ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 4 เหตุผลที่ แมนยู มีโอกาสทองบุกทำลายสถิติไร้พ่ายกว่า 3 ปีในแอนฟิลด์

4 เหตุผลที่ แมนยู มีโอกาสทองบุกทำลายสถิติไร้พ่ายกว่า 3 ปีในแอนฟิลด์

Posted 16/01/2021 by siamsport

เกม "แดงเดือด" ที่สนามแอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ เป็นอะไรที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นแบบทวีคูณ เพราะผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ดูเหมือนสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง และไม่แน่ว่า "ปีศาจแดง" อาจจะเป็นทีมแรกในรอบกว่า 3 ปีที่สามารถบุกมาคว้า 3 คะแนนที่นี่ได้
     เหตุผลสำคัญที่หลายคนค่อนข้างยกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่าคู่อริร่วมชาติก็คือฟอร์มการเล่นในช่วงหลายๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา "เร้ด เดวิลส์" มีเกมบุกที่ดุดัน ส่วนเกมรับก็ตามมาตรฐานไม่ได้เหนียวแน่น แต่ก็ไม่เสียประตูง่าย โดยเฉพาะการมี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา

     ในขณะที่เกมรับของ "หงส์แดง" ตอนนี้ค่อนข้างย่ำแย่ถึงจะเสียประตูน้อย แต่การเสียประตูส่วนใหญ่ก็ส่งผลให้ทีมทำแต้มหลุดมือไปหลายเกม ที่สำคัญเกมรุกที่ว่าโหดสลัดปลัดบอกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เวลานี้กลับฝืดเคืองสุดๆ

     เกมลีกยิงได้แค่ 1 ลูกจาก 3 แมตช์หลังสุดในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีเกมบุกที่ดุดันสร้างโอกาสหวาดเสียวได้ตลอด ฉะนั้นต้องยอมรับด้วยสถานการณ์ฟอร์มเป๋าของเจ้าบ้าน จึงเป็นโอกาสทองที่ "ปีศาจแดง" จะบุกมาทำลายสถิติไร้พ่ายของ ลิเวอร์พูล จริงๆ

 

1. เกมรับที่แสนเปราะบาง
     ลิเวอร์พูล จำเป็นต้องใช้งานผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์อย่าง ฟาบินโญ่ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (บางเกม) ลงมาทำหน้าที่เป็นเซนเตอร์แบ็กขัดตาทัพ เนื่องจากปราการหลังตัวหลักโดนอาการบาดเจ็บพรากไปจากเกมลูกหนังอีกนานหลายเดือน

     เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ต้องใช้เวลาอยู่กับโรงหมอและโรงยิมมากกว่าในสนามซ้อม ขณะที่ โฌเอล มาติป ก็พึ่งพาไม่ค่อยได้เพราะสภาพร่างกายสามวันดีสี่วันเดี้ยงซึ่งก็แสดงให้เห็นอยู่บ่อยๆ ในฤดูกาลนี้

     ยิ่งไปกว่านั้นกองหลังตัวเลือกแรกของทีมก็กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มตกแบบรูดมหาราชนั่นก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดยแบ็กขวาเลือดผู้ดีมีส่วนต้องรับผิดชอบเต็มๆ จากการกะจังหวะผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ แดนนี่ อิงส์ ได้ยิงประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่ไก่โห่ และยังเป็นประตูชัยของ เซาธ์แฮมป์ตัน ซะด้วย

     จังหวะนั้นไม่ใช่ครั้งแรกที่ "เจ้าหนูเทรนต์" ทำผิดพลาดในฤดูกาลนี้ ยังไม่หมดแค่นั้นประสิทธิภาพในเกมรุกที่เคยน่ากลัวของเขาก็ขาดหายไป ในขณะที่เกมรับก็เล่นไม่ค่อยแน่นอน ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะโดน มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งซัดไป 3 ประตูจาก 4 เกมหลังสุดที่เล่นเกม "แดงเดือด" ที่มีทั้งความเร็วความคล่องตัวทดสอบแน่นอน
 

2.  เกมรุกขาดความคงเส้นคงวา
     "เดอะ เร้ดส์" ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆ ในการยิงประตูจากการลงสนาม 3 เกมพรีเมียร์ลีกติดต่อกันซึ่งถือว่าย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2005 ซึ่งต้องยอมรับว่านี่คือวิกฤติในแดนหน้าของ ลิเวอร์พูล จริงๆ

     นับตั้งแต่ที่ ดีโอโก้ โชต้า ได้รับบาดเจ็บ ในเกมเยือน มิดทิลแลนด์ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นั่นทำให้ "หงส์แดง" มีตัวเลือกในเกมรุกเพียงแค่ 3 ประสาน "หิน เหล็ก ไฟ" ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เท่านั้น ส่วน ทาคุมิ มินามิโนะ กับ ดิว็อค โอริกี้ ยังพึ่งพาไม่ได้

     แนวรุก "เอสเอ็มเอฟ" (SMF) ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมที่ไล่ต้อน "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ 7-0 ที่สนามเซลเฮิร์สท์ พาร์ค ก่อนที่จะถึงช่วงคริสต์มาส และหลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับตาลปัตร กลายเป็นว่าพวกเขาแทบจะไม่สามารถช่วยยิงประตูได้เลย

     เหตุผลที่จะนำมาใช้อ้างได้ในเวลานี้ก็คือ ลิเวอร์พูล เจอโปรแกรมติดต่อกันและ คล็อปป์ ไม่มีตัวเลือกในเกมรุกมากนักจึงต้องส่ง 3 คนนี้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจบเกมเอฟเอ คัพ ทั้ง มาเน่, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ มีเวลาพักฟื้นร่างกายมากกว่านักเตะ "ผีแดง" ซึ่งเพิ่งลงสนามในเกมตกค้างเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

     ฉะนั้น คล็อปป์ คงคาดหวังว่าพวกเขาน่าจะมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ และสามารถกลับมาเรียกฟอร์มเก่งในแมตช์สำคัญนี้ แต่ถ้าทำไม่ได้ บทสรุปสุดท้ายคงรู้ว่าทีมไหนจะได้เฮ ......

3. ป้อมปราการที่แอนฟิลด์ แต่ แมนยู ตัวพ่อเกมเยือน
     เมื่อวันสถิติแบบเฮด-ทู-เฮด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะเป็นรอง เพราะ ลิเวอร์พูล มักจะทำผลงานได้ดีกว่าเวลาที่ต้องลงสนามทำศึก "แดงเดือด" ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา แต่อย่าลืมว่าตอนนี้สถานการณ์ของ "หงส์แดง" ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมคนไฟแรงชาวนอร์เวย์ ทำได้เพียงแค่เสมอกับแพ้ในการปะทะกับ "หงส์แดง" โดยสองครั้งก่อนหน้านี้ที่มาเยือนถิ่นแอนฟิลด์บทสรุปจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

4 เหตุผลที่ แมนยู มีโอกาสทองบุกทำลายสถิติไร้พ่ายกว่า 3 ปีในแอนฟิลด์
 

     อย่างไรก็ตามเมื่อเช็คสถิติในการเล่นเกมเยือนของ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้ต้องบอกเลยว่าน่ายำเกรงสุดๆ พวกเขาสามารถเก็บได้ถึง 22 คะแนนจาก 24 แต้ม คว้าชัยชนะ 7 จาก 8 เกมเยือน รวมไปถึงบุกเสมอ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี้

     บททดสอบสำคัญในการเล่นนอกบ้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คือการบุกมายังรังที่เต็มไปด้วยมนต์ขลังของคู่อริร่วมชาติ ซึ่งมีสถิติที่โคตรสยดสยองนั่นก็คือการที่ไม่แพ้ทีมไหนเลยนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017

     ถ้า แมนฯ ยูฯ บุกมาหยุดสถิติไร้พ่ายในแอนฟิลด์ ได้สำเร็จ คงต้องซูฮกแล้วว่าพวกเขาคือเจ้าพ่อทีมเยือน และไม่มีทีมไหนเจ๋งกว่า "เร้ด เดวิลส์" อีกแล้ว 
 

4. ความฮึกเหิมที่ต้องการประสบความสำเร็จ
     หลังจากที่ต้องเป็นเบี้ยล่างให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล มานานหลายปี ตอนนี้ต้องบอกเลยว่าเป็นโอกาสดีมากๆ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะกลับมาผงาดครองแชมป์ลีกอีกครั้งในฤดูกาลนี้

     ผู้เล่นของแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งตัวจริงและตัวสำรองกำลังฮึกเหิมสุดๆ ยิ่งตอนนี้พวกเขาแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นตั้งรั้งจ่าฝูงพร้อมมีแต้มเหนือกว่า 3 คะแนน ทำให้เกมบุกแอนฟิลด์ สุดสัปดาห์นี้มีความสำคัญมากๆ กับทั้งสองทีม

     หาก "ปีศาจแดง" คว้าชัยชนะกลับบ้านได้ นั่นหมายความว่าพวกเขาจะทิ้งห่าง ลิเวอร์พูล 6 คะแนนโอกาสที่จะได้เห็นโทรฟี่พรีเมียร์ลีก กลับไปประทับที่ตู้โชว์ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เริ่มสดใส หลังห่างหายไปนานนับตั้งแต่ที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นำทีมคว้าแชมป์ส่งท้ายก่อนเกษียณตัวเองในปี 2013

      ในขณะเดียวกันหากแชมป์เก่าดับซ่าทีมเยือนได้ก็จะมีแต้มเท่ากัน แต่ผลต่างประตูได้เสีย "หงส์แดง" เหนือกว่าและได้คืนสู่บัลลังก์จ่าฝูงอีกครั้ง แถมยังเป็นการเรียกความมั่นใจของทีมกลับคืนมา พร้อมถีบความผิดหวังใส่แข้ง "ผีแดง" ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบจนเกิดอาการเป๋ก็ได้

     แต่หากทั้งสองทีมทำได้เพียงแค่เสมอกัน ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังคืบคลานมาอย่างช้าๆ ที่สำคัญยังแข่งน้อยกว่าทั้งคู่...

     แฟนบอล "เดอะ ค็อป" กับ "เร้ด อาร์มี่" มัวแต่คุยโวเกทับบลัฟแหลกเรื่องคว้าแชมป์ราวกับโลกนี้มีแค่ 2 ทีม แต่บทสรุปสุดท้ายคนที่ได้กลายเป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า งานนี้ละฮาสนั่นแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ธนวัฒน์ฟอร์มแจ่มซัดให้เลสเตอร์ ก่อนทำศึกแมนยู U-23
    "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ทำประตูในนามการเล่นให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีในศึก อีเอฟแอล โทรฟี่ แต่สุดท้าย "จิ้งจอกยังบลัด" จะพ่ายต่อ ทรานเมียร์ ไป 2-4 เมื่อคืนวันพุธที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา
  • แรชฟอร์ดเผยเรื่องเดียวที่เสียดายในอาชีพการเล่น
    มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ สิ่งเดียวที่ตนรู้สึกเสียดายในอาชีพการค้าแข้งคือเรื่องที่จะไม่มีวันได้เล่นให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมเผย ดีใจที่ได้คุยกับอดีตบรมกุนซือชาวสกอตต์
  • แมนยูมีลุ้น? มิลานติดเรื่องค่าจ้างยังกล่อมชัลฮาโนกลูต่อสัญญาไม่ได้
    สกายสปอร์ต อิตาเลีย สื่อกีฬาของอิตาลี ระบุ เอซี มิลาน ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรในการโน้มน้าวใจให้ ฮาคาน ชัลฮาโนกลู ต่อสัญญากับทีม ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่บอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แอบเหล่เขาอยู่
  • โคลฟันธงแมนยูมีลุ้นซิวแชมป์ลีกซีซั่นนี้หรือไม่
    แอนดี้ โคล อดีตหัวหอกคนดังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ ในมุมมองของตนนั้นทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยังไม่ดีพอที่จะซิวแชมป์ลีกในซีซั่นนี้มาเชยชมได้ แต่ชี้ ตอนนี้ก็ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของ "ปีศาจแดง" แล้ว เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าไม่กี่เดือนก่อนพวกเขามีสภาพน่าเป็นห่วงพอตัว

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »