หยุดพักเบรคทีมชาติไป 2 สัปดาห์เต็มๆ กลับมาอีกครั้งกับเกมลีก โดยสัปดาห์นี้จะเป็นแมตช์เดย์ที่ 9 ของศึก พรีเมียร์ลีก ความน่าสนใจแต่ละคู่จะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันได้เลย
    นิวคาสเซิล-เชลซี

    "เดอะ แม็กพายส์ รักษาฟอร์มในบ้าน"

    เชลซี จะไม่มี คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกตัวเก่ง และ ติอาโก้ ซิลวา แนวรับจอมเก๋า แต่ทาง ไค ฮาแวร์ทซ์ กลับมาฝึกซ้อมแบบส่วนตัวได้แล้ว ขณะที่ 'สิงห์บลูส์' ก็หวังว่า เบน ชิลเวลล์ จะกลับมาฟิตอีกครั้ง

    นิวคาสเซิล แพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นในการเจอกับ เชลซี ในบ้าน 7 เกมหลังสุด (ชนะ 5 เสมอ 1) และเมื่อซีซั่นก่อน 'สาลิกาดง' ก็เป็นฝ่ายเอาชนะได้ โดยประตูชัยมาจาก ไอแซค เฮย์เด้น ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

    'เดอะ แม็กพายส์' ชนะเกมในบ้าน 2 จาก 3 เกมหลังสุด ซึ่งเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ 11 เกมที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค และพวกเขากำลังมองหาชัยชนะสองเกมติดที่บ้านตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2019
   
    'สิงโตน้ำเงินคราม' ไม่แพ้ใครในลีกมาแล้ว 6 เกมติดต่อกัน (ชนะ 3 เสมอ 3) ซึ่งมีแค่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เท่านั้นที่ไม่แพ้ใครนานกว่า(7 นัด) ขณะเดียวกัน เชลซี ยิงได้อย่างน้อย 3 ประตูในการลงเล่น 5 จาก 6 เกมดังกล่าว

    หาก ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติเยอรมนี ของฝั่งทีมเยือน ทำประตูได้ในเกมนี้ จะทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกต่อจาก ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2009 ที่ยิงประตูได้ 5 เกมติดต่อกัน ให้กับ เชลซี ทุกรายการ และจะเป็นแข้งเมืองเบียร์รายที่ 4 ที่ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก 3 เกมติดต่อกัน ต่อจาก เจอร์เก้น คลินส์มันน์, ดีทมาร์ ฮามันน์ และ เลรอย ซาเน่

    สเปอร์ส-แมนฯ ซิตี้

    "เชซุส ยิงต่อเนื่อง 4 เกมติด?"

    ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ คือทีมใน พรีเมียร์ลีก ที่ไม่แพ้ใครนานที่สุดในซีซั่นนี้ (7 นัด) ซึ่งพวกเขามองหาชัยชนะ 4 เกมติดต่อกันในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019 ในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

    แฮร์รี่ เคน กองหน้า 'ไก่เดือยทอง' มีส่วนร่วมกับประตูไปแล้วถึง 23 ลูก จากการลงสนามแค่ 14 เกมในซีซั่นนี้ ทุกรายการ มากกว่าคนอื่นๆ ที่ตามมาเป็นลำดับสองถึง 8 ลูก โดย เคน ทำไปทั้งสิ้น 13 ประตู กับอีก 10 แอสซิสต์ ซึ่งคนที่ตามมาเป็นลำดับที่ 2 ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ ซน ฮึน-มิน ดูโอในแดนหน้าที่ทำไป 10 ประตู กับ 5 แอสซิสต์

    กาเบรียล เชซุส แนวรุกแซมบ้าของ 'เรือใบสีฟ้า' มีส่วนร่วมกับประตูไป 11 ครั้งจาก 11 นัดหลังสุดในทุกรายการ โดยยิงได้ 8 ประตู และ 3 แอสซิสต์ โดยที่เจ้าตัวทำประตูได้ตลอด 3 เกมหลังสุด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ เชซุส ทำประตูได้ 4 นัดติดต่อกัน ต้องย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018

    การเจอกันครั้งนี้ระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะเป็นการเจอกันครั้งที่ 24 ของทั้งคู่ โดยฝั่งของเฮียมู พ่ายต่อทีมเป๊ป ไปถึง 10 ครั้ง ซึ่งเป็นตัวเลขมากที่สุดที่กุนซือโปรตุกีสเคยวัดฝีมือกับกุนซือคนอื่นๆ ขณะเดียวกัน มีแค่ มานูเอล เปเยกรินี่ เท่านั้น ที่ กวาร์ดิโอล่า เอาชนะได้มากที่สุด (12 ครั้ง) พูดง่ายๆ คือ มูรินโญ่ เป็นเหยื่อชัยชนะมากที่สุดเป็นลำดับ 2 ต่อจาก เปเยกรินี่ นั่นแหละ

    แมนฯ ยูไนเต็ด-เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

    "ปีศาจแดง ตั้งเป้าคว้าชัยนัดแรกในบ้าน"

    แมนฯ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมในบ้านตัวเองเกมลีกมาแล้ว 4 นัด ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าพวกเขาจะยังไม่สามารถเอาชนะทีมที่มาเยือนได้เลย(เสมอ 1 แพ้ 3) โดยที่ 'ปีศาจแดง' เป็นทีมที่เสียประตูในบ้านมากที่สุดที่จำนวน 10 ประตู

    ไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่จะได้แต้มกลับมาหลังจากโดนนำก่อนได้เท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกแล้ว (9 คะแนน) โดยพวกเขาพลิกกลับมาชนะได้ 3 จาก 5 เกม ขณะเดียวกัน ครั้งเดียวที่ พลพรรคเร้ด เดวิลส์ ทำประตูขึ้นนำก่อนได้นั้น คือเกมที่พ่ายต่อ สเปอร์ส 1-6 ที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด

    เวสต์บรอมวิช เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึง 3 จาก 5 เกมในการบุกเยือนโรงละครแห่งความฝัน ซึ่งเกมล่าสุดที่มาเล่นที่นี่ก็เป็นฝ่ายชนะเมื่อเดือนเมษายน ปี     2018

    เดอะ แบ๊กกี้ส์ เป็น 1 ใน 3 ทีมที่ยังไม่เสียประตูในช่วง 15 นาทีแรกของเกมใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เคียงคู่กับ อาร์เซน่อล และ แอสตัน วิลล่า ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูในช่วงเวลาดังกล่าวไปถึง 4 ประตู โดยมีแค่ ฟูแล่ม ทีมเดียวเท่านั้นที่เสียประตูมากกว่า

    ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน

    "ทอฟฟี่เหมาบุกลอนดอนคว้าชัย 3 เกมติด?"

    ในการเจอกันของทีมพรีเมียร์ลีกที่ดวลแข้งกันเกิน 10 นัด คู่ระหว่าง ฟูแล่ม-เอฟเวอร์ตัน เป็นคู่ที่ทีมเจ้าบ้านชนะมากที่สุด (ชนะ 23 จาก 28 นัด) โดยคิดเป็นอัตราถึง 82%   

    หลังจากเสียประตู 10 ลูกจากการลงเล่นเกมลีก 3 เกมแรกในซีซั่นนี้ หลังบ้านของ ฟูแล่ม เริ่มดีขึ้น โดย 5 เกมหลัง เสียไปแค่ 5 ประตู เท่านั้น และคว้าชัยเกมแรกได้ในนัดเอาชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0

    เอฟเวอร์ตัน เอาชนะคู่แข่งที่ ลอนดอน มาแล้ว 2 เกมติดต่อกัน ซึ่งเทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ 26 นัดยามเยือนทีมเมืองหลวง อังกฤษ โดยครั้งสุดท้ายที่พลพรรคทอฟฟี่เมน บุกคว้าชัยที่กรุงลอนดอน 3 เกมติดต่อกันต้องย้อนไปเมื่อเดือนเมษายน ปี 1987

    นับตั้งแต่ ริชาร์ลิซอน ซบอก เอฟเวอร์ตัน เมื่อปี 2018 'ทอฟฟี่สีน้ำเงิน' เอาชนะคู่แข่งไม่ได้เลยในการที่ไม่มี ศูนย์หน้าทีมชาติบราซิลรายนี้ โดย 3 เกมในซีซั่นนี้ที่เจ้าตัวติดโทษแบน ปรากฏว่า เอฟเวอร์ตัน แพ้รวดทั้ง 3 นัด

    ลีดส์ ยูไนเต็ด-อาร์เซน่อล

    "บิเอลซ่า หลีกเลี่ยงสถิติย่ำแย่"

    ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้มาแล้ว 2 เกมติดต่อกัน ซึ่ง 'ยูงทอง' ภายใต้การคุมทีมของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ยังไม่เคยแพ้ 3 เกมติดต่อกันในเกมลีกเลย

    แพทริค แบมฟอร์ด ทำไปแล้ว 7 ประตูจาก 8 เกม ให้กับ ลีดส์ ในเกม พรีเมียร์ลีก โดยมีแค่ มาร์ค วิดูก้า (9 ประตู) เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่าเขาในการลงเล่น 8 เกมแรกของศึก พรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามในการทำประตูของ แบมฟอร์ด นั้น มีแค่ประตูเดียวที่เกิดขึ้นที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด

    อาร์เซน่อล ไม่แพ้ในการบุกเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด มาแล้ว 5 เกมติดต่อกัน (ชนะ 4 เสมอ 1) โดย 4 เกมหลังสุดเอาชนะได้ทุกนัด และมีผลสกอร์รวมถึง 15-4

    'เดอะ กันเนอร์ส' เป็นทีมเดียวเท่านั้นที่ยังไม่เสียประตูจากลูกเซต-พีซ ในฤดูกาลนี้ ขณะที่ตอนนี้ไม่มีทีมไหนที่เสียประตูจากลูกเซต-พีซไปมากกว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด อีกแล้ว ( 8 ประตู) รวมการเสียจุดโทษด้วย

    ลิเวอร์พูล-เลสเตอร์

    "โชต้า เตรียมสร้างสถิติ"

    ลิเวอร์พูล ตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งไปก่อนตลอด 3 เกมหลังสุดที่เล่นในบ้านตัวเอง ทว่าพวกเขาสามารถพลิกกลับเป็นฝ่ายเอาชนะได้ทุกนัด อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีทีมไหนที่สามารถพลิกชนะคู่แข่งได้แบบนี้(ในบ้านตัวเอง) 4 เกมติดต่อกันในศึก พรีเมียร์ลีก

    ดีโอโก้ โชต้า ทำประตูได้ตลอด 3 นัดแรกที่เล่นที่ แอนฟิลด์ ในนามนักเตะ ลิเวอร์พูล ซึ่งไม่เคยมีผู้เล่นคนไหนของ 'หงส์แดง' ที่ทำประตูใน แอนฟิลด์ ได้ทุกนัดใน 4 เกมแรกที่เล่นที่นี่บนเวทีลีกสูงสุด

    ลิเวอร์พูล ไม่แพ้คู่แข่งเกมลีกในบ้านตัวเองมาแล้ว 63 นัดติดต่อกัน ซึ่งเทียบเท่าสถิติสูงสุดที่เคยทำได้ โดยหนก่อนที่ไม่แพ้ใครมากที่สุดเกิดขึ้นช่วงระหว่างเดือน กุมภาพันธ์ ปี 1978 ถึงเดือนธันวาคม ปี 1980 โดยทีมที่หยุดสถิติดังกล่าวคือ เลสเตอร์ !!

    เจมี่ วาร์ดี้ หัวหอกของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำประตูใส่ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 7 ลูกจาก 11 นัดที่เจอกัน โดยมีแค่ แอนดี้ โคล (11 ประตู) และ เธียร์รี่ อองรี (8 ประตู) เท่านั้นที่ทำประตูใส่ ลิเวอร์พูล ได้มากกว่าเขา