ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แมนฯ ยูไนเต็ด น่าซื้อจริงหรือ ? เทียบผลงาน โรดอน ซีซั่นก่อนและฤดูกาลนี้

แมนฯ ยูไนเต็ด น่าซื้อจริงหรือ ? เทียบผลงาน โรดอน ซีซั่นก่อนและฤดูกาลนี้

Posted 11/05/2020 by siamsport

ในขณะที่เกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเตะกันได้ในตอนไหน หรีอจะกลับมาเล่นให้จบได้จริงๆ หรือไม่นั้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตกเป็นข่าวเกี่ยวกับการเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในคนล่าสุดที่มีช่าวกับพวกเขาคือ โจ โรดอน ปราการหลังหนุ่มวัย 22 ปีจาก สวอนซี ซิตี้ ทีมในศึก แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
    แม้ว่าฤดูกาลนี้เกมรับของ สวอนซี จะน่าผิดหวัง เมื่อเสียไปถึง 45 ประตู จากการลงเล่นในลีก 37 นัด น้อยกว่าประตูที่ทีมทำได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น แต่กูรูหลายคนก็ให้คำชม โรดอน มากพอตัวว่ามีอนาคตที่สดใส โดยเขาขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของ สวอนซี ได้ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน และตอนนี้เขาก็ติดทีมชาติเวลส์ชุดใหญ่ไปแล้วด้วย

    ทั้งนี่ ว่ากันว่า ไรอัน กิ๊กส์ ผู้จัดการทีมชาติเวลส์คนปัจจุบัน และเป็นตำนานปีกของ แมนฯ ยูไนเต็ด แนะนำให้อดีตต้นสังกัดของเขาเซ็นสัญญากับ โรดอน เอง เพราะมองว่าเจ้าตัวมีอนาคตที่สดใสรออยู่ คำถามคือเขาเป็นอย่างนั้นจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่แรงอวยของ กิ๊กส์ จนทำให้มันดูเป็นการลงทุนที่เสี่ยง ? ดังนั้นวันนี้เราเลยจะลองมาเทียบผลงานของ โรดอน ในซีซั่นก่อนกับฤดูกาลนี้กันว่าต่างกันแค่ไหน

    - การสกัด
    ในด้านคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของกองหลังนั้น ซีซั่นที่แล้ว โรดอน ทำผลงานได้ดี เพราะเขามีค่าเฉลี่ยการพยายามเข้าสกัด 0.9 ครั้งต่อเกม และสามารถสกัดโดนบอลได้ถึง 0.8 ครั้งต่อนัด เรียกได้ว่าเขาเป็นปราการเหล็กที่โดนคู่แข่งในลีกเลี้ยงบอลผ่านได้เฉลี่ยเพียง 0.1 ครั้งต่อเกมเท่านั้น

 


 

    ขณะที่ในฤดูกาล 2019-20 โรดอน ก็ฟอร์มดร็อปลงมานิดหน่อย เพราะเขาสกัดโดนบอลเฉลี่ย 1 ครั้งต่อเกม จากค่าเฉลี่ยการพยายามเข้าสกัด 1.4 ครั้งต่อนัด หรือก็คือโดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านไปเฉลี่ยแล้ว 0.4 ครั้งต่อเกม ถึงกระนั้น มันก็ยังดูเป็นผลงานที่ไม่แย่เกินไปนัก

 


 

    สิ่งที่น่าประทับใจคือการตัดบอลโดยที่ไม่ต้องพุ่งสกัด เพราะหลังจากซีซั่นก่อนเขาทำผลงานในด้านนี้เฉลี่ยไป 1.2 ครั้งต่อเกมแล้วนั้น โรดอน ก็พัฒนาการอ่านเกมได้ดีจนทำให้ฤดูกาลนี้มีค่าเฉลี่ยการตัดบอลดีขึ้นเป็น 1.6 ครั้งต่อเกมด้วยกัน

    - การผ่านบอล
     ฤดูกาลที่แล้ว โรดอน ผ่านบอลเข้าเป้าในลีกรวมแล้ว 86.9 เปอร์เซ็นต์ แถมยังเป็นการผ่านบอลระยะไกลเข้าเป้าถึง 2.4 ครั้งต่อนัดด้วย ขณะที่ซีซั่นนี้เปอร์เซ็นต์ความแม่นยำในการผ่านบอลลดลงมาเหลือ 81.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการผ่านบอลระยะไกลไปถึงเพื่อนร่วมทีมก็ลดมาเหลือ 2 ครั้งต่อนัด


 

    มองในมุมหนึ่งนั้น มันไม่ใช่ตัวเลขที่ดร็อปลงแบบน่าใจหายจนถึงขั้นควรจะหวาดวิตก แต่อีกด้านหนึ่งมันก็ถือว่าน่ากังวลนิดๆ เพราะที่จริงซีซั่นนี้เขาผ่านบอลน้อยลงกว่าเดิมที่ค่าเฉลี่ย 49.3 ครั้งต่อนัด ขณะที่ฤดูกาลก่อนมีจังหวะผ่านบอลในลีกเฉลี่ย 51.2 ครั้งต่อเกม หรือก็คือทั้งที่ผ่านบอลน้อยลง แต่มันกลับไปถึงเป้าหมายน้อยลงในระดับหนึ่งตามไปด้วย

    - ลูกกลางอากาศ
    นี่ถือเป็นจุดเด่นของดาวเตะเจ้าของส่วนสูง 180 เซนติเมตรเลยก็ว่าได้ โดยฤดูกาลที่แล้ว โรดอน มีจังหวะขึ้นดวลลูกกลางอากาศเฉลี่ย 5.7 ครั้งต่อนัดในลีก และเขาก็ชนะการดวลกลางเวหา 3.7 ครั้งต่อเกม แพ้ไปเพียง 1.9 ครั้งต่อนัดเท่านั้น


 

    ส่วนในฤดูกาล 2019-20 นั้น ก่อนที่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ จะต้องพักการแข่งขันจากปัญหาของโควิด-19 โรดอน มีจังหวะขึ้นดวลลูกกลางอากาศ 5.9 ครั้งต่อเกม โดยเขาชนะไป 3.5 ครั้งต่อนัด และแพ้ไป 2.4 หนต่อเกม ซึ่งถึงแม้จะดร็อปลงมา แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่เลวร้ายจนเกินไป

    สรุป : ถ้าเทียบกับกองหลังใน พรีเมียร์ลีก ยุคปัจจุบันนั้น กูรูวงการฟุตบอลอังกฤษบางคนมองว่า โรดอน มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ จอห์น สโตนส์ ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในบางด้าน โดยเฉพาะการเข้าชนกับคู่แข่งแบบตรงไปตรงมาด้วยการใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นหลัก

 


 

    แม้ว่าเรี่องการผ่านบอลจะดร็อปลง แต่ในด้านเกมรับแล้ว โรดอน ทำผลงานได้น่าประทับใจในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่ทำได้โดดเด่น ดังนั้นถ้าหาก แมนฯ ยูไนเต็ด จะดึงเขามาปลุกปั้นต่อจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการที่ตอนนี้เซนเตอร์แบ็กในทีมชุดใหญ่ที่พร้อมใช้งานของพวกเขามีเพียง แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เอริก ไบยี่ เท่านั้น ส่วน คริส สมอลลิ่ง กับ ฟิล โจนส์ ก็ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง หลังจากทั้งคู่มีข่าวเรื่องย้ายทีมอยู่เรื่อยๆ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »