ฟอร์มแรงพร้อมสังหารหมาป่า! เจาะ 5 ข้อก่อนเกม แมนยู รับมือ วูล์ฟส์
Posted 29/12/2020 by siamsport
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์ของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมที่จะนำลูกทีมรับมือ "หมาป่า" วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอังคารที่ 29 ธันวาคมนี้
เกมนี้แนวรุกของ "ผีแดง" อาจจะต้องลุ้น มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกฟอร์มแรง ที่มีปัญหาเจ็บไหล่จากเกมเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่หากนักเตะไม่ฟิตจริงๆ โซลชา ก็มีแนวคิดสำรองเอาไว้แล้ว นั่นก็คือการใส่ เอดินสัน คาวานี่ ลงเล่นเป็นหน้าเป้า
สำหรับแมตช์นี้ โซลชา แอนด์โค. ต้องการชัยชนะอย่างมาก เพราะหากพวกเขาเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จจะทะยานขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงทันที และกดดัน ลิเวอร์พูล ที่ต้องไปเยือน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในวันพุธนี้ ซึ่งหาก "หงส์แดง" พลาด งานนี้เหล่าสาวก "เร้ด อาร์มี่" คงได้เริ่มฝันเห็นทีมรักขึ้นนำจ่าฝูงในอนาคตทันที
1. แนวรับมีปัญหา โซลชา ต้องแก้ไข
สำหรับแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลานี้กำลังโดนพิษโรคเดี้ยงเล่นงาน รายล่าสุดเป็นคิวของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ได้รับบาดเจ็บหลัง จากเกมเสมอ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้งานนี้ โซลชา จำเป็นต้องใช้งาน เอริก ไบยี่ คู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ซึ่งทั้งคู่ก็ทำหน้าที่ได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ขณะที่ในตำแหน่งแบ็กขวาแม้ตอนนี้ อารอน วาน-บิสซาก้า จะหายเจ็บกลับมาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้วก็ตาม แต่คาดว่า "น้าลูกอม" อาจจะไม่เสี่ยงใช้งานเขาในแมตช์นี้ และเลือกให้โอกาสกับ อั๊กเซล ตวนเซเบ้า ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต่อไปอีกเกม
แน่นอนว่าเกมรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องโดนทดสอบจากเกมรุกที่รวดเร็วและแข็งแกร่งของ วูล์ฟส์ โดยเฉพาะจาก อดาม่า ตราโอเร่ กับ เปโดร เนโต้ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นเหลือเกินในเกมเสมอ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ดังนั้นนี่จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำหรับสำหรับ โซลชา ในการปรับหมากเกมรับให้เหมาะสม แม้ว่าจะต้องเจอกับวิกฤติกองหลังบาดเจ็บก็ตาม และหากเขาสามารถทำได้ ก็ต้องบอกว่าทัพ "ปีศาจแดง" คู่ควรอย่างยิ่งที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้
2. คาวานี่ ผู้กอบกู้เกมบุกแมนฯ ยูฯ
อีกปัญหาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องปวดเศียรเวียนเกล้าก็คืออาการบาดเจ็บบริเวณไหล่ของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้รับในแมตช์ปะทะกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งหากนักเตะไม่สามารถลงได้จริงๆ งานนี้ เอดินสัน คาวานี่ ต้องทำหน้าที่ไล่ล่าตาข่าย วูล์ฟส์ แทน
ในตอนแรกที่ คาวานี่ ย้ายมาเล่นกับทีมแบบฟรีเอเจนต์ หลายคนค่อนข้างค่อนขอดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด หมดปัญญาที่จะหาซื้อนักเตะสตาร์ดังมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็เลยต้องคว้า หัวหอกจอมเก๋าชาวอุรุกวัย มาร่วมทีมในช่วงเส้นตายตลาดพ่อค้าแข้ง
สำหรับตอนนี้ทุกๆ คนโดยเฉพาะสาวก "เร้ด อาร์มี่" ได้เห็นประจักษ์ชัดเต็มสองตาแล้วว่า คาวานี่ เก่งฉกาจขนาดไหน แม้ว่าตอนนี้อายุเข้าหลักสามไปแล้ว แต่ฟอร์มการเล่นยังโดดเด่น และมีส่วนกับผลการแข่งขันของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายนัด โดยเฉพาะการช่วยทีมทะลุเข้ารอบตัดเชือก ศึกคาราบาว คัพ
ขณะที่เกมล่าสุด คาวานี่ ลงมาเป็นตัวสำรอง และแอสซิสต์ให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยิงประตูในเกมเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ ดังนั้นด้วยประสบการณ์และความสามารถของ หัวหอกวัย 33 ปี คงมีประโยชน์อย่างมากในการเจาะตาข่ายทีมของกุนซือนูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต
3. เล่นในบ้านเริ่มแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สำหรับฤดูกาล 2020/2021 แมนฯ ยูไนเต็ด มีผลงานในรังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ค่อยน่าอภิรมย์มากนักในช่วงต้นซีซั่น เมื่อพวกเขาแพ้ 3 เสมอ 1 ในการเล่นเกมลีกบ้านตัวเอง สวนทางกับฟอร์มการเล่นนอกบ้านที่เลิศเลอเพอร์เฟกต์ เก็บแต้มเป็นว่าเล่น
อย่างไรก็ตามในช่วง 3 เกมที่ผ่านมา ทัพ "ปีศาจแดง" เริ่มแสดงให้เห็นแล้วว่า "โรงละครแห่งความฝัน" มีมนต์ขลังมากขนาดไหน โดยพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นด้วยการเก็บชัยชนะ 2 แมตช์ และเสมอ 1 เกม ที่สำคัญตลอด 8 เกมที่ผ่านมาทั้งการเล่นในบ้าน-นอกบ้าน ทีมของ "กุนซือเบบี้เฟซ" ชนะถึง 6 เกมเสมอแค่ 2 แมตช์ ส่วนคำว่าแพ้ไม่รู้จัก
ฉะนั้นในแมตช์ที่จะต้องต้อนรับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แน่นอนว่าบรรดาขุนพล "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมเต็มสูบที่จะปะทะกับทัพ "หมาป่า" เพราะตอนนี้ฟอร์มการเล่นในบ้านของพวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากผลงานการเล่นนอกบ้าน
ที่สำคัญเกมลีกล่าสุดที่ลงเล่นใน "เธียเตอร์ ออฟ ดรีม" พวกเขาก็เพิ่งจัดการกระซวก "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2 แต่กระนั้นจุดที่น่าเป็นห่วงก็คือในเรื่องเกมรับเพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด เสีย 2 ประตูจากการเล่น 3 แมตช์ในพรีเมียร์ลีกติดต่อกัน ดังนั้น โซลชา ต้องเน้นย้ำแนวรับไม่ให้พลาดเสียประตูง่ายๆ เด็ดขาด
4. วูล์ฟส์ มีทีเด็ดช่วง 5 นาทีสุดท้าย
หนึ่งในสิ่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องระมัดระวังเอาไว้ให้ดีๆ ก็คือทีเด็ดของ วูล์ฟส์ ที่มักจะแผงฤทธิ์ยิงประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้ายของเกม และพวกเขาก็แสดงให้เห็นมาแล้วจากการเล่นเกมพรีเมียร์ลีก 3 แมตช์หลังสุด ซึ่งงานนี้ต้องบอกเลยว่า "ผีแดง" ควรมีสมาธิให้ดีๆ
จริงๆ แล้ว "เร้ด เดวิลส์" ก็ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่มักจะยิงประตูช่วยท้ายเกมได้หลายแมตช์ ขณะที่ "หมาป่า" ก็ไม่ต่างกันเพราะในเกมกับ เชลซี พวกเขาได้ประตูชัยในนาทีที่ 90+5 ขณะที่เกมแพ้ เบิร์นลี่ย์ ได้ประตูตีไข่แตกนาทีที่ 89 และล่าสุดแมตช์เสมอ สเปอร์ส ทีมที่ได้ชื่อว่ามีเจ้าพ่อรถบัสอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ กุมบังเหียน ก็โดนตีเสมอในนาทีที่ 86
ฉะนั้นในช่วง 5 นาที่สุดท้ายของการแข่งขัน โซลชา ต้องกำชับลูกทีมให้ระมัดระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ โดยเฉพาะ โรแม็ง ซาอิส ดาวเตะชาวโมร็อกโก ที่มักจะวิ่งขึ้นมาโหม่งทำประตูจากจังหวะเตะมุม ซึ่ง "ไก่เดือยทอง" รู้ซึ้งเป็นอย่างดีในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
5. สามแต้มเพื่อทะยานสู่รองจ่าฝูง
แรงกระตุ้นสำคัญในแมตช์นี้ของบรรดานักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือหากพวกเขาคว้าชัยชนะได้ นั่นหมายความว่าทีมจะเก็บได้ 30 คะแนน ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง โดยมีแต้มตามหลัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เพียง 2 คะแนนเท่านั้น และทำให้แชมป์เก่า ต้องเกิดอาการกดดันเพราะต้องลงแข่ง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในวันพุธ
อย่าลืมว่าหาก "เดอะ เร้ดส์" พลาดท่าเก็บได้ 1 คะแนนหรือในกรณีนี้เลวร้ายที่สุดก็คือดันพ่ายแพ้นั่นหมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถมองไปถึงการขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงทันที เพราะพวกเขายังมีข้อได้เปรียบจากการที่มีเกมอยู่ในมือ 1 แมตช์
ที่สำคัญเกมล่าสุด เลสเตอร์ กับ เชลซี ดันเข้าโครงการคนละครึ่ง !! เมื่อทำได้แค่เสมอกับคู่แข่ง ในขณะที่แมตช์ระหว่าง เอฟเวอร์ตัน พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จำเป็นต้องเลื่อนโปรแกรม เนื่องจากทัพ "เรือใบสีฟ้า" มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในทีม ทำให้เกมนี้จึงเป็นโอกาสทองที่ แมนฯ ยูฯ จะขึ้นไปยึดอันดับ 2
ในขณะเดียวกัน "ผีแดง" ก็คงคาดหวังว่า สตีฟ บรูซ ตำนานกองหลังของสโมสร จะใช้ "แพสชั่น" ความเป็นเด็กผี นำ นิวคาสเซิ่ล หยุดความร้อนแรงของ "เดอะ เร้ดส์" ได้สำเร็จ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โรนัลโด้อย่างหล่อ!เผยที่มารางวัลแข้งแห่งปีของเลวานฯ
ตุ๊ตโต้สปอร์ต สื่อของอิตาลี ตีข่าว ที่จริงแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือคนที่ได้รับเสียงโหวตจากแฟนบอลให้ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปี 2020 แต่ดาวเตะชาวโปรตุกีสกับ จอร์จ เมนเดส เอเยนต์คู่ใจเลือกที่จะยกรางวัลนี้ให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เพราะอีกฝ่ายคู่ควรกับรางวัลนี้มากกว่า และคิดว่าที่ โรนัลโด้ ได้เสียงโหวตเยอะมันมาจากเรื่องชื่อเสียงของเขาเป็นหลัก
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์