ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » แผงกลางลุ้น เฮนโด้, ติอาโก้!เจาะ 5 ประเด็นก่อน ลิเวอร์พูล เยือน ไบรท์ตัน

แผงกลางลุ้น เฮนโด้, ติอาโก้!เจาะ 5 ประเด็นก่อน ลิเวอร์พูล เยือน ไบรท์ตัน

Posted 28/11/2020 by siamsport

ลิเวอร์พูล มีคิวเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้น ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ "หงส์แดง" จะได้แก้ตัวจากการพ่ายแพ้ อตาลันต้า เมื่อกลางสัปดาห์ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี
 

    แมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังคงต้องลุ้นสภาพความฟิตของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ในขณะที่ตำแหน่งแบ็กขวาอาจจะต้องใช้งาน เนโก วิลเลี่ยมส์ เนื่องจาก เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังมีสภาพร่างกายไม่พอสำหรับเกมที่สนาม ดิ เอเม็กซ์ คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม


     ขณะเดียวกเกมนี้ อดัม ลัลลาน่า จะได้มีโอกาสเจอทีมเก่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่อำลาสโมสรในช่วงตลาดพ่อค้าแข้งรอบ 2 เมื่อซัมเมอร์นี้ ฉะนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" คงคาดหวังว่า "ลัลล้า" จะไม่ใช้กฎยิงประตูทีมเก่า ทำร้ายสโมสรที่ทำให้เขาได้เหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีกนะ !!!

1. ลุ้นกัปตันเฮนโด้, ติอาโก้ คืนทัพใหญ่
    สิ่งที่ คล็อปป์ ต้องกังวลมากๆ ในเวลานี้ก็คือแผงกองกลางเพราะในแมตช์กลางสัปดาห์ที่แพ้ อตาลันต้า ผู้เล่นมิดฟิลด์ทั้ง เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม และ เคอร์ติช โจนส์ สู้ความแข็งแกร่งและรวดเร็วของมิดฟิลด์อตาลันต้า ไม่ได้เลย ฉะนั้นนี่จึงเป็นการบ้านที่นายใหญ่ชาวเยอรมันต้องรีบแก้ไขโดยด่วน

    แม้ผู้เล่นของ ไบรท์ตัน ชื่อชั้นอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่พวกเขาเป็นทีมที่เล่นด้วยระเบียบวินัย และค่อยช่วยเหลือกันและกัน ฉะนั้น คล็อปป์ จะต้องแก้ปัญหาตรงจุดนี้ให้ได้ แต่หาก "หงส์แดง" มี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ลงสนามพร้อมกัน ปัญหานี้อาจจะทุเลาเบาบางลง


 

    เพราะจะว่าไปแล้ว มิลเนอร์ กับ ไวจ์นัลดุม กรำศึกหนักจนสภาพร่างกายเริ่มอ่อนล้า ขณะที่ โจนส์ ทำผลงานไม่คงเส้นคงวา โดยเฉพาะในเกมรับมือกับทีมดังเมืองแบร์กาโม่ ดังนั้น คล็อปป์ จึงอยากได้ "เฮนโด้" กับ ติอาโก้ มาช่วยบัญชาเกมมากๆ ขณะที่ นาบี เกอิต้า ยังลุ้นเรื่องความฟิตต่อไป

    อย่าลืมว่า ไบรท์ตัน มี อดัม ลัลลาน่า ซึ่งเป็นอดีตผู้เล่นสำคัญของ "หงส์แดง" มานานหลายปี ฉะนั้นเขาย่อมรู้ไส้รู้พุงแนวทางการเล่นทีมเก่า ที่สำคัญแผงมิดฟิลด์ในชุดปัจจุบัน ลัลลาน่า ก็เคยมีโอกาสได้เล่นร่วมกันมาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เจ้าตัวจะอ่านทางเพื่อนเก่าได้

2. ได้เวลา 4 มหัศจรรย์ประสานงานอีกครั้ง
    แม้ว่าเกม "นกนางนวล" พวกเขาอาจจะมีฟอร์มที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก แต่สำหรับ คล็อปป์ เกมเยือนยังไงก็ต้องเน้นทุกจังหวะ ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะจัดผู้เล่นชุดที่ดุดันที่สุดเพื่อหวังจะเก็บ 3 คะแนนให้ได้ และแซงหน้า สเปอร์ส ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงชั่วคราว


 

    ฉะนั้นแมตช์นี้สาวก "เดอะ ค็อป" คงจะได้เห็น 4 มหัศจรรย์ทั้ง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดีโอโก้ โชต้า ลงสนามพร้อมกัน แต่ คล็อปป์ จะจับให้ทั้ง 4 คนยืนตรงไหนนี่เป็นประเด็นที่น่าคิดจริงๆ เพราะหากตัด ฟีร์มีโน่ ออกไปทั้ง 3 คนที่เหลือฟอร์มฮอตมากๆ

    แต่หากมองจากผลงาน ณ เวลานี้ โชต้า ถือว่ากำลังฟอร์มเข้าฝักที่สุด จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช จะเลือกให้โอกาสเขาทำหน้าที่เป็นหน้าเป้า เพราะผลงานตะบันไปแล้ว 8 ประตูจาก 13 เกม โดยเป็นการยิงในพรีเมียร์ลีก 4 ประตูใน 7 เกม


 

    ขณะที่ "โมซาลาห์" กับ มาเน่ ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรุกริมเส้น เพราะความรวดเร็ว และความคล่องตัวของเขาน่าจะจัดการปั่นป่วนแนวรับเจ้าบ้านได้ไม่ยาก ส่วน ฟีร์มีโน่ ถึงจะมีปัญหาเรื่องการยิงประตูแต่ทักษะชั้นยอดของเขาเหมาะอย่างยิ่งที่จะยืนหน้าต่ำคอยป้อนบอลให้แนวรุกเผด็จศึก


3. แบ็กโฟร์พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง
    แน่นอนว่าแผงแบ็กโฟร์ของ "เดอะ เร้ดส์" ในเวลานี้ยังขาดความแน่นอนเนื่องจากปัญหาบาดเจ็บที่ผ่านมาทำให้พวกเขายังไม่สามารถจัดเกมรับได้แข็งแกร่งเหมือนกับเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ที่เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น จนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครอบครองได้สำเร็จ

    การขาด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ไปนานหลายเดือนเป็นเรื่องที่เสียหายสุดๆ แม้จะมี โฌแอล มาติป คอยทำหน้าที่ประคับประครองเกมรับแต่เขาก็ยังขาดคู่หูเซนเตอร์แบ็กที่รู้ใจ โดยในเวลานี้ทำได้เพียงแค่ต้องรับผิดชอบเกมรับร่วมกับ ฟาบินโญ่ กองหลังจำเป็น


 

    แม้ช่วงที่ผ่านมาทั้งสองคนจะทำหน้าที่ได้ดี แต่ก็ยังไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะสามารถรักษาสภาพความฟิตเอาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งกับสถานการณ์ที่ต้องลงเล่นแบบ 3 วันต่อเกม แน่นอนว่าย่อมมีความเสี่ยงสูงที่จะโดนปัญหาบาดเจ็บพรากไปจากสนามแข่งอีกครั้ง

    ในส่วนของฟูลแบ็กมองไปทางซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยังคงเป็นนักเตะที่ คล็อปป์ ขาดไม่ได้จริง ฟอร์มการเล่นแบบไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยคือสิ่งที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นมาตลอด โดยเฉพาะในเกมแพ้ อตาลันต้า การที่ไม่มีสตาร์ชาวสกอตติช ลงเล่นตัวจริง เกมทางริมเส้นฝั่งซ้ายไร้ประสิทธิภาพสิ้นดี

    ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือแบ็กขวา เพราะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยังมีปัญหาบาดเจ็บน่อง ไม่น่าจะฟิตทันช่วยทีมได้ ฉะนั้น คล็อปป์ คงเลือกใช้งาน เนโก วิลเลี่ยมส์ ลงเล่น แต่ก็อาจจะมีออปชั่นพิเศษด้วยการใส่ชื่อ มิลเนอร์ ทำหน้าที่แทน แต่ต้องในกรณีที่ เฮนเดอร์สัน หรือ ติอาโก้  หรือทั้งสองคนฟิตสมบูรณ์ มิเช่นนั้น คล็อปป์ ไม่มีทางจับแข้งจอมเก๋ามายืนเป็นฟูลแบ็กแน่นอน
 

4. เกมที่ 100 ของ อลีสซง จะสวยงามหรือช้ำใจ
    เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกินสำหรับ อลีสซง เบ็คเกอร์ เพราะนับตั้งแต่ย้ายจาก โรม่า มาเฝ้าเสาในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 2018 ผลงานของเขาทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล รู้สึกอุ่นใจมากๆ เพราะก่อนหน้าที่ นายด่านชาวบราซิเลียน จะมาเล่นให้ "หงส์แดง" นายทวารไม่รู้กี่คนต่อกี่คนทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องหวาดเสียวเป็นประจำ

    สำหรับแมตช์เยือน ไบรท์ตัน จะเป็นการทำหน้าที่นายด่านปราการสุดท้ายให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ 100 พอดิบพอดี ฉะนั้นถือว่าเป็นแมตช์ที่มีความหมายสำหรับเจ้าตัวอย่างมาก และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า อลีสซง คือหนึ่งในผู้เล่นคีย์แมนที่มีผลต่อฟอร์มการเล่นของ "เดอะ เร้ดส์" ด้วย


 

    มีหลายเกมที่ ลิเวอร์พูล ขาด โกลทีมชาติบราซิล ทำหน้าที่เฝ้าเสา ทีมมักจะระส่ำ โดยเฉพาะการที่ทีมต้องใช้งาน อาเดรียน ยืนอยู่หน้ากรอบประตู มีหลายจังหวะที่แฟนบอลต้องใจหายใจคว่ำทุกครั้งที่คู่แข่งเปิดเกมบุกเข้ามาป่วนเปี้ยนบริเวณเขตโทษ 

    ฉะนั้นในเกมที่ 100 แน่นอนว่า อลีสซง คงอยากได้ผลการแข่งขันที่สวยหรู เพื่อเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการเดินหน้าเฝ้าเสาให้กับทีมต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต
 

5.  เรียกสติกลับสู่โลกพรีเมียร์ลีก
    หลายคนอาจมองว่า ลิเวอร์พูล อาจจะมีอาการล้าเนื่องจากเพิ่งจะกรำศึกหนักในแมตช์กลางสัปดาห์ที่แพ้ อตาลันต้า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คาถิ่นแอนฟิลด์ แต่สำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" และนักเตะ "หงส์แดง" มองว่านี่คือโอกาสดีที่จะได้แก้ตัว และเรียกสติกลับมาอีกครั้ง

    ความพ่ายแพ้ต่อ อตาลันต้า ทำหน้า "เดอะ เร้ดส์" เสียศูนย์กันไปพอสมควร และอาจจะเกิดเอฟเฟกต์ลามไปยังเกมลีกที่ต้องเยือน "เดอะ ซีกัลล์ส" ก็ได้ แต่งานนี้คาดว่าบรรดาลูกทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ คงอยากจะแก้ตัวจากการพ่ายแพ้อย่างน่าเจ็บปวดในเกมกลางสัปดาห์ เพื่อเรียกความมั่นใจและศรัทธากลับคืนจากแฟนบอลอีกครั้ง


 

    ที่สำคัญยังเป็นการเรียกสติ และความเชื่อมั่นให้พร้อมสำหรับศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ต้อนรับการมาเยือนของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกถ้วยใบโตยุโรป วันอังคารหน้า ซึ่งมีความหมายมากๆ เพราะพวกเขาต้องการชัยชนะแค่ 1 เกมจาก 2 แมตช์ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี ก็จะการันตีการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์

    ฉะนั้นหาก "หงส์แดง" สามารถบุกไปเก็บ 3 แต้มได้ ความฮึกเหิมและกำลังใจของพวกเขาจะกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีสำหรับแมตช์ต่อๆ โดยเฉพาะเกมลีกที่จะรับมือวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ในวันอาทิตย์ที่ 6 ธ.ค. ที่พวกเขาจะได้มอบของขวัญชิ้นโบว์แดงให้แฟนบอล เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาชมเกมในสนามเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 8 เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »