“บอย”เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง แข้งฝาแฝด เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง ดีกรีทีมชาติไทยชุดลุยศึกฟุตซอลโลก 2008 ที่ประเทศบราซิล อีกทั้งยังเป็นนักฟุตซอลไทยที่ออกไปค้าแข้งต่างแดนมาแล้วถึง 3 ประเทศ สโมสรอัคโทเบ (คาซัคสถาน) ปี 2008, สโมสรELECTRIC PLN (อินโดนีเซีย) ปี 2015, สโมสร MIU FC(เมียนมา) ปี 2019 ปัจจุบันมีชื่อลงเล่นให้กับสโมสรฟุตซอลสุราษฏร์ธานี ในศึกฟุตซอลไทยลีก

อดีตที่ผ่านมาคู่ฝาแฝดคู่นี้ถือว่าเป็นแข้งชั้นยอดของวงการฟุตซอลไทยเจิดจรัสในเวทีทีมชาติไทย ซึ่งปัจจุบัน เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง  ยังมีความสุขในฟุตซอลอาชีพ ส่วน เอกพันธ์ สุรัตน์สว่าง คู่ฝาแฝดหันไปทำธุรกิจอาหารทะเลส่งทั่วประเทศไทยจนร่ำรวย  เส้นทางชีวิตของทั้งคู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาโดยตลอดตั้งแต่สมัยอยู่ จ.ยะลา,แฟลตดินแดง กทม.,โรงเรียนปทุมคงคา,ทีมชาติไทย รวมไปถึงสโมสรต่างๆ

ในวงการนักฟุตซอลไทยนอกจากจะเล่นให้กับสโมสรต้นสังกัดแล้ว เรื่องของการเดินสายมักถูกว่าจ้างจากบรรดาเจ้าของทีมเดินสายเงินถึงให้ไปโชว์เพลงเตะเป็นประจำ “บอย”เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง ก็เป็นหนึ่งที่เลือกวิถีหารายได้พิเศษเพิ่มเติมในการเดินสายเล่นฟุตซอลทั่วไทย แต่มีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายจึงทำให้ตัดสินใจยุติวิถีเดินสายเพราะกลัวว่าจะได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่ง เอกพงษ์ สุรัตน์สว่าง แข้งฟุตซอลดีกรีทีมชาติไทยเล่าให้ฟังว่า จริงๆเรื่องของการเดินสายมันไม่ได้เลวร้ายทั้งหมดบางทีเราก็ได้รับความประทับใจ แต่อีกด้านก็มีเรื่องที่ต้องคอยระวังตัวแจนั่นคือเรื่องของการโดนทำร้ายในเกมการแข่งขัน

บางทีคู่แข่งเตะเราแบบดื้อๆไม่มีปี่มีขลุ่ยบางรายเจตนาปรี่เข้ามาเตะ ยิ่งรู้ว่าติดทีมชาติยิ่งชอบเวทีเดินสายคือการเอาตัวรอดในการเล่น แต่หากว่าจังหวะนั้นไม่รอดอาจจะได้รับบาดเจ็บหนักต้องถูกสโมสรยกเลิกสัญญารักษาตัวเอง หลายคนในทีมชาติแต่ไม่ขอเอ่ยนามที่ออกเดินสายล้วนแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้  สาเหตุที่ตัดสินใจเลิกเดินสายเพราะคิดว่ากลัวอาการบาดเจ็บที่จะทำให้เราไปต่อไม่ได้ในอาชีพ ฟุตซอลอาจจะแตกต่างจากฟุตบอลอายุระดับเลขสามบวกก็ยังไปได้ต่อสบาย ตอนนี้คิดอย่างเดียวว่าถ้าจะเล่นต้องไปเล่นต่างประเทศแบบมีสัญญาถูกต้องในลีกอาชีพเหมือนตอนไปเมียนมาล่าสุด ซึ่งจริงๆการเดินสายมันได้ไม่คุ้มเสีย แต่อีกมุมหนึ่งของนักฟุตซอลก็ต้องยอมรับว่าเงินเดือนไม่สูงเหมือนนักฟุตบอลอาชีพทำให้ต้องดิ้นรน สำหรับตัวเองเข็ดมากสำหรับเรื่องของการเดินสาย