ลมแทบจับ!เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูลทำได้แค่เจ๊าฟูแล่ม
Posted 14/12/2020 by siamsport
ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่บุกไปเสมอ ฟูแล่ม 1-1 ที่สนามคราเว่น ค็อตเทจ เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสทองที่จะได้แซง "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขึ้นเป็นจ่าฝูง
ผลงานในเกมนี้ของ "หงส์แดง" ไม่ค่อยดีมากนัก ผู้เล่นหลายคนโชว์ฟอร์มไม่ออกโดยเฉพาะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่มีสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เล่นเกมรับก็ไม่ดี เกมรุกก็น่าผิดหวัง แต่ที่เจ็บปวดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ โฌแอล มาติป เจ็บหลัง ทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีลิสต์รายชื่อแข้งเดี้ยงยาวเป็นหางว่าวแล้ว
ส่วนในมุมดีๆ ก็มีนั่นก็คือผลงานของ เคอร์ติส โจนส์ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่น มีส่วนกับเกมนี้อย่างมาก และยังเกือบที่จะยิงประตูสุดสายได้ด้วย ส่วนนักเตะที่แทบจะหายไปจากเกมเลยคงหนีไม่พ้น จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม กับ ซาดิโอ มาเน่ ที่เล่นไม่ออกจริงๆ
1. พลาดโอกาสทองขึ้นนำจ่าฝูง
ลิเวอร์พูล มีโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้ยึดตำแหน่งจ่าฝูง และจะทำให้พวกเขาถือความได้เปรียบสำหรับเกมพรีเมียร์ลีก วันพุธที่ 16 ธันวาคม เมื่อทัพ "หงส์แดง" จะต้อนรับการมาเยือนของ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนามแอนฟิลด์
ก่อนเกมนี้ สเปอร์ส ทำได้เพียงแค่เสมอ "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ แน่นอนว่าหลายคนคงคิดไปแนวทางเดียวกันว่าทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะจัดการปราบ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ได้ไม่ยาก เพราะคู่แข่งมีขุมกำลัง, ฟอร์มการเล่น และอันดับในตารางที่ห่างจากแชมป์เก่าหลายขุม
อย่างไรก็ตามฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะเจ้าบ้านแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมหมูๆ ที่จะมาต้อนกินเล่นกันได้ง่ายๆ และจัดการเปิดฉากเล่นเกมวิ่งสู้ฟัดไล่กดดัน "เดอะ เร้ดส์" จนแทบโงหัวไม่ขึ้นในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก และได้ประตูขึ้นนำซะด้วย
แน่นอนว่าผลเสมอในเกมนี้ทำให้การลุ้นแชมป์ลีกยังคงเปิดกว้าง ที่สำคัญการที่ ลิเวอร์พูล มีคิวต้องปะทะกับทีมของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ยังเป็นการตัดแต้มกันเอง งานนี้ต้องยอมรับว่าพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เป็นอะไรที่เข้มข้นจริงๆ
2. วิกฤตินักเตะบาดเจ็บกลับมาอีกครั้ง
ต้องยอมรับว่านี่คือฤดูกาลที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์สำหรับ ลิเวอร์พูล จริงๆ เพราะพวกเขาต้องประสบกับปัญหานักเตะบาดเจ็บเป็นว่าเล่น จนทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" เล่นมุกแนะนำให้ คล็อปป์ ควรไปปล่อยนกปล่อยปลา สะเดาะเคราะห์เพื่อแก้ปีชงที่เกิดขึ้นในตอนนี้
ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ออกปากยืนยันว่า ดีโอโก้ โชต้า และ คอสตาส ซิมิคาส ต้องเผชิญหน้ากับการพักยาวเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ล่าสุดพวกเขาต้องเจอกับเรื่องปวดหัวเมื่อ โฌแอล มาติป ยังมาดวงแตกได้รับบาดเจ็บหลัง จนทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวในช่วงพักครึ่ง
อาการบาดเจ็บของ มาติป ทำให้ คล็อปป์ จำเป็นต้องใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมายืนเซนเตอร์แบ็กร่วมกับ ฟาบินโญ่ ซึ่งทั้งสองคนเป็นผู้เล่นตำแหน่งกองกลางธรรมชาติ แต่การถูกจับมายืนแผงแบ็กโฟร์พวกเขาก็ทำผลงานใช้ได้ แต่คงไม่สามารถยืนระยะในตำแหน่งนี้ได้แน่นอน
ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บโดยเฉพาะเซนเตอร์แบ็กถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ เพราะ มาติป คือกองหลังตัวกลางธรรมชาติและมีประสบการณ์เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เหลือมีแต่ดาวรุ่งที่ประสบการณ์น้อยนิด ฉะนั้นในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 เดือนม.ค.นี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน คงต้องสะกดิบอร์ดบริหารให้ยอมควักเงินเพื่อเสริมทัพเป็นการด่วน
3. มหัศจรรย์ อลีสซง เบ็คเกอร์
ควีวิน เคลเลเฮอร์ โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจตอนที่เขาได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ให้ลงทำหน้าที่เฝ้าเสาแทน อลีสซง เบ็คเกอร์ ในช่วงที่บาดเจ็บ แต่สำหรับแมตช์นี้ นายด่านชาวบราซิเลียน ฟิตสมบูรณ์ และได้รับหน้าที่มือ 1 ในเกมกับ ฟูแล่ม ซึ่งต้องบอกว่าเขามีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมได้ 1 คะแนน
การกลับมาทำหน้าที่เฝ้าเสาของ อลีสซง มีความสำคัญอย่างมาก เพราะผลงานของเขาทำให้เพื่อนร่วมทีมรู้สึกอุ่นใจ และแน่นอนว่าเกมนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า นายทวารทีมชาติบราซิล มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ได้คะแนนที่ล้ำค่าจริงๆ
ที่บอกว่า 1 แต้มล้ำค่าเนื่องจากหากมองกันตามความจริงเกมนี้ "เดอะ เร้ดส์" เล่นไม่ได้เลยในครึ่งแรก และเกือบจะโดนเจาะตาข่ายในช่วงต้นเกมจากการยิงของ อีวาน คาวาเลยโร่ แต่ อลีสซง โชว์ซูเปอร์เซฟทั้งสองครั้ง ก่อนจะมาโดน บ็อบบี้ เดคตอร์โดว่า-รีด ยิงอย่างเด็ดขาดหมดปัญญาปัดป้องได้
นอกจากนี้ อลีสซง ยังโชว์เซฟมหัศจรรย์ โดยปัดลูกยิงจ่อๆ ของ โตซิน อดาราไบโอโย่ ไปชนหัว แซมโบ แอนกีสซ่า หลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ อดาราไบโอโย่ก่อนหน้านั้น แต่สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า โกลเลือดแซมบ้า มีไหวพริบที่รวดเร็วมากๆ
แม้ว่า อลีสซง ไม่สามารถช่วยทีมเก็บ 3 คะแนนก็ตาม แต่การที่ทีมได้ 1 แต้มถือว่าเจ้าตัวมีส่วนสำคัญมากๆ ยิ่งไปกว่านั้นฟอร์มการเล่นที่สุดยอดแบบนี้ แน่นอนว่า คล็อปป์ คงยิ้มแก้มปริที่เห็นเขายืนตะหง่านเป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับทัพ "หงส์แดง"
4. เทรนต์ยังไม่อยู่ในฟอร์มที่คุ้นเคย, โจนส์ พัฒนาไปอีกขึ้น
เกือบ 70 นาทีที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อยู่ในเกมนี้ รวมกับเกมที่ลงสนามในแมตช์พบ มิดทิลแลนด์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่า "เจ้าหนูเทรนต์" ยังมีสภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์เต็มร้อยเปอร์เซนต์
หลักฐานเรื่องสภาพความฟิตของ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเกมที่คราเว่น ค็อตเทจ เพราะนักเตะยังไม่สามารถจับจังหวะการเล่นที่คุ้นเคยของตัวเองได้เลย ในช่วงของเกมรุกก็ยังทำได้ไม่ดี ขณะที่เกมรับก็ยังคงเป็นจุดอ่อนของเจ้าตัวเหมือนเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องรับมือกับ อเดโมล่า ลุคแมน ที่มีความรวดเร็ว และคล่องตัวสูง ซึ่ง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทบจะหยุด ลุคแมน ไม่ได้เลย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญในตอนนี้ก็คือการลุ้นให้ "เจ้าหนูเทรนต์" กลับมาฟิตสมบูรณ์ และเรียกฟอร์มเก่งกลับมาให้ทันก่อนเกมพบ สเปอร์ส วันพุธนี้
ขณะที่ เคอร์ติส โจนส์ ต้องบอกเลยว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง โดยฟอร์มของเขาในเกมนี้เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในแผงกองกลาง "หงส์แดง" โดยนักเตะมักจะผ่านบอลแบบง่ายๆ แต่เฉียบคม แถมยังโชว์ทักษะสุดยอดด้วยการเลี้ยงบอลเกือบครึ่งสนาม หลบผู้เล่นฟูแล่ม 3 คน แต่น่าเสียดายที่ยิงไปติดมือ อัลฟ็องเซ่ อเรโอล่า ไม่งั้นคงเป็นประตูชัย และประตูแห่งความทรงจำของ โจนส์ แน่นอน
5. เกมเยือนที่ต้องแก้ไขอีกเยอะ
ใครจะไปคิดว่า ลิเวอร์พูล จะมีฟอร์มการเล่นเกมเยือนแตกต่างจากผลงานในแอนฟิลด์ราวฟ้ากับเหว เพราะเป็นที่รู้กันว่า "เดอะ เร้ดส์" สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในบ้านตัวเองมานานถึง 65 แมตช์ ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มการเล่นนอกบ้านของ "หงส์แดง" ในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าน่าผิดหวังจริงๆ เพราะพวกเขาสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลย 5 แมตช์ติดต่อกัน โดยแพ้ 1 แมตช์ นอกนั้นเสมอเรียบวุธ ถือว่าเป็นสิ่งที่ คล็อปป์ จำเป็นต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ไขปัญหา
สำหรับแมตช์ต่อไปก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีที่ ลิเวอร์พูล จะได้เล่นในแอนฟิลด์ เพราะพวกเขาต้องต้อนรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จ่าฝูง อย่างน้อยๆ การได้เล่นต่อหน้าสาวก "เดอะ ค็อป" 2,000 คน น่าจะทำให้นักเตะกลับมาเรียกสติ และฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เกือบไม่รอด!คล็อปป์เปิดใจนำลิเวอร์พูลแบ่งแต้มฟูแล่ม
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล รับช่วง 30 นาทีแรก "หงส์แดง" ทำผลงานได้ไม่ดีเลย แต่หลังจากนั้นสามารถฮึดและบุกเสมอ ฟูแล่ม ได้สำเร็จ พร้อมคาดหวัง โฌแอล มาติป เซนเตอร์แบ็กตัวเก่ง จะมีสภาพร่างกายฟิตพร้อมช่วยทีมรับมือ สเปอร์ส กลางสัปดาห์นี้ลิเวอร์พูลชวดนำเดี่ยว! ซาลาห์กดโทษตีเจ๊าฟูแล่มก่อนวัดไก่ชิงฝูงมิดวีก
"เจ้าสัวน้อย" เล่นกันได้อย่างคึกคักและมุ่งมั่นจนได้ประตูออกนำไปก่อน ทว่าครึ่งหลังมาเสียจุดโทษให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดตีเสมอให้ ลิเวอร์พูล บุกมาแบ่งแต้ม 1-1 ทำให้ "หงส์แดง" ไม่ชนะเกมเยือนถึง 5 นัดติดต่อกันในลีก มีเพิ่มเป็น 25 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส ที่สะดุดเจ๊าเหมือนกัน แต่ลูกทีมของ มูรินโญ่ ลูกได้เสียดีกว่ารั้งจ่าฝูง ส่วน ฟูแล่ม รั้งอันดับ 17 มีอยู่ 8 คะแนน ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาอลีสซงมาแล้ว ! เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกมลิเวอร์พูล เยือน ฟูแล่ม
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเตรียมนำ ลิเวอร์พูล บุกเยือน ฟูแล่ม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคมนี้ โดยพวกเขาอาจจะมีสถิติไม่ค่อยดีนักในการเล่นนอกบ้านเกมลีก เพราะสะกดคำว่าชนะไม่ได้เลยใน 4 เกมหลังสุด ต่างจากการเล่นในแอนฟิลด์ ราวฟ้ากับเหวคล็อปป์ฟันธงใครจะเป็นแข้งตัวชูโรงให้ลิเวอร์พูลในอนาคต
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล มั่นใจ ในอนาคตนักเตะที่จะเป็นตัวชูโรงให้กับ ลิเวอร์พูล คือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พร้อมบอกว่ารู้สึกดีที่ได้เห็นว่า อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ดีใจมากๆ ที่ได้เป็นกัปตันทีมในเกมกับ มิดทิลแลนด์
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
วิเคราะห์บอล บาเยิร์น พบ เอาก์สบวร์ก วันศุกร์ที่ 22 พ.ย. 67
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
เพื่อนไม่ทิ้งกัน! เป๊ป เผยแพ้ 4 เกมติดเหตุผลต่อสัญญาใหม่ แมนซิตี้
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์