เนมานย่า มาติช มิดฟิลด์ แมนฯ ยูไนเต็ด เคยตอบตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้วว่าสาเหตุที่ไม่ใส่เสื้อที่ติดดอกป๊อปปี้เอาไว้ด้วยเป็นเพราะตนเคยหวาดกลัวจากเหตุการ์ที่กองทัพของ นาโต้ ทิ้งระเบิดใส่เมื่อปี 1999 โดยที่จริงเขาเคยใส่เสื้อแบบที่ติดดอกป๊อปปี้เอาไว้เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำอย่างนั้นต่อ

เนมานย่า มาติช กองกลางชาวเซอร์เบียของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เคยอธิบายไปตั้งแต่ราว 2 ปีก่อนหน้านี้แล้วว่าสาเหตุที่ตนไม่เอาดอกป๊อปปี้มาประดับบนชุดแข่งเป็นเพราะตนเคยได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างร้ายแรงจากสงครามมาก่อน

ปกติแล้วในตอนที่สหราชอาณาจักรจัดช่วงรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตนั้น แต่ละทีมในเกาะอังกฤษก็จะให้นักเตะลงเล่นในสภาพที่บนเสื้อของพวกเขามีดอกป๊อปปี้ประดับอยู่ด้วย แต่ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ อาร์เซน่อล 0-1 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา บนชุดแข่งของ มาติช กลับไม่มีดอกไม้นั้นประดับอยู่ จนทำให้แฟนบอลบางคนที่ไม่รู้เรื่องราวของเขามาก่อนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าตัวถึงทำแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ที่จริงเมื่อช่วงปี 2018 มาติช เคยอธิบายแล้วว่าตนเคยอกสั่นขวัญแขวนจากการที่กองทัพของ นาโต้ ทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านของตนที่ตอนนั้นยังถือว่าอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศยูโกสลาเวีย และกองทัพสหราชอาณาจักรก็ร่วมปฏิบัติการดังกล่าวด้วย ทำให้ตนไม่สามารถทำใจติดสัญลักษณ์ดังกล่าวต่อไปได้ แม้ว่าจะเคยยอมทำในบางนัดก่อนหน้านั้นก็ตาม

มาติช กล่าวเมื่อ 2 ปีก่อนว่า "ผมเข้าใจดีว่าทำไมหลายคนถึงประดับดอกป๊อปปี้เอาไว้ด้วย ผมเคารพสิทธิ์ของทุกคนที่ทำอย่างนั้น และผมก็รู้สึกเห็นใจทุกคนที่เสียคนที่พวกเขารักไปจากการต่อสู้ครั้งนั้น แต่สำหรับผมแล้วมันทำให้ผมนึกถึงการโจมตีในตอนที่ผมยังเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ ตอนนั้นผมเป็นเด็กน้อยอายุ 12 ปีที่ต้องอยู่อย่างสั่นกลัวในวเรโล ในสภาพที่ประเทศของผมโดนทิ้งระเบิดใส่อย่างหนักในปี 1999"

"ถึงแม้ก่อนหน้านี้ผมจะเคยใส่เสื้อที่มีดอกป๊อปปี้ประดับอยู่ แต่ตอนนี้พอมานึกย้อนดูแล้วน่ะผมก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมเท่าไหร่ที่ผมจะมาใส่เสื้อที่มีดอกป๊อปปี้ประดับอยู่บนนั้น ผมไม่อยากทำให้ดอกป๊อปปี้มันด้อยค่าลงหรอกนะ ผมรู้ดีว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจภายในสหราชอาณาจักร และไม่อยากทำให้ใครก็ตามรู้สึกไม่พอใจด้วย แต่เราทุกคนต่างก็เติบโตมาแตกต่างกัน และนี่เป็นการเลือกส่วนตัวของผมเอง ซึ่งเหตุผลมันก็เป็นไปตามที่ผมพูดก่อนหน้านี้ ผมหวังว่าพอผมอธิบานไปแล้วน่ะตอนนี้ทุกคนก็จะเข้าใจเหตุผลของผม และผมจะได้ตั้งสมาธิกับการช่วยทีมในเกมที่รออยู่ได้"