สัญญาณอันตราย! เปิดเหตุผลชวนเสียวอาจทำแมนยูหลุดท็อปโฟร์
Posted 24/07/2020 by siamsport
ชะตากรรมตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังอยู่ในมือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สัญญาณที่แข้ง "ผีแดง" แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมเสมอกับ เวสต์แฮม เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นั่นคือความเหนื่อยล้า และสิ่งนี้จะกลายเป็นอุปสรรคในนัดสุดท้ายอย่างแน่นอน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอกับ เวสต์แฮม 1-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาซึ่งผลการแข่งขันนี้เพียงพอที่จะทำให้ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ขยับขึ้นอนัดับ 3 ของตารางพร้อมกับเพิ่มสถิติไร้พ่ายในลีกเป็น 13 นัดติต่อกัน รวมถึงทำให้นัดสุดท้ายพวกเขาขอเก็บหนึ่งแต้มจากรัง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็จะการันตีตั๋ว ชปล. ฤดูกาลนี้ทันที
เหมือนทุกอย่างจะดี? แต่ไม่เชิง... หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มย่ำแย่จนพ่าย เชลซี ตกรอบ เอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นี่ถือว่าไม่ใช่การกลับมาคืนฟอร์มแบบที่แฟนบอลคาดหวังไว้
ความจริงแล้วหาก “ผีแดง” คว้าชัยชนะเหนือ เวสต์แฮม ของ เดวิด มอยส์ ด้วยสกอร์ห่างหลายลูกก็จะตัดโอกาสไป ชปล. ของ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบสิ้นเชิง เราเคยเห็นพวกเขาซิวชัยด้วยประตูห่างถึง 3 ลูกมาแล้ว 4 เกมติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, ไบรท์ตัน, บอร์นมัธ และ แอสตัน วิลล่า อย่างไรก็ตามเมื่อทำไม่ได้การพ่ายแพ้ด้วยสกอร์แค่ 1-0 ที่ คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม อาจทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หมดหนทางจบท็อปโฟร์ทันที
“หากย้อนกลับไปไม่กี่เดือนถ้าคุณบอกกับ โซลชา ว่า -สถานการณ์เหล่านี้มันจะต้องไปลุ้นถึงเกมสุดท้าย- เขาก็คงไม่เชื่ออย่างแน่นอน ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่เขาจะบอกกับตัวเองและนักเตะในอีก 72 ชั่วโมงต่อมา พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดี เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในซีซั่นนี้” แกรี่ เนวิลล์ บอกกับ สกาย สปอร์ต
“นี่ถือเป็นเรื่องดี แต่ที่แย่คือฟอร์มของพวกเขาดร็อปลง พวกเขาดูธรรมดาเหลือเกินซึ่งต่างจากตอนที่ฟอร์มยอดเยี่ยมนับตั้งแต่รีสตาร์ทลีก 2-3 เกมหลังนั้นแย่มาก ขาดทั้งพลังงาน, ความกระตือรือร้น และคุณภาพ”
อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล จ่ายบอลให้ เมสัน กรีนวู้ด ทำประตูตีเสมอสุดสำคัญซึ่งทำให้การเสมอในสุดสัปดาห์เพียงพอที่จะให้ แมนฯ ยูไนเต็ด การันตีโควต้า ชปล. กรีนวู้ด ด้วยวัยแค่ 18 ปียิงประตูที่ 17 ในฤดูกาลนี้ซึ่งหลายคนคงจะยอมรับในความใจสู้ของเจ้าหนูคนนี้แล้ว
สถิติการเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงนับตั้งแต่รีสตาร์ทลีก
ปัญหาคือนักเตะคนอื่นๆกลับไม่อยู่ในฟอร์มที่ควรจะเป็น ก่อนหน้าที่ทีมจะเจอกับ เชลซี พวกเราได้เห็น โซลชา ค้นพบ 11 ตัวจริงอย่างชัดเจนซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อขาดการหมุนเวียบผู้เล่น นั่นทำให้เกิดความเสี่ยงและเราได้เห็นแล้วว่านักเตะล้าลงไปมาก
ปอล ป็อกบา กลายเป็นแพะรับบาปจากประตูที่ได้ของ เวสต์แฮม เขาเลือกที่จะใช้มือป้องกันลูกยิงของ ดีแคลน ไรซ์ แทนที่จะยอมเสี่ยงให้บอลพุ่งเข้ามาหา ทว่ามันมีสิ่งที่ควรจะกังวลมากกว่าเรื่องนี้ นั่นคือมิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศสใช้เวลาในสนามไปกับการวิ่งเหยาะๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาค่อนข้างล้าพอสมควร แต่ในเกมกับ “ขุ้นค้อน” เขายังเล่นดีกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่ามาตารฐานเลยในวันนั้น
โปรแกรมถี่ส่งผลกระทบต่อบรูโน่
อย่างไรก็ตามคนที่เห็นความเหนื่อยล้าชัดเจนที่สุดคงจะเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส เนื่องจากมันส่งผลกระทบถึงทีมโดยรวมด้วย
อดีตมิดฟิลด์ตัวรุกลิสบอน กลายเป็นคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังพัฒนาการก้าวกระโดดของ แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล แต่เขาดูเหน็ดเหนื่อยมากในเกมที่ เวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ต่างอะไรกับนัดเจอ เวสต์แฮม ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในสามวันถัดมา
ในเกมกับ เชลซี มีช่วงเวลาที่เขาโชว์ศักยภาพอยู่บ้าง แต่โดยรวมนั้นเขาไม่สามารถนำตัวเองไปมีส่วนร่วมกับเกมรุกตามแบบที่เราคาดหวังไว้ บรูโน่ ถ้าหากไม่นับลูกจุดโทษเขามีโอกาสยิงประตูแค่ครั้งเดียวทั้งเกม ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำลงมามากจากก่อนหน้านี้ที่มีค่าเฉลี่ยโอกาสยิง 3.5 ครั้งต่อเกม
ขณะที่ในเกมกับ เวสต์แฮม มีโอกาสทองที่เขาสอดขึ้นไปในเขตโทษหวังจะทำประตูแต่จับบอลพลาดซึ่งเป็นเรื่องไม่บ่อยที่เราเห็นแบบนี้ รวมถึงอีกหลายๆจังหวะที่เขาเล่นเหมือนคนหมดแรง หรือแม้แต่ช่วงครึ่งหลังที่เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนโดนใบเหลือง
จำนวนการสปริ้นของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในแต่ละเกมนับตั้งแต่รีสตาร์ทลีก
ความเหนื่อยล้าสะสมทำให้ บรูโน่ ทำผลงานไม่ออก ข้อมูลด้านบนโชว์ให้เห็นว่าเขาวิ่งไปหลายพื้นที่ในสนามซึ่งรวมเป็นระยะทางทั้งหมด 11.8 กิโลเมตรมากกว่านักเตะทุกคนของ แมนฯ ยูไนเต็ด
นอกจากนี้สถิติด้านบนยังบ่งบอกว่าเขาวิ่งสปริ้นแค่ 5 ครั้งในเกมล่าสุด ซึ่งค่าเฉลี่ยการสปริ้นของเขานับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกรีสตาร์ทมาคือ 13 ครั้งต่อเกม ไม่แปลกใจที่เราจะเห็นความเหนื่อยล้าของเขาอย่างชัดเจน
ทั้งที่เพิ่งย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทัพ “ผีแดง” ในเดือนมกราคม แต่เขาออกสตาร์ทตัวจริงในทุกรายารถึง 18 นัดนับตั้งแต่ลงประเดิมสนามในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมันจะเป็นเกม 19 ในสุดสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าเขาลงตัวจริงทุกนัดในช่วงรีสตาร์ทซีซั่น
แมนฯ ยูไนเต็ด มีเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นในการเตรียมตัวลงเล่นนัดสุดท้าย ขณะที่ เลสเตอร์ ได้พักมาหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ และผลจากการเสมอ เวสต์แฮม ไม่ได้เล่นอย่างผ่อนคลายในเกมสุดท้าย โซลชา คงต้องหวังให้ บรูโน่ ฮึดรอบสุดท้ายเพื่อพาทีมคว้าตั๋ว ชปล.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ผี, สิงห์, สุนัขจิ้งจอก ! สิ่งที่ 3 ทีมต้องทำในเกมสุดท้ายเพื่อยึดท็อปโฟร์
ความเข้มข้นของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่จบแม้ว่า ลิเวอร์พูล จะผงาดคว้าแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว และมีการมอบโทรฟี่แชมป์อย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพราะการลุ้นอันดับท็อปโฟร์เพื่อโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังต้องวัดกันในเกมสุดท้ายของฤดูกาล 2019/2020ใครจะอกหัก?! ส่องเงื่อนไขนัดสุดท้ายศึกชิงท็อปโฟร์ของ "ผี, สิงห์, จิ้งจอก"
เข้าสู่โปรแกรมนัดสุดท้ายอย่างเป็นทางการ สำหรับศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/20 ที่ตำแหน่งแชมป์และรองแชมป์ถูกการันตีไปก่อนหน้านี้แล้วแรมเดือนว่าตกเป็นของ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามลำดับ
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
สถิติข้อมูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 3:แอสตัน วิลล่า vs โบโลญญ่า
สถิติข้อมูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 3:ปารีส แซงต์ แชร์กแมง vs พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น
สถิติข้อมูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS สปาร์ตาปราก
สถิติข้อมูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แอตเลติโก้ มาดริด VS ลีลล์
สถิติข้อมูล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 3:เอซี มิลาน vs คลับบรูซ
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์