พรีเมียร์ลีกในแต่ละฤดูกาลมักจะมีนักเตะที่โชว์ฟอร์มเซอร์ไพรส์เราเสมอ บางคนอาจจะเคยฟอร์มย่ำแย่มาก่อนเลยทำให้เขาใช้เสียงวิจารณ์เหล่านั้นพร้อมแรงสนับสนุนจากกุนซือมาเป็นแรงผลักดันให้ทำผลงานยอดเยี่ยม ขณะที่บางคนอาจจะเป็นดาวรุ่งที่เพิ่งมาฉายแสง แม้ฤดูกาลจะยังไม่จบแต่เราลองมาคัดเลือก 10 แข้งพรีเมียร์ลีกที่ฟอร์มดีเกิดคาดกัน

1.เนมานย่า มาติช (แมนฯ ยูไนเต็ด)

หลายคนคาดว่าฤดูกาลนี้อาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังช่วงต้นฤดูกาลเจ้าตัวออกมาบ่นว่าได้รับโอกาสลงสนามน้อยและกำลังพิจารณาย้ายทีม ทว่าเมื่อ ปอล ป็อกบา และสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้รับบาดเจ็บยาวทำให้ได้โอกาสลงเล่นมากขึ้นนับตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นมา แม้ช่วงแรกจะโดนวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่นแต่เมื่อลงสนามอย่างต่อเนื่องดูเหมือนกองกลางวัย 31 ปีจะเข้าที่เข้าทางมากขึ้นและยังจับคู่กับ เฟร็ด ได้ลงตัวมาก คาดว่า โซลชา จะจับเขาต่อสัญญาไปอีกหนึ่งปีแน่นอน

2.ริยาด มาห์เรซ (แมนฯ ซิตี้)

เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กระชากตัว มาห์เรซ มาจากเลสเตอร์ ซิตี้ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรในฤดูกาลที่แล้ว แน่นอนว่ามันตามมาด้วยความคาดหวังและความกดดัน แต่ดูเหมือนเขาจะรับมือกับมันได้ไม่ดีนักยกตัวอย่างเช่นการยิงจุดโทษพลาดที่แอนฟิลด์ สุดท้ายเขาได้ออกสตาร์ทตัวจริงในลีกแค่ 14 นัดเท่านั้น

อย่างไรก็ตามฤดูกาลนี้ มาห์เรซ ได้รับความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมจาก เป๊ป ด้วยความที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ไม่ได้เล่นดีเหมือนซีซั่นที่แล้วบวกกับ เลรอย ซาเน่ บาดเจ็บยาวทำให้ความหวังในแนวรุกตกมาอยู่ที่เขา ซึ่งมาห์เรซก็จัดให้ตามคำเรียกร้องด้วยการยิงไป 7 ประตูพร้อมทำ 8 แอสซิสต์ โดยมีเพียงแค่ เควิน เดอ บรอยน์ และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่แอสซิสต์มากกว่าเขาในซีซั่นนี้

3.อดาม่า ตราโอเร่ (วูล์ฟแฮมป์ตัน)

ถือเป็นอีกหนึ่งแข้งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในซีซั่นนี้ ด้วยความถึกบวกกับความเร็วอันจัดจ้านทำให้ปีกสุดจี๊ดของวูล์ฟแฮมป์ตันเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากที่สุดในยุโรป (144 ครั้ง) ทั้งที่ฤดูกาลที่แล้วเขาลงเล่นถึง 29 นัดซัดแค่ประตูเดียวกับอีกหนึ่งแอสซิสต์ แต่ฤดูกาลนี้อดีตเด็กปั้นของบาร์เซโลน่าพัฒนามาไกลด้วยการยิง 4 ประตูและทำ 7 แอสซิสต์ ซึ่ง 3 ใน 4 ประตูนั้นคือการยิงในเกมสำคัญกับ แมนฯซิตี้ อีกด้วย

4.ชักลาร์ โซยุนชู (เลสเตอร์ ซิตี้)

เจมี่ วาร์ดี้ อาจจะถล่มตาข่ายมากมาย ส่วน เจมส์ แมดดิสัน อาจจะช่วยสร้างสรรค์โอกาสนับไม่ถ้วน ขณะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล อาจจะโชว์ซุปเปอร์เซฟไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ฤดูกาลนี้ปราการหลังที่ชื่อ "ชักลาร์ โซยุนชู" กลายเป็นกำลังหลักสำคัญในแผนการเล่นของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตั้งแต่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เดินออกจากทัพจิ้งจอก โซยุนชู ก็มีโอกาสได้โชว์ศักยภาพอย่างต่อเนื่องจนมีข่าวว่า แมนฯซิตี้พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อคว้าตัวมาแก้ปัญหาแนวรับ

5.ลีส มุสเซ็ต (เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด)

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด จ่ายเงิน 10 ล้านปอนด์เพื่อคว้า ลีส มุสเซ็ต มาจาก บอร์นสมัธ ทั้งที่เขายิงได้แค่ 3 ประตูจากการลงเล่น 50 นัดซึ่งดูเหมือนจะเสี่ยงดวงพอสมควร ทว่าสุดท้ายการเดิมพันครั้งนี้ เชฟฟิลด์ มีแต่ได้กับได้ ทิ้งให้ทีมบอร์นมัธของ เอ็ดดี้ ฮาวต้องไปลุ้นตกชั้นและมองตาปริบๆ เขาเป็นดาวซัลโวของทีมร่วมกับ จอฟ์น เฟล็ค ที่ 5 ประตแถมยังทำ 4 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เชฟฟิลด์ มีลุ้นถึงพื้นที่ ชปล.

6.โรเบิร์ต สน็อดกราส (เวสต์แฮม)

เมื่อ เวสต์แอม คว้า ปาโบล ฟอร์นาลส์ มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนเข้ามาร่วมทัพพร้อมกับแนวรุกที่มีอยู่อย่าง มานูเอล ลานซินี่, อันเดร ยาร์โมเลนโก้ และ เฟลิเป้ แอนเดอร์สัน นั่นดูเหมือนว่าอนาคตของ สน็อดกราส จะยากลำบากเสียแล้วในทัพ "ขุนค้อน" ทว่าเจ้าตัวยังมีบทบาทสำคัญในทีมซีซั่นนี้ไม่ว่าจะเป็นยุคของ มานูเอล เปเยกรินี่ หรือ เดวิด มอยส์ หลังจากเขาทำ 5 ประตูและ 5 แอสซิสต์ ไม่แปลกใจที่เขามีสิทธิ์จะคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมของสโมสรฤดูกาลนี้

7.แดนนี่ อิงส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)

อดีตศูนย์หน้าหงส์แดงไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนักภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั่นทำให้ฤดูกาลที่แล้วเขาถูกปล่อยยืมตัวมาเล่นกับ เซาธ์แฮมป์ตัน และทำผลงานได้ดีด้วยการยิงไป 7 ประตูและ 3 แอสซิสต์ ทีม "นักบุญ" จึงรีบซื้อขาดเขาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาในราคา 18 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบแทนเม็ดเงินอย่างคุ้มค่าหลังจากกดไปแล้วถึง 15 ประตูในลีกซีซั่นนี้ เอาง่ายๆว่าเขามีส่วนกับประตูที่ทีมทำได้ในลีกถึง 42.9%

8.เฟร็ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

อีกหนึ่งนักเตะ "ปีศาจแดง" ที่ทำให้เสียงวิจารณ์ต่างๆนาๆหายไปหมด ฤดูกาลที่แล้วเขาไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งได้เลยจนมีหลายคนคิดว่าจะเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มาดับที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทว่าเนื่องด้วยกองกลางที่บาดเจ็บมากมาย โซลชา จึงต้องเข็นเขาลงสนามอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้ เฟร็ด เริ่มจับจังหวะของเกมได้และใช้ความขยันของตัวเองชนะใจแฟนบอล "ปีศาจแดง" จนตอนนี้เขากลายเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้อีกแล้ว

9.เมสัน โฮลเกต (เอฟเวอร์ตัน)

หลังจาก โฮลเกต ถูกส่งไปเก็บประสบการณ์ที่ เวสต์บรอม เมื่อฤดูกาลที่แล้วและโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี ดูเหมือนแนวโน้มอนาคตของเขาจะไปได้สวยหากออกจากถิ่นกูดิสัน พาร์ค ทว่าฤดูกาลนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ ไว้วางใจเขาให้เป็นเซนเตอร์ตัวหลักและเขาก็ตอบแทนด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม

เจ้าตัวยอมรับว่า ซีซั่นนี้มีทั้งขาขึ้นและขาลง ช่วงต้นฤดูกาลเขาอยู่ในฐานะตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่ทว่าช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นมาเขาก็ยึดตัวจริงมาโดยตลอด อันเชล็อตติ กล่าวว่า "ก่อนที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่ง ผมไม่เคยรู้จัก เมสัน (โฮลเกต) มาก่อน ผมเซอร์ไพรส์มาก เขาเป็นกองหลังที่ครบเครื่องทุกอย่าง"

10.โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน (เอฟเวอร์ตัน)

คัลเวิร์ต-ลูวิน กลายเป็นศูนย์หน้าตัวหลักในแท็คติกของ คาร์โล อันเชล็อตติ ไปแล้ว เจ้าตัวมีความขยันเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาปรับปรุงเรื่องการยิงประตูด้วย โดยฤดูกาลนี้หัวหอกวัย 23 ปีหวดประตูไปแล้วถึง 13 ลูกด้วยกัน หากเขายังรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อไป แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษคงมองข้ามเขาไปไม่ได้แน่ๆ