"บิ๊กแซม"แสบสุดกึ๋น! เจาะ 5 ประเด็น ลิเวอร์พูล เสมอ เวสต์บรอมฯ
Posted 28/12/2020 by siamsport
แซม อัลลาร์ไดซ์ ยังคงเป็นกุนซือตัวแสบสำหรับ ลิเวอร์พูล หลังจากที่เขานำ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน บุกมาเสมอ "หงส์แดง" 1-1 ที่สนามแอนฟิลด์ ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้พวกเขาพลาดโอกาสทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งลุ้นแชมป์ลีกไปอย่างน่าเสียดาย
เกมนี้ดูเหมือนเจ้าบ้านจะมาดีเมื่อได้ประตูนำตั้งแต่ครึ่งแรกจาก ซาดิโอ มาเน่ แต่ด้วยแท็กติกเน้นตั้งรับลึกของ "บิ๊กแซม" ทำให้ทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่สามารถทำเกมเจาะเข้าไปทำประตูได้เลย และสุดท้ายก็มาโดนทีเด็นของ ซามี่ อาจายี่ โขกตีเสมอช่วงราวๆ 10 นาทีสุดท้าย
การที่ "เดอะ เร้ดส์" ได้แค่ 1 แต้มทำให้พวกเขานำ เอฟเวอร์ตัน รองจ่าฝูง เพียง 3 คะแนนเท่านั้น ส่งผลให้การลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะทั้ง เลสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีโอกาสที่จะทำแต้มไล่บี้แชมป์เก่าเลยทีเดียว
1. ดีแต่ป้อล่อ(เป้า)ไม่เป็น
ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเรื่องของศักยภาพในการครองเกม แต่สิ่งที่พวกเขายังไม่สามารถแก้ไขได้ก็คือการที่ต้องเจอทีมที่เน้นตั้งรับเหนียวแน่น โดยเฉพาะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ทัพ "หงส์แดง" ไม่สามารถเจาะเข้าไปสร้างความหวาดเสียวในกรอบเขตโทษคู่แข่งได้มากนัก
"เดอะ เร้ดส์" มีสถิติในการครองบอลได้เหนือกว่า "เดอะ แบ็กกี้ส์" ในช่วงครึ่งแรก ก่อนจะมาได้ประตูจาก ซาดิโอ มาเน่ ซึ่งเป็นการแอสซิสต์ของ โฌแอล มาติป จากนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถทำลายกำแพงเหล็กที่ แซม อัลลาร์ไดซ์ วางแท็กติกเอาไว้
ในครึ่งหลังเจ้าบ้านยังคงทำได้เหมือนเดิมก็คือครองบอล ผ่านบอลไปมาทั่วสนาม และสุดท้ายก็ต้องจบด้วยการเปิดบอลจากริมเส้นซ้ายขวา แต่ไม่สามารถทำอะไรเกมรับที่ซ้อมกันมาเป็นอย่างดีเพื่อเตรียมป้องกันสไตล์การบุกแบบนี้ของแชมป์เก่า และสุดท้ายความอดทนผสมกับการเล่นประมาทของ "หงส์แดง" นำไปสู่ 1 แต้มสำคัญของ เวสต์บรอมฯ
แม้เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะครองบอลได้เยอะแต่พวกเขามีโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกก็คือจังหวะที่ มาเน่ ทำประตูให้ทีมขึ้นนำ ส่วนอีกจังหวะเป็นการโหม่งของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ แต่โดน แซม จอห์นสโตน ปัดด้วยปลายนิ้วไปได้อย่างหวุดหวิด นอกนั้นเจ้าบ้านทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากต่อบอลไปมาเท่านั้น
2. ปัญหาบาดเจ็บกลับมาอีกแล้ว
ทุกๆ คนรู้อยู่แล้วว่าปัญหาบาดเจ็บเป็นของคู่กันกับการเล่นฟุตบอลโดยเฉพาะการมีโปรแกรมแน่นเอี๊ยดอย่างในพรีเมียร์ลีก แต่สำหรับ ลิเวอร์พูล ต้องบอกเลยว่าพวกเขามีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเยอะมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ โดยเฉพาะในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก
ล่าสุดสาวก "เดอะ ค็อป" ต้องใจเสียกันอีกครั้งเมื่อ โฌแอล มาติป มีปัญหาบาดเจ็บที่โคนขาหนีบในช่วงครึ่งหลัง ทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จำเป็นต้องส่ง รีส วิลเลี่ยมส์ แนวรับดาวรุ่งลงมาเล่นขัดตาทัพ ซึ่งต้องยอมรับว่าการขาด ดาวเตะชาวแคเมอรูน มีส่วนทำให้เกมรับของ "หงส์แดง" ระส่ำ จนกระทั่งถูกตีเสมอ
สำหรับอาการบาดเจ็บล่าสุดของ มาติป นั่นหมายความว่า 3 เซนเตอร์แบ็กหลักของทีมจะไม่สามารถลงสนามได้ ด้วยเหตุนี้ ฟาบินโญ่ ซึ่งเป็นเซนเตอร์แบ็กจำเป็น ต้องการเป็นปราการหลังตัวกลางเบอร์ 1 ของทีมในเวลานี้ ส่วนคู่หูของเขาคงหนีไม่พ้น วิลเลี่ยมส์ กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ หรือออปชั่นเสริมก็คือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน
ฉะนั้นสิ่งนี้คงทำให้ คล็อปป์ และบอร์ดบริหารต้องหันหน้ามาคุยกันเรื่องการซื้อเซนเตอร์แบ็กชั้นดีมีประสบการณ์มาช่วยทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ที่จะเปิดในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น ซึ่งหากพวกเขาไม่ยอมควักกระเป๋า งานนี้แผนการป้องกันแชมป์อาจจะยากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า
3. ลิเวอร์ต้องการตัวปั้นเกมอย่าง ติอาโก้
การเซ็นสัญญากับ ติอาโก้ อัลกันตาร่า ก็เพื่อเหตุผลในการที่ทีมต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ นั่นก็คือการโดนคู่แข่งเล่นเกมรับเหนียวแน่น ดังนั้นนักเตะที่มีศักยภาพในการเปิดบอลตามช่องที่เฉียบคม และมีความสามารถในการพลิกแพลงการเล่นจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
ดาวเตะชาวสแปนิช เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาด และมีความคิดสร้างสรรค์ในการปั้นเกมจากพื้นที่แดนกลางเพื่อเจาะกำแพงมนุษย์ที่หนาแน่น นอกจากไปจากการเปิดบอลจากริมเส้นที่มาจากปลายสตั๊ดของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
รูปเกมแบบนี้แสดงให้เห็นว่า "หงส์แดง" จะต้องมีนักเตะอย่าง ติอาโก้ มาช่วยปั้นเกมเพราะพวกเขาจะต้องเจอกับคู่แข่งที่เน้นการเล่นตั้งรับเหนียวแน่นแบบนี้อีกหลายเกมในฤดูกาลนี้่ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ คล็อปป์ ตัดสินใจเซ็นสัญญากับนักเตะ แต่กระนั้นสิ่งนี้ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าแชมป์เก่าน่าจะมีผู้เล่นแบบ ติอาโก้ อีกคนในอนาคต
สำหรับในเวลานี้ นาบี เกอิต้า พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาก็สามารถเป็นนักเตะจอมปั้นเกมได้เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่เขามักจะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน จนทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสลงสนามซึ่งสิ่งนี้ทำให้พรสวรรค์ของนักเตะไม่มีการพัฒนาขึ้นเท่าที่ควร จะเห็นได้ว่าในเกมที่เสอมกับ ไบรท์ตัน, ฟูแล่ม และ เวสต์บรอมฯ หากทีมมีผู้เล่นอย่าง ติอาโก้ หรือ เกอิต้า ทีมน่าจะสร้างโอกาสได้มากกว่านี้หลายเท่า
ถ้า ติอาโก้ ฟิตสมบูรณ์กลับมาลงสนามได้ เขาจะเป็นนักเตะสำคัญในการเจอกับเกมลักษณะนี้ เพราะ ลิเวอร์พูล คงจะต้องเจอกับคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นทีมหนีตกชั้น หรือทีมที่ไม่อยากเห็น "หงส์แดง" ป้องกันแชมป์ได้ ด้วยการใช้แท็กติกแบบเดียวกันนั่นก็คือเน้นตั้งรับลึก
4. มนต์ขลัง มาเน่ ยังใช้ได้
คล็อปป์ เลือกใช้งามสามประสาน "หิน เหล็ก ไฟ" ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลับมาประจำแนวรุกพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากเกมที่แล้ว "บังโม" โดนดร็อปป์ ในแมตช์ที่ ลิเวอร์พูล ไล่ต้อน "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ 7-0
เกมกับ เวสต์บรอมฯ แน่นอนว่า มาเน่ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหมือนที่เขามักจะทำได้ โดยเจ้าตัวจัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายทำให้ทีมขึ้นนำไปก่อน ซึ่งในเกมเยือน พาเลซ เจ้าตัวก็ซัดประตูได้เช่นกัน ทำให้ตอนนี้นักเตะกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
จะเห็นได้ว่าในครึ่งแรก สตาร์ลูกหนังชาวเซเนกัล โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมีทั้งความรวดเร็ว, การเคลื่อนที่หาตำแหน่ง และความแข็งแกร่ง ซึ่งศักยภาพของเขาสร้างปัญหาให้กับเกมรับของทีมเยือนได้ตลอด แต่น่าเสียดายที่ครึ่งหลังเจ้าตัวมีโอกาสน้อยไปนิด เนื่องจากเวสต์บรอมเน้นตั้งรับลึกเป็นพิเศษ
ทั้งนี้จาก 41 แมตช์ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ กองหน้าความเร็วสูงทีมชาติเซเนกัล ยิงประตูได้ในแอนฟิลด์ พวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ถึง 39 แมตช์ โดยมีแค่ เวสต์บรอม (เกมล่าสุด) และ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น ที่สามารถบุกมาแบ่งแต้มที่นี่ได้
5. หมากเกมนี้ "บิ๊กแซม" รู้ต้องเล่นยังไง
แซม อัลลาร์ไดซ์ มักจะโดนแซวมาตลอดว่าเป็นกุนซือหัวโบราณที่เล่นการเล่นฟุตบอลไดเรกต์ หรือการโยนยาวจากหลังไปหน้าโดยไม่สนใจที่จะใช้งานตำแหน่งมิดฟิลด์เพื่อปั้นเกม แต่กระนั้น "บิ๊กแซม" รู้ว่าเขาจะต้องวางแท็กติกยังไงในการเจอกับทีมแบบ ลิเวอร์พูล
อย่าลืมว่า อัลลาร์ไดซ์ คือกุนซือคนสุดท้ายที่สร้างรอยด่างพร้อยในเกมพรีเมียร์ลีก ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อเขานำทีมเอาชนะในแอนฟิลด์ เมื่อกว่า 3 ปีก่อน จากนั้นเขาก็เคยนำ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน และ "เดอะ แบ็กกี้ส์" สามารถบุกมาแบ่งแต้มในเมกะลูกหนังสุดอาถรรพ์แห่งนี้
แม้ว่าในครึ่งแรก "หงส์แดง" จะข่ม เวสต์บรอมจนมิดก็ตาม และพวกเขาสามารถครองเกมได้ตลอดแต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดก็คือเจ้าบ้านไม่สามารถเจาะเข้าไปสร้างอันตรายบริเวณกรอบเขตโทษได้มากนัก ยกเว้นจังหวะที่ มาเน่ ซัดประตูเบิกร่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง อัลลาร์ไดซ์ มองเห็นแล้วว่า ลิเวอร์พูล ไม่สามารถแก้เกมที่เน้นรับเหนียวแน่นได้ ทำให้พวกเขากล้าที่จะเปิดเกมบุกเข้าใส่ และมีโอกาสสร้างความหวาดเสียวได้หลายครั้ง จนกระทั่งมาได้รางวัลแห่งความพยายามจาก ซามี่ อาจายี่
ต้องบอกเลยว่า 1 แต้มที่แอนฟิลด์ อาจจะเป็นคะแนนสำคัญต่อการอยู่รอดของ เวสต์บรอมวิช ก็เป็นไปได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พูดตรงเกิ๊น! "คล็อปป์" รับเสมอเวสต์บรอมเหมือนแพ้
เจอร์เก้น คล็อปป กุนซือลิเวอร์พูล เปิดใจหลังนำทัพ "หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมระบุเสมอเหมือนกับแพ้ แต่ก็ยกเครดิตให้กับคู่แข่งที่วางแผนมาดีและสมควรได้ 1 แต้มแล้ว"โรนัลโด้" ผงาดแข้งแห่งศตวรรษ, "เลวานดอฟสกี้" ยอดเยี่ยมแห่งปี
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินหน้าคว้ารางวัลทรงเกียรติเป็นว่าเล่น ล่าสุดได้รับโหวตคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งศวรรษ จากความสำเร็จในการค้าแข้งให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด และ ยูเวนตุส ขณะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี หลังช่วย บาเยิร์น ผงาดคว้า 3 แชมป์ซีซั่นที่ผ่านมาทีเด็ดบิ๊กแซม! ลิเวอร์พูลชวดชัย-เวสต์บรอมฮึดไล่เจ๊าแต่ยังนำฝูง
แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ออกอาการเซ็งหลัง ซาดิโอ มาเน่ ยิงให้ทีมขึ้นนำไปก่อนและแม้จะพับสนามบุกแต่เจาะใส่ เวสต์บรอมวิชฯ ไม่เข้าก่อนช่วงท้ายเกมจะโดนลูกทีมของ "บิ๊กแซม" ไล่ตีเสมอ 1-1 ชวดคว้าสามแต้มส่งผลให้ยังนำจ่าฝูง แต่ทิ้ง เอฟเวอร์ตัน รองจ่าฝูงแค่ 3 คะแนน ส่วน "เดอะ แบ็กกี้ส์" ของบิ๊กแซมรั้งรองบ๊วย ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาลิเวอร์พูลเน้นชัย! "ซาลาห์" นำ3หน้าซัดเวสต์บรอมวิชฯที่ดิ้นหนีโซนท้าย
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมเน้นหนักคว้าชัยเพื่อทำแต้มทิ้งห่างรองฝูงโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ จะลงประสานคมแดนหน้า เกมเปิดบ้านรับ เวสต์บรอมวิชฯ ที่จะสู้เพื่อหนีโซนท้ายตารางคะแนน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 27 ธ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1 (เวลา : 23.00 น.)
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์