ลุ้นลบสถิติเกมเยือนย่ำแย่! เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกมลิเวอร์พูล พบ คริสตัล พาเลซ
Posted 19/12/2020 by siamsport
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เตรียมนำลูกทีมไปเยือน คริสตัล พาเลซ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคมนี้ โดยจะเป็นคู่แรก และหากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้อย่างที่ต้องการ จะทำให้ทีมคู่แข่งแย่งลุ้นแชมป์ต้องเจอความกดดันเพื่อพยายามทำแต้มไล่จี้ทันที
เกมนี้ "หงส์แดง" คงจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบ เพราะพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะลบสถิติการเล่นเกมเยือนสุดย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ โดยสะกดคำว่าชนะไม่เป็นถึง 5 แมตช์ติดต่อกัน ฉะนั้นนี่คือบททดสอบสำคัญสำหรับแชมป์เก่าเลยทีเดียว
1. ข่าวดีไม่มีนักเตะเจ็บเพิ่ม
สิ่งที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" โล่งใจที่สุดในเวลานี้ก็คือการไม่มีรายชื่อนักเตะใหม่บาดเจ็บเพิ่ม เพราะไม่งั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ คงได้เดินเข้าไปศูนย์ฝึกเยาวชนเพื่อมองหานักเตะดาวรุ่งดวงใหม่ สำหรับนำมาใช้งานในยามที่ "หงส์แดง" พิการแบบนี้
นอกจากนี้ยังมีข่าวดีเพิ่มอีกก็คือ โฌแอล มาติป เซนเตอร์แบ็กตัวหลัก คาดว่าจะหายเจ็บและกลับมาฟิตสมบูรณ์สำหรับลงสนามในเกมเยือน คริสตัล พาเลซ หลังจากที่เขาต้องพลาดช่วยทีมในแมตช์เฉือนชนะ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อกลางสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีที่ ปราการหลังชาวแคเมอรูน ยังไม่ฟิตเต็มร้อย แน่นอนว่า กุนซือเลือดด๊อยท์ช ไม่มีทางฝืนใช้งานนักเตะแน่นอน เพราะเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บหนัก ฉะนั้นตัวเลือกที่จะถูกนำมาจับยืนคู่กับ ฟาบินโญ่ ก็คงหนีไม่พ้น รีส วิลเลี่ยมส์ ซึ่งทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมปะทะ สเปอร์ส
ขณะเดียวกันในรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า แม้จะสามารถกลับมาลงซ้อมแบบเดี่ยวๆ แต่ก็คงไม่ได้ลงสนามในแมตช์นี้ โดย คล็อปป์ คาดหวังว่าจะเห็นนักเตะกลับมาซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแบบเต็มอัตราศึกในสัปดาห์หน้า พร้อมกับ เจมส์ มิลเนอร์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่
สำหรับ ดีโอโก้ โชต้า คงต้องรอให้สภาพร่างกายฟิตมากกว่านี้อีกซักสัปดาห์สองสัปดาห์ แต่ที่แน่นอนก็คือ นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน มีโอกาสที่จะได้ลงสนามในแมตช์นี้
2. สถิติเกมเยือนที่น่าสยดสยอง
หากไม่นับ มาติป ที่ยังต้องรอดูว่าสภาพร่างกายจะสมบูรณ์เต็มร้อยหรือไม่ งานนี้แฟนบอลลิเวอร์พูล คงจะได้เห็นบรรดาขุนพลตัวหลักที่จะกลับมาประจำการช่วยทีมในแมตช์เยือนถิ่น เซลเฮิร์สท์ พาร์ค โดยชุดนี้คงหนีไม่พ้นชุดที่เอาชนะทีมของกุนซือโชเซ่ มูรินโญ่
แน่นอนว่า อลีสซง เบ็คเกอร์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม คงจะได้ลงสนามเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับสามประสาน "หินเหล็กไฟ" โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ "หงส์แดง" ต้องกังวลก็คือผลงานในการออกไปเล่นนอกบ้าน เพราะต่อให้ทีมเป็นนักเตะชุดที่ดีที่สุดแต่สำหรับในฤดูกาลนี้ พวกเขากลับเล่นได้ไม่ดีเลยในแมตช์เยือน โดย 6 แมตช์นอกบ้านเอาชนะแค่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เท่านั้น ที่เหลือคือแพ้กับเสมอ
โดยเฉพาะแมตช์ที่แพ้ทีมของคล็อปป์ ออกไปโดน "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า สอยยับไม่นับญาติ 2-7 และหลังจากนั้นก็เสมอเกมเยือน 4 แมตช์ติดต่อกัน ฉะนั้นตลอดช่วงเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยเมื่อเล่นนอกถิ่นแอนฟิลด์
ทั้งนี้ ลิเวอร์พูล เคยมีสถิติไร้ชัยชนะจากการลงสนาม 6 เกมเยือนในลีกเมื่อเดือนมกราคม 2011 ขณะเดี๋ยวกันก็เคยเสมอ 5 แมตช์ติดต่อกันเมื่อเดือนธันวาคม 1991 ฉะนั้น คล็อปป์ คงไม่อยากทาบสถิตินี้ในแมตช์ปะทะ พาเลซ แน่นอน
3. มาเน่ จอมสังหาร "ดิ อีเกิ้ลส์"
สำหรับนักเตะที่มักจะหลอน คริสตัล พาเลซ คงหนีไม่พ้น ซาดิโอ มาเน่ เพราะเขาสามารถซัดประตูในการพบกับ "ดิ อีเกิลส์" ได้ 7 เกมติดต่อกัน ฉะนั้นในการเยือนคู่แข่งในแมตช์นี้ ผู้เล่นที่พวกเขาห้ามละสายตามเด็ดขาดก็คือ สตาร์ลูกหนังชาวเซเนกัล รายนี้
ก่อนหน้านี้ ปีกทีมชาติเซเนกัล จัดการซัด 6 ประตูติดต่อกันในการเล่นเกมลีกปะทะ คริสตัล พาเลซ ไม่ว่าจะในสนามแอนฟิลด์ หรือที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค ทำให้เขาเป็นนักเตะคนที่ 10 ที่ยิงได้ 6 ลูกติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีก พบคู่แข่งทีมเดียว และเป็นแข้ง "หงส์แดง" คนที่ 2 ที่ทำได้ต่อจาก โม ซาลาห์ ซึ่งซัดใส่ บอร์นมัธ
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังมุ่งมั่นที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ เพราะมันจะทำให้พวกเขาสามารถยึดตำแหน่งจ่าฝูงในช่วงคริสต์มาส ได้ 3 ปีติดต่อกัน ซึ่งสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากในช่วงบ็อกซิ่งเดย์ที่มีโปรแกรมหฤโหดรออยู่ การที่ทีมสามารถยึดจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น จะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจได้เป็นอย่างดีในการป้องกันแชมป์
อย่างไรก็ตาม มาเน่ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มฝืดมากๆ โดยเกมลีกล่าสุดที่เขามีชื่อทำสกอร์เกิดขึ้นในแมตช์เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 ดังนั้นการไปเยือน พาเลซ เจ้าตัวคงพกความมุ่งมั่นมาเต็มกระเป๋าเพื่อที่จะยิงประตูให้ได้ และหากทำสำเร็จไม่ใช่แค่สถิติจอมสังหาร "ดิ อีเกิ้ลส์" เท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกความเชื่อมั่นในตัวเองกลับมาอีกครั้งด้วย
4. คนคุ้นเคยกันทั้งนั้น
ต้องยอมรับว่า คริสตัล พาเลซ มีอดีตผู้เล่น "เดอะ เร้ดส์" อยู่ในทีมหลายคน และงานนี้ทำให้บรรดากูรูลูกหนัง ต่างเชื่อใน "กฎยิงประตูทีมเก่า" ซึ่งโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นก็สูง เพราะนักเตะที่เล่นให้ "ปราสาทเรือนแก้ว" ในปัจจุบัน เคยเล่นให้ ลิเวอร์พูล มาแล้ว ถึง 4 คนเลยทีเดียว
เริ่มจาก มาร์ติน เคลลี่ ซึ่งเคยเล่นให้ ลิเวอร์พูล มาแล้ว 62 เกมและยิงได้ 1 ประตู โดยในเวลานั้นเขาได้รับการคาดการณ์ว่าจะเป็นอนาคตของทีม แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บผสมกับฟอร์มที่ไม่คงเส้นคงวา สุดท้ายก็ต้องระเห็จออกจากถิ่นแอนฟิลด์ และกลับมาได้ดิบได้ดีเมื่อสวมชุดของ พาเลซ
คริสติย็อง เบนเตเก้ กองหน้าร่างบึ้ก คงพลาดลงสนามในเกมนี้เนื่องจากถูกใบแดงในเกมเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ช่วงกลางสัปดาห์ โดยเขาซัดไปแล้ว 3 ประตูจาก 3 เกมล่าสุดให้กับต้นสังกัด และเคยเล่นให้ "หงส์แดง" 42 แมตช์ในช่วง 1 ฤดูกาลเท่านั้น พร้อมกับซัดไป 10 ประตู ฉะนั้นการที่เขาไม่ได้ลงเล่นก็คือว่าเป็นข่าวดีของ "เดอะ เร้ดส์"
นอกจากนี้ยังมี มามาดู ซาโก้ ที่เล่นให้ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ 80 เกมในทุกรายการและยิงไป 3 ประตู ส่วน นาธาเนียล ไคลน์ ย้ายกลับไปอยู่กับ พาเลซ หลังจากที่เคยย้ายจากที่นี่ไปเล่นให้ เซาธ์แฮมป์ตัน โดยเขาเล่นให้ ลิเวอร์พูล 103 เกมในลีก และฟุตบอลถ้วยตั้งแต่ปี 2015-2020 แต่ยิงไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น
ตบท้ายด้วย รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือขรัวเฒ่าที่เคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมให้กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2010-มกราคม 2011 พร้อมสถิติชนะ 3, เสมอ 4 และแพ้ 8 เกม ที่สำคัญเขาเคยคุม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ชนะทีมเก่า 1-0 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเดือนเมษายน 2012 มาแล้ว
ฉะนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะเสียวหัวใจเล็กน้อยเพราะเกมนี้อาจจะมีพลังแฝงที่มองไม่เห็นทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องพบกับความยากลำบากก็ได้
5. มุ่งมั่นคว้าสามแต้มเพื่อฉีกหนีคู่แข่ง
ในตอนนี้ ลิเวอร์พูล มี 28 คะแนนขึ้นเป็นจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ โดยมี ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตามมาเป็นอันดับ 2 มีแต้มตามหลัง 3 คะแนน ฉะนั้นการที่ "หงส์แดง" ได้โอกาสลงแข่งก่อนคู่แข่งหลายๆ ทีม ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะโยนแรงกดดันใส่ทีมต่างๆ เหล่านั้น
แน่นอนว่าหากสามารถบุกชนะ พาเลซ ได้นอกจากจะเป็นการยุติฟอร์มการเล่นเกมเยือนในลีกที่ย่ำแย่แล้ว ยังเป็นการทำให้พวกเขารั้งตำแหน่งผู้นำลีกได้อย่างเหนียวแน่น เพราะอย่าลืมว่าในช่วงปลายปีที่ต้องลงแข่งโปรแกรม "บ็อกซิ่งเดย์" หากพวกเขาพลาดโอกาสที่จะโดนคู่แข่งทำแต้มไล่จี้ หรือแซงหน้าก็มีสูงมาก
ฉะนั้นสามแต้มที่เซลเฮิร์สท์ พาร์ค จะทำให้ขุนพล "หงส์แดง" มีกำลังใจฮึกเหิม และพร้อมที่จะลงเล่นโปรแกรมที่สุดแน่นเอี๊ยดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่หากทีมพลาดท่าไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ สถานการณ์จะกลับตาลปัตรทันที เพราะจะทำให้ สเปอร์ส และทีมอื่นๆ อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เกอิต้าคืนทัพ!ส่องตัวจริงลิเวอร์พูลดวลพาเลซ
คาด 11 ตัวจริงของ ลิเวอร์พูล ในเกมพบ คริสตัล พาเลซ เชื่อ นาบี เกอิต้า หวนลงสนาม หลังกลับมาฟิตแล้ว ส่งผลให้ เคอร์ติส โจนส์ ต้องกลับไปเป็นสำรองบิ๊ก6หลุดแพ้1!ลอว์เรนสันฟันธงพรีเมียร์ฯวีก14
กูรูดังเมืองผู้ดี มาร์ค ลอว์เรนสัน ฟันธง พรีเมียร์ลีก วีกนี้ เชื่อบิ๊กซิกซ์มีหลุดแพ้ 1 ทีมไม่ใช้ขอ!วูล์ฟส์สนงาบโอริกี้จากรังหงส์
ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อก้อง ระบุ วูล์ฟส์ สนใจดึง ดิว็อค โอริกี้ ดาวเตะ ลิเวอร์พูล ไปร่วมทัพในตลาดช่วงเดือนมกราคมนี้ ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็พร้อมโละเขาเช่นกันมาติชลั่นแมนยูมีดีพอได้ลุ้นแชมป์ลีกซีซั่นนี้
เนมานย่า มาติช มิดฟิลด์จอมเก๋าของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศชัด "ปีศาจแดง" มีดีพอที่จะได้ลุ้นแชมป์ลีกในซีซั่นนี้ แต่ก็กระตุ้นให้เพื่อนร่วมทีมโชว์ฟอร์มเก่งให้ได้ในทุกนัดด้วย
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์