ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ท้าดวลเซียนยูโรปา! 5 ประเด็นร้อนก่อนแมนยูฉะเซบีย่า

ท้าดวลเซียนยูโรปา! 5 ประเด็นร้อนก่อนแมนยูฉะเซบีย่า

Posted 16/08/2020 by siamsport

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมอังกฤษเพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอดในฟุตบอลยุโรปตอนนี้และพวกเขาต้องทำศึก ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ พบกับเจ้าของแชมป์รายการนี้ 5 สมัยอย่าง เซบีย่า แน่นอนว่าเป็นเกมที่ไม่ง่ายสำหรับ "ปีศาจแดง" เพราะนอกจากคู่แข่งจะเป็นเซียนบอลถ้วยนี้แล้วพวกเขายังมีตัวผู้เล่นทีเด็ดที่เป็นหมัดน็อคได้เลย ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่ก่อนเกมจะเริ่มเรามาเช็คประเด็นที่น่าสนใจกัน

1.ไบยี่ หรือ ลินเดอเลิฟ


โซลชา เปลี่ยนผู้เล่นตัวจริงถึง 6 คนในเกมพบ โคเปนเฮเก้น และใช้ตัวสำรองครบ 5 คนใน 120 นาที แสดงให้เห็นว่าเมื่อมีโอกาสกุนซือ “ผีแดง” จะหมุนเวียนผู้เล่นไปจนจบทัวร์นาเม้นต์

ในส่วนของผู้รักษาประตูนั้นดูเหมือนจะค่อนข้างชัวร์แล้วว่า โซลชา จะให้โอกาส เซร์คิโอ โรเมโร่ แทนที่ของ ดาบิด เด เคอา หลังลงเล่นในนัดเอาชนะ โคเปนเฮเก้น แต่อีกหนึ่งตำแหน่งที่ดูจะยังไม่ชัวร์คือเซนเตอร์แบ็ก โดยฝั่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ น่าจะยึดตัวจริงอยู่แล้วแต่อีกตำแหน่งหนึ่งจะเป็นของใครระหว่าง วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ หรือ เอริก ไบยี่

ปกติ ลินเดอเลิฟ ถือเป็นเซนเตอร์แบ็กตัวหลักของทีมแต่เมื่อเกมที่แล้ว โซลชา เลือกใช้ เอริก ไบยี่ ลงเล่นบ้าง อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ ไบยี่ ออกสตาร์ทตัวจริงทุกนัดในยูโรปา ลีกตั้งแต่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ฟอร์มโดยรวมของเขาก็ถือว่าใช้ได้ทีเดียวนับตั้งแต่หายเจ็บกลับมา บางคนก็มองว่าน่าเป็นตัวจริงมากกว่า ลินเดอเลิฟ เสียอีก แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ โซลชา ว่าจะให้โอกาส ไบยี่ เหมือนกับ โรเมโร่ ที่ลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ในทัวร์นาเม้นต์นี้ หรือจะเลือก ลินเดอเลิฟ ที่เป็นตัวหลักของทีมอยู่แล้ว

2.หวังล้างแค้นเซบีย่า


เกมคืนนี้เพิ่งจะเป็นการปะทะกันครั้งที่สามในฟุตบอลยุโรปของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ เซบีย่า โดยหากใครยังจำกันได้สองครั้งก่อนหน้านี้เกิดขึ้นได้ไม่นานนี้เองและแฟน “เร้ด อาร์มี่” ก็น่าจะยังะจำได้ไม่เคยลืมเลือน

ครั้งนั้น โชเซ่ มูรินโญ่ กำลังเป็นนายใหญ่ให้กับ “ผีแดง” เป็นฤดูกาลที่ 2 (2017-18) และเขาพาทีมผ่านเข้าสู่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยคู่แข่งที่จับสลากมาเจอกันนั้นคือ เซบีย่า นัดแรกในการออกไปเยือนที่สเปน น้ามูและลูกทีมเก็บผลเสมอ 0-0 ซึ่งถือว่าน่าพอใจในระดับหนึ่ง แน่นอนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด หวังจะมาเผด็จศึกใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดที่สอง

อย่างไรก็ตามทั้งสองฝ่ายทำประตูกันไม่ได้จนกระทั่งช่วง 15 นาทีสุดท้าย แฟนบอลที่โรงละครแห่งความฝันถึงกับช็อกเนื่องจาก วิสซาม เบน เยแดร์ ซัดประตูผ่านมือ เด เคอา เสียบตาข่ายให้ทีมเยือนออกนำ ยิ่งไปกว่านั้น เบน เยแดร์ คนเดิมโหม่งประตูที่ 2 ในอีก 4 นาทีถัดมากลายเป็นประตูที่แทบจะดับฝัน แมนฯ ยูไนเต็ด แล้ว แม้ โรเมลู ลูกากู จะยิงประตูตีไข่แตกสำเร็จแต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทันทำให้ทีมของ มูรินโญ่ ต้องอกหักตกรอบไปในที่สุด

นั่นหมายความว่า แมนฯ​ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเอาชนะได้เลยในการดวลกับ เซบีย่า รอดูกันว่าคืนนี้พวกเขาจะมีครั้งแรกและล้างแค้นได้หรือไม่

3.อาถรรพ์รอบรองฯ


เป้าหมายหลักของ “ผีแดง” ในฤดูกาลนี้สัมฤทธิ์ผลเป็นที่เรียบร้อยหลังสามารถจบอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีกพร้อมกับคว้าตั๋วกลับไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า แต่เชื่อว่าแฟนบอลคงต้องการถ้วยติดไม้ติดมือเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของยุคใหม่นี้ อย่างไรก็ตามแม้จะทำได้ผลงานได้ดีทีเดียวในฟุตบอลถ้วยทุกรายการแถมเข้ารอบลึกทั้งหมดด้วย ทว่าพวกเขามักจะมาตกม้าตายในรอบรองชนะเลิศเสมอ

ตัวอย่างเช่นในฟุตบอล คาราบาว คัพ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอันต้องพ่ายให้กับเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบตัดเชือกด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-3 ขณะที่ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ก็ฝ่าด่านมาถึงรอบรองชนะเลิศเช่นกันแต่สุดท้ายต้องอกหักตกรอบด้วยน้ำมือของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่พา เชลซี เอาชนะ 3-1

มาถึงรายการ ยูโรปา ลีก บ้าง พวกเขาเข้ารอบรองรองชนะเลิศได้อีกเช่นกัน ไม่รู้ว่าจะปิ่วตกรอบนี้อีกหรือไม่ ครั้งสุดท้ายที่ “ปีศาจแดง” ชูถ้วยแชมป์ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2016/17 หลัง โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีมซิว ยูโรปา ลีก เพราะฉะนั้นหาก โซลชา หวังจะฉลองความสำเร็จบ้างคงต้องทำลายอาถรรพ์รอบรองฯในฤดูกาลนี้ให้ได้

4.เซบีย่าเซียนยูโรปา


เซบีย่า ภายใต้การคุมทีมฤดูกาลแรกของ จูเลน โลเปเตกี ถือว่าน่าประทับใจทีเดียวหลังออกสตาร์ทซีซั่นด้วยการเกาะกลุ่มหัวตารางทว่าก็มีฟอร์มแผ่วให้เห็นในบางแมตช์ แต่ที่พีคจริงคือช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคมซึ่งมีโอกาสขึ้นไปลุ้นแชมป์กับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า รวมถึงยังเกาะที่สามอย่างเหนียวแน่น อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคมพวกเขาสะดุดบ่อยครั้งโดยชนะเกมลีกแค่นัดเดียวจาก 3 นัดแถมยังพ่าย มิรานเดส ตกรอบ โกปา เดล เรย์ ด้วย

ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ก็ชนะเกมลีกแค่ 2 จาก 5 นัด ส่วนช่วงรีสตาร์ทลีกเดือนมิถุนายนก็สะดุดเสมอถึง 4 นัดติดต่อกันทำให้ แอตเลติโก มาดริด แซงขึ้นมาอันดับที่ 3 กลายเป็นว่าจาก เซบีย่า ลุ้นแชมป์อยู่ดีๆต้องมาทำแต้มเพื่อยึดพื้นที่ท็อปโฟร์เป็นพอ แต่ในช่วง 6 นัดสุดท้ายพวกเขาก็เรียกฟอร์มกลับมาด้วยการชนะ 5 จาก 6 นัดสุดท้ายพร้อมคว้าตั๋ว ชปล. ได้สำเร็จ ก่อนจะมาสานต่อฟอร์มร้อนแรงที่ ยูโรปา ลีก ด้วยการเขี่ย โรม่า และ วูล์ฟแฮปม์ตัน ตกรอบ พร้อมทำสถิติไร้พ่ายในทุกรายการ 19 นัดติดต่อกันแถมยังเก็บคลีนชีท 7 จาก 8 นัดหลังสุดอีกต่างหาก

เจ้าของแชมป์ยูโรปาสูงสุด 5 สมัยยังถือเป็นเซียนของบอลถ้วยนี้เหมือนเดิมหลังยังพ่ายแค่นัดเดียวตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มแถมยังไม่มีสะดุดเสมอเลยด้วย บุคคลที่ “ผีแดง” ควรต้องระวังไว้เลยคือ ลูกัส โอกัมโปส แนวรุกฟอร์มฮอตที่ทำ 17 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ในทุกรายการ โดยมีแอสซิสต์สำคัญในเกมกับ โรม่า รวมถึงโขกประตูชัยถีบ วูล์ฟส์ ตกรอบด้วย ถือเป็นคู่แข่งไม่ธรรมดา “ผีแดง” ห้ามประมาทเด็ดขาด

5.โซลชาเคยเจอมาแล้ว


โซลชา น่าจะรู้พิษสง เซบีย่า ดีหลังเคยเจอกันมาแล้วตั้งแต่คุมทีมโมลด์ในประเทศนอร์เวย์ โดยทั้งสองทีมโคจรมาเจอกันในยูโรปา ลีก นี่แหละซึ่งเป็นรอบ 32 ทีมสุดท้ายในฤดูกาล 2015/16 โดยเกมแรกในบ้านเซบีย่านั้น โมลด์ โดนถลุงไปถึง 3 เม็ดเลยทีเดียว ถึงแม้ว่านัดที่สอง โมลด์ จะกลับมาเล่นที่นอร์เวย์พร้อมกับเก็บชัยชนะ 1-0 ได้สำเร็จข แต่ผลรวมประตูไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมเข้ารอบ แน่นอนว่า โซลชา ก็คงหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องเอาคืนให้ได้

และถ้าหาก โซลชา เก็บชัยชนะได้ในคืนนี้จริงๆจะเป็นการชนะนัดที่ 50 จาก 89 เกมที่คุม “ปีศาจแดง” พร้อมกลายเป็นกุนซือที่ชนะ 50 นัดในทุกรายการเร็วที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสรตามหลัง เออร์เนส แมงนอลล์ (78 นัด) และ โชเซ่ มูรินโญ่ (81 นัด)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »