถึง 19 ใบโดยเหตุผลสำคัญคงหนีไม่พ้นความเร็วปานจรวด ฉะนั้นวิธีเดียวที่จะหยุดเจ้าตัวก็ต้องทำฟาวล์เท่านั้น
    ขณะที่ แจ็ค กรีลิช กัปตันทีม "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า แม้จะไม่ได้มีความเร็วเท่ากับสองคนแรก แต่สามารถเรียกใบเหลืองได้ถึง 17 ใบ ด้าน แดเนี่ยล เจมส์ จาก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ใช่ย่อยเรียกใบเหลืองจากคู่แข่งได้ถึง 13 ใบกับซีซั่นแรกในพรีเมียร์ลีก
   
     นักเตะที่โดนทำฟาวล์และสามารถเรียกใบเหลืองมากที่สุดในฤดูกาลนี้
      
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019/2020   เรียกใบเหลืองจากการโดนทำฟาวล์
1. อดาม่า ตราโอเร่                     20
2. วิลฟรีด ซาฮา                        19
3. แจ็ค กรีลิช                            17
4. แดเนี่ยล เจมส์                        13
5. ริชาร์ลิสัน                              12
6. ดีโอโก้ โจต้า                          11
7. มิเกล อัลมิรอน                        11
8. แฮร์รี่ วิลสัน                            9
9. จอร์แดน อายิว                        9
10. วิลเลียน                               8