ทั้ง ป็อกบา และ แรมซี่ย์ ต่างก็เจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายกับต้นสังกัดของตัวเอง ป็อกบา โดนอาการบาดเจ็บตามเล่นงานอย่างต่อเนื่องจนฤดูกาลนี้เพิ่งได้ลงเล่นไปเพียง 8 นัดในทุกรายการ และมันก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆ ว่าเขาไม่มีความสุขกับ "ปีศาจแดง" แล้ว ส่วน แรมซี่ย์ หลังจากย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว เมื่อช่วงซัมเมอร์ ปีก่อน เขาก็ไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ทีมมากนัก โดยจนถึงตอนนี้เขาเพิ่งได้ลงเล่นไป 21 นัดในทุกรายการ

 แน่นอนว่าถ้าดูเฉพาะชื่อชั้นแล้วนั้น นี่ดูจะเป็นดีลที่ไม่คุ้มของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราาะชื่อเสียงของ ป็อกบา โด่งดังกว่าเยอะ แต่ถ้ามองตามฝีเท้าแล้วนั้น มันจะเป็นดีลที่คุ้มค่าสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด รึเปล่า ? ซึ่งเราจะมาตัดสินจากฟอร์มของ แรมซี่ย์ ในฤดูกาล 2018-19 ที่เขายังอยู่กับ อาร์เซน่อล เป็นหลัก เพราะมันเป็นซีซั่นที่เจ้าตัวยังได้ลงเล่นอยู่บ่อยพอตัว

 - เกมรับ
ด้วยความที่ส่วนใหญ่แล้ว แรมซี่ย์ ต้องรับบทบาทเป็นกองกลางตัวรุก ทำให้ปกติแล้วเขาไม่มีหน้าที่ที่จะต้องมาดูแลเรื่องเกมรับมากนัก อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นนักเตะจอมขยัน ทำให้บางครั้ง แรมซี่ย์ ก็มักจะวิ่งกลับมาช่วยเกมรับตรงกลางสนาม หรือในฝั่งของตัวเองเหมือนกัน

  ด้วยเหตุนี้ ในฤดูกาล 2018-19 แรมซี่ย์ จึงมีค่าเฉลี่ยการเข้าสกัดโดนบอล 1.2 ครั้งต่อเกม ซึ่งถือว่าสูงเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะเขามีจังหวะพยายามเข้าสกัดเฉลี่ยแล้ว 1.9 ครั้งต่อนัดด้วยกัน ถ้าจะมีจุดที่น่าผิดหวังก็คงเป็นการตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งเข้าสกัด เพราะในซีซั่น 2018-19 เขามีค่าเฉลี่ยด้านนี่เพียง 0.3 ครั้งต่อเกม น้อยกว่าฤดูกาล 2017-18 ซึ่งอยู่ที่ 1 ครั้งต่อนัดในระดับหนึ่ง

 - การทำประตู
ในฤดูกาล 2018-19 แรมซี่ย์ มีจังหวะพยายามทำประตูในลีกตลอดทั้งฤดูกาล 33 ครั้ง ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 ที่มีจังหวะยิงในลีก 10 หน แต่ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงดาวรุ่งคนหนึ่งเท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าจะบอกว่าฤดูกาลที่แล้วเป็นซีซั่นที่ แรมซี่ย์ มีจังหวะยิงในลีกน้อยที่สุด นับตั้งแต่เป็นนักเตะตัวหลักในทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล ก็คงไม่ผิดนัก

  จากโอกาสทำประตูทั้งหมด 33 ครั้ง แรมซี่ย์ เปลี่ยนให้มันเป็นประตูได้ 4 หน ซึ่งทั้ง 4 ลูกที่ว่าก็เกิดขึ้นในกรอบเขตโทษทั้งหมด และมันก็เป็นการตอกย้ำว่า แรมซี่ย์ ไม่ค่อยมีความสามารถในการทำประตูมากเท่าไหร่ อย่างซีซั่นที่เขายิงในลีกได้เยอะที่สุดยังเป็นฤดูกาล 2013-14 ที่ทำไปเพียง 10 ประตูเท่านั้น

 - การผ่านบอล
แม้ว่าเขาจะเคยโดนแฟนบอล อาร์เซน่อล บางส่วนตำหนิเรื่องการมีส่วนร่วมกับเกมบุก แต่ที่จริงแล้ว แรมซี่ย์ ก็สามารถทำผลงานในด้านการผ่านบอลได้ดีในระดับหนึ่ง โดยในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ อาร์เซน่อล เจ้าตัวมีค่าเฉลี่ยผ่านบอลในลีกเข้าเป้าถึง 82 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน จากจำนวนการผ่านบอลทั้งหมด 773 ครั้ง

  ในจำนวนนั้นมีอยู่ 0.9 ครั้งต่อเกมที่เป็นการผ่านบอลจังหวะสำคัญ และมันก็ทำให้ในฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ อาร์เซน่อล แรมซี่ย์ สามารถทำแอสซิสต์ในลีกได้ 6 ครั้ง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจในระดับหนึ่งเมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าเขาได้เป็นตัวจริงในลีกเพียง 14 เกม

  สรุป : แรมซี่ย์ อาจจะดีไม่พอสำหรับหน้าที่การทำประตู แต่การผ่านบอลของเขายังอยู่ในขั้นที่พอจะฝากผีฝากไข้ได้ ถึงแม้เขาจะไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงมาจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส หรือแม้กระทั่ง เฟร็ด ได้ แต่เขาก็จะเป็นอะไหล่ที่ดีสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด และทำให้การแลกกับ ป็อกบา ไม่ใช่ตัวเลือกที่แย่มากนัก