"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไม่มีทางเลือกต้องคว้าชัยให้ได้สถานเดียวคาดว่าจะส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงตัวจริงโดยลุ้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปิดสกอร์ เกมรับ "ตราหมี" แอต.มาดริด ที่ขอแค่ผลเสมอก็จะเข้ารอบต่อไปทันที ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ 11 มี.ค. ศกนี้ (เวลา : 03.00 น.)
ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย (นัดสอง)
วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563 (เวลา : 03.00 น.)
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)   -   แอต.มาดริด (สเปน)
(ผลนัดแรก : แอตเลติโก มาดริด ชนะ 1-0)

สนาม : แอนฟิลด์

    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมแพ้แอตเลติโก มาดริด 0-1 ในนัดแรก ก่อนชนะบอร์นมัธ 2-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 3 เกม

    ความพร้อมเกมนี้ คล็อปป์ยังไม่มี อลิสซง เบ็คเกอร์ ประตูมือ 1 ที่เจ็บสะโพก ทำให้มือ 2 อย่างอาเดรียน ได้ทำหน้าที่ต่อไป

    ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่พลาดเกมล่าสุด เพราะสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ต้องรอทดสอบความฟิต คาดว่าจะเข็นลงเล่นแน่ เพราะเกมนี้สำคัญมาก

    แต่แกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

    ด้าน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์แอตเลติโก มาดริด พาทีมเบียดชนะลิเวอร์พูล 1-0 ในนัดแรก ก่อนเสมอเซบีย่า 2-2 ในเกมลีกล่าสุด ทำให้ไม่แพ้มา 5 เกมแล้ว

    อย่างไรก็ตามโอกาสลุ้นแชมป์ลาลีกในฤดูกาลนี้ของทัพตราหมีแทบจะริบหรี่เต็มที

    ความพร้อมเกมนี้ "เอล โชโล่" จะได้ โธมัส ปาร์เตย์ ห้องเครื่องตัวหลักพ้นโทษแบนในลีกกลับมาเสริม แต่ต้องลุ้นความพร้อมของ โตมาส์ เลอมาร์ และ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ไม่สมบูรณ์

    ในขณะที่ คีแรน ทริปเปียร์ หายจากอาการบาดเจ็บแล้ว พร้อมลงช่วยทีม

    นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม บรรดาตัวหลักขาประจำอย่าง ยาน โอบลัค, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, โกเก้, ซาอูล ญีเกซ และ อังเคล กอร์เรอา ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ

รายชื่อผู้เล้นที่คาดว่าจะลงสนาม
       
    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อาเดรียน - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่ 
    เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์

    แอตเลติโก มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค - คีแรน ทริพเพียร์, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, เรนาน โลดี้ - ซาอูล ญีเกซ, โธมัส ปาร์เตย์, โกเก้, ชูเอา เฟลิกซ์ - อังเคล กอร์เรอา, อัลบาโร่ โมราต้า
    เทรนเนอร์ : ดีเอโก้ ซิเมโอเน่   

    ผู้ตัดสิน : ดานนี่ มัคเคลี่ (ฮอลแลนด์)

เกร็ดน่าสนใจ
- ลิเวอร์พูล ผ่านรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลยุโรปตลอด 11 หนล่าสุด หรือนับตั้งแต่แพ้ดวลจุดโทษ เบซิคตัส (1-0 เหย้า, 0-1 เยือน) ในรอบ 32 ทีมสุดท้าย ยูโรปา ลีก 2014-15
- ขณะเดียวกัน ทีมหงส์แดงยังมีความทรงจำหอมหวานจากการเจอทีมสเปนหนล่าสุด เมื่อพลิกนรกรัว บาร์เซโลน่า 4-0 หลังจากเลกแรกออกไปแพ้ 0-3 ในรอบตัดเชือก แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นที่แล้วนี้เอง
- อย่างไรก็ตาม ผลปราชัยต่อ แอต.มาดริด ในเลกแรกส่งให้ ลิเวอร์พูล ทำสถิติชนะแค่ 2 จาก 11 นัดหลังที่เจอทีมสเปน (เสมอ 2 แพ้ 7)
- นับเฉพาะในรังแอนฟิลด์ ทีมหงส์แดงยังมีชัยเหนือคู่แข่งแดนกระทิงดุเพียง 6 จากทั้งหมด 18 เกม แต่ก็ชนะได้ถึง 4 ในรอบ 6 นัดล่าสุด
- ลิเวอร์พูล ยังพกสถิติไร้พ่ายเกมยุโรป 25 นัดรวดในรัง (ชนะ 18 เสมอ 7) หรือนับตั้งแต่พ่าย เรอัล มาดริด 0-3 ในรอบแบ่งกลุ่มเมื่อ 2014
- ด้าน แอต.มาดริด ชนะเกมเยือนแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ แค่หนเดียวเท่านั้นจาก 9 นัดหลัง (เสมอ 2 แพ้ 6)
- ส่วนสถิติเจอคู่แข่งจากอังกฤษนั้น ทีมตราหมีบุกชนะได้เพียง 2 จาก 13 ครั้ง โดยแพ้ไป 4 แต่ 3 ครั้งหลังสุดนั้นล้วนจบด้วยผล 1-1

ผลการพบกันที่ผ่านมา 
วัน/เดือน/ปี    รายการ        ผลการแข่งขัน
18/02/20         แชมเปี้ยนส์ ลีก       แอต.มาดริด ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0

ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล
07/03/20 ชนะ บอร์นมัธ 2-1 (เหย้า)     พรีเมียร์ลีก
03/03/20    แพ้ เชลซี 0-2 (เยือน)         เอฟเอ คัพ
01/03/20    แพ้ วัตฟอร์ด 0-3 (เยือน)     พรีเมียร์ลีก
24/02/20    ชนะ เวสต์แฮม 3-2 (เหย้า)     พรีเมียร์ลีก
18/02/20    แพ้ แอต.มาดริด 0-1 (เยือน)     ชปล.

แอต.มาดริด
07/03/20   เสมอ เซบีย่า 2-2  (เหย้า)        ลา ลีกา
01/03/20   เสมอ เอสปันญ่อล 1-1 (เยือน)    ลา ลีกา
18/02/20    ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ( เหย้า)     ชปล.
14/02/20    เสมอ บาเลนเซีย 2-2 (เยือน)    ลา ลีกา
08/02/20    ชนะ กรานาด้า 1-0  (เหย้า)    ลา ลีกา