จากเด็กหนุ่มเลือดสะตอ จ.สุราษฎร์ธานี ที่มาเติบโตในถิ่นน้ำเค็ม จ.ชลบุรี “ก้อง”เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กลายเป็นนักเตะคู่บุญในยุค “ซิโก้”เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทัพทีมชาติไทยชุดใหญ่ และเป็นช่วงเวลาที่ลืมตาอ้าปากได้สำหรับนักเตะวัยแตะ 30 ปีรายนี้

    “เจ้าก้อง”เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เผยว่า จริง ๆ แล้วจะว่าไปก็มีเรื่องของดวงเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนกัน ตนเริ่มติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในช่วงปี 2013 ที่ไปเยือนจีน ในแมตช์กระชับมิตร โดยตอนแรกตนไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดนั้น แต่ปรากฏว่าคนที่มีรายชื่อถอนไปเยอะ “พี่ซิโก้”ที่ตอนนั้นมารับงานคุมทีมก็เลยเรียกตนเข้ามาเสียบแทน เพราะอยู่ในชุดซีเกมส์ที่จะไปเล่นที่เมียนมา ด้วย

 
    “หลังจากได้ไปเล่นที่จีน เราชนะ 5-1 ผมลงไป 15 นาที กลับมามีชื่อไปซีเกมส์ ที่เมียนมา ตอนนั้นผมโดนวิจารณ์ในโลกโซเชียลเยอะว่า ไม่เหมาะที่จะติดไป แต่ก็ได้ไปและลงเล่นในฐานะตัวจริงเกือบทุกนัด วันที่เราได้แชมป์ผมโทรมาร้องไห้กับพ่อและแม่เลย เหมือนเราได้พิสูจน์ให้คนที่วิจารณ์ได้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นแบบที่เขาว่า”

    จากซีเกมส์ มาถึงเอเชี่ยนเกมส์ที่ อินชอน เกาหลีใต้ เหมือนฟ้าจะลิขิตให้ติดทีมชาติอีกหน เมื่อ “ซิโก้”เรียกโควต้าอายุเกิน มีกวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีราทร บุญมาทัน และประทุม ชูทอง ติดทีมไป แต่ปรากฏว่า ธีราทร และประทุม ถอนตัว ส้มหล่นใส่ “เจ้าก้อง”ในฐานะนักเตะอายุเกินอีกครั้งและได้ไปเล่นจนทีมคว้าอันดับ 4 ประวัติศาสตร์มาครองได้อีกครั้ง

 
    “จากนั้นผมก็ติดทีมชาติในยุคพี่ “ซิโก้”มาตลอด เป็นช่วงเวลาที่ผมเล่นได้แบบมั่นใจที่สุด ทุกคนเล่นกันแบบรู้ใจ ตัวผมเองก็อยู่ในฟอร์มที่ดี ผมติดทีมชาติประมาณ 4 ปี ก่อนที่ปลายยุค “พี่ซิโก้” ผมจะเริ่มฟอร์มตกลงมา แกคงกลัวผมจะโดนด่าเยอะ (หัวเราะ)ก็เลยไม่เรียกติด ซึ่งผมก็ยอมรับว่าฟอร์มตัวเองตกลงมาเหมือนกัน พอเปลี่ยนเป็น ราเยวัช และก็เป็น นิชิโนะ ผมก็ไม่ติดทีมชาติอีกเลย ทั้งที่มีบางช่วงที่ผมเล่นดีตอนราเยวัช คุม แต่เหมือนผมจะตัวเล็กไปหน่อยเลยไม่เข้าตาเขา แล้วก็ไม่ติดจนถึงตอนนี้”

 
    เมื่อถามถึงสิ่งที่ได้จากการติดทีมชาติมากว่า 4 ปี “เจ้าก้อง”เผยว่า ได้มาทั้งชื่อเสียง และเงินทองทรัพย์สินในช่วงเวลาที่ติดทีมชาติก็มีรายได้จากทั้งทีมชาติและสโมสรรวมถึงรายได้อื่น ๆ รวมแล้วสิบกว่าล้านบาท เฉพาะช่วงนั้นช่วงเดียว ซึ่งตนก็นำไปซื้อบ้านที่ชลบุรีไว้ 2 หลัง อีกหลังกะให้พ่อมาอยู่หลังเกษียณ โดยซื้อเงินสด และก็มีที่ดินที่ตัวเมืองชลบุรี เพิ่งซื้อปีที่แล้วครึ่งไร่ ตกประมาณ 4-5 ล้านบาท

 
    นอกจากนี้เจ้าตัวยังลงทุนในกิจการคาร์แคร์ ร่วมกับพี่ ๆ นักเตะชลบุรี ซึ่งก็ได้ทุนคืนแล้ว และลงทุนเปิดร้านนวดแผนไทยที่ประเทศอังกฤษกับญาติของผจก.ทีม รวมถึงการทำ หอยจ๊อ ขายทางออนไลน์ ซึ่งก็เป็นกิจการเล็ก ๆ ควบคู่ไปกับการเล่นฟุตบอลให้ชลบุรี ในตอนนี้ด้วย