ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เกมสำคัญเพื่อขวัญกำลังใจก่อนบิ๊กแมตช์! เปิด 5 ข้อ ลิเวอร์พูล ดวล ไบรท์ตัน

เกมสำคัญเพื่อขวัญกำลังใจก่อนบิ๊กแมตช์! เปิด 5 ข้อ ลิเวอร์พูล ดวล ไบรท์ตัน

Posted 03/02/2021 by siamsport

ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในช่วงคืนฟอร์มโหดหลังสามารถเก็บชัยชนะในลีกได้ 2 แมตช์ติดต่อกัน โดยเกมต่อไปพวกเขามีคิวเปิดรังแอนฟิลด์ รับมือ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ผลงานดีเช่นกันเพราะเพิ่งปราบ สเปอร์ส มาในเกมล่าสุด

แมตช์นี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมคงต้องใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ยืนเป็นคู่เซนเตอร์แบ็กอีกเกม เพราะ 2 กองหลังตัวใหม่ทั้ง เบน เดวิส กับ โอซาน คาบัค เพิ่งจะย้ายมาร่วมทีม น่าจะยังไม่พร้อมซักเท่าไหร่

ส่วนที่น่าเศร้าก่อนเกมก็คือ "เดอะ เร้ดส์" ต้องเสีย โฌแอล มาติป ไปตลอดซีซั่นนี้แล้ว และเขาคงต้องใช้เวลาพักฟื้นร่างกายด้วยการโขกหมากรุกกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ ส่วน ฟาบินโญ่ ยังคงต้องลุ้นความฟิตต่อไป

1. เพิ่มกำลังใจด้วยสองกองหลังใหม่ 
ข่าวร้ายที่ทำให้สาวก "เดอะ ค็อป" เซ็งกันไปหมดก็คือเรื่องที่ โฌแอล มาติป ได้รับบาดเจ็บหนักจนหมดสิทธิ์ช่วยทีมตลอดช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่าเซนเตอร์แบ็กอาชีพที่มีประสบการณ์ของ "หงส์แดง" ไม่มีเหลืออีกแล้ว

 เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ สองตัวหลักในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กอยู่ในช่วงพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ และไม่มีวี่แววว่าจะสามารถกลับมาช่วยทีมได้ในฤดูกาลนี้ แถม มาติป ยังต้องปิดเทอมยาว ขณะที่ ฟาบินโญ่ เซนเตอร์แบ็กขัดตาทัพ ยังมีอาการเดี้ยง

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเข้าไปเคาะประตูห้องบอร์ดบริหารให้ควักกระเป๋าซื้อกองหลังใหม่ช่วงเดดไลน์ตลาดพ่อค้าแข้งฤดูหนาว แน่นอนว่าการได้ เบน เดวิส กับ  โอซาน คาบัค มาร่วมทีมทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล ค่อนข้างโล่งใจเพราะอย่างน้อยๆ พวกเขามีกองหลังอาชีพที่มีประสบการณ์พอสมควรมาช่วยแบ่งเบาภาระทีม

อย่างไรก็ตามในเกมรับมือ ไบรท์ตัน ทั้ง คาบัค กับ เดวิส น่าจะยังไม่พร้อมลงสนาม ดังนั้นในแมตช์นี้ คล็อปป์ คงจะต้องใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ทำหน้าที่เป็นคู่ปราการหลังตัวกลางต่อไป

สำหรับ "เฮนโด้" ต้องบอกว่าทำผลงานได้ดีเยี่ยมในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก ขณะที่ "หนุ่มแนต" ถือว่าพัฒนาขึ้นเยอะมากในการทำหน้าที่เป็นตัวหลักในแนวรับของทีม ซึ่งในอนาคตเขาคงเป็นตัวเลือกหลักของ คล็อปป์ แน่นอน 

2. อาจยังไม่ได้เห็น 3 ประสานร่วมงานกัน


ปัญหาบาดเจ็บของกองหลังเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับลิเวอร์พูล เช่นเดียวกันในเรื่องเกมรุกที่ "เดอะ เร้ดส์" ก็เจอกับเรื่องวุ่นวายเช่นกัน เพราะ ซาดิโอ มาเน่ ยังไม่น่าจะฟิตมากพอที่จะลงสนามในเกมปะทะ "เดอะ ซีกัลส์"

เกมเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด พวกเขาไม่มี มาเน่ ช่วยเกมรุก ทำให้ คล็อปป์ ต้องเลือกใช้งาน ดิว็อค โอริกี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเขาไม่สามารถช่วยขู่กองหลัง "ขุนค้อน" ได้มากนัก แต่ในครึ่งหลังถือว่าทำผลงาได้ดีประสานงานกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตามในเกมรับมือ ไบรท์ตัน ดูเหมือน ดาวเตะชาวเซเนกัล อาจจะไม่ได้ลงสนาม เพราะ คล็อปป์ เป็นคนเปิดปากเองว่าไม่รีบเร่งส่งนักเตะลงสนามหากยังไม่ฟิตเต็มร้อย ฉะนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" คงไม่ได้เห็นสามประสาน "หิน เหล็ก ไฟ" อีกเกม

สำหรับเกมรุกมีความเป็นไปได้สูงมากๆ ที่ คล็อปป์ จะจับ เซอร์ดาน ชากีรี่ ลงประสานงานกับ "บังโม" ขณะที่หน้าเป้า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ น่าจะได้กลับมาลงเล่นตัวจริง หลังโชว์ฟอร์มเด็ดหลังลงเป็นตัวสำรองเกมต้อน เวสต์แฮม

หาก นายใหญ่ชาวเยอมัน เลือกใช้ ชากีรี่่, ซาลาห์ และ ฟีร์มีโน่ ก็ต้องบอกว่าสามารถปั่นป่วนเกมรับของทีมเยือนได้แน่นอน ในขณะเดียวกัน คล็อปป์ อาจจะเปลี่ยนแผนส่ง เคอร์ติส โจนส์ ที่ฟอร์มกำลังขึ้นลงเล่นร่วมกับ "บังโม" และ "บ็อบบี้" ก็ได้

 3.  ลุ้นทำสถิติเก็บคลีนชีตของ "พ่อหมี"


อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลียน ยังคงมองหาสถิติในการเก็บคลีนชีตนัดที่ 50 กับสโมสรลิเวอร์พูล และในแมตช์ที่ 112 ที่ต้องพบกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน แน่นอนว่าเขาคาดหวังที่จะไม่เสียประตู
   
ในแมตช์ที่ออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นั้น อลีสซง มีลุ้นที่จะเก็บคลีนชีตได้ แต่ด้วยความประมาทของเกมรับ ทำให้พวกเขาเสียประตูในช่วงท้ายเกม ซึ่งหากมองตามความเป็นจริงแล้ว ถ้านักเตะ "หงส์แดง" ไม่เสียสมาธิ อลีสซง คงทำสำเร็จไปแล้ว

ปัจจุบันมีผู้รักษาประตู "เดอะ เร้ดส์" เพียงแค่ 11 คนเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จเก็บคลีนชีตได้ครบ 50 แมตช์ โดยคนสุดท้ายก็คือ ซิมง มิโญเลต์ นายทวารชาวเบลเยียม ที่ปัจจุบันย้ายไปเฝ้าเสาในบ้านเกิดกับ คลับ บรูช

สำหรับสถิติของ อลีสซง ในเกมพบ กับ ไบรท์ตัน ค่อนข่างดีเลยทีเดียว โดยเขาไม่เสียประตูให้กับทัพ "นกนางนวล" 3 แมตช์ จาก 5 เกมที่ได้ดวลกัน แถมเสียแค่ 2 ประตูเท่านั้น ถือว่าเป็นผลงานที่ดีเยี่ยมของ "พ่อหมี" ในการพบกับทีมเยือน

4. ติอาโก้ พิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะกับสไตล์ลิเวอร์พูล


ช่วงที่ผ่านมา ติอาโก้ อัลกันตาร่า โดนพวกนักวิจารณ์และโค้ชคีย์บอร์ดตำหนิอย่างมากว่าเป็นคนที่ทำให้เกมรุกสไตล์เร็วสายฟ้าฟาดของ ลิเวอร์พูล ต้องสะดุด เพราะเขามักจะใช้เวลาในการครองบอลนานเกินไป ซึ่งไม่ใช่สไตล์ที่ "หงส์แดง" นับตั้งแต่ที่ คล็อปป์ กุมบังเหียน

หลายครั้งที่บอลไปอยู่ในเท้าของ ติอาโก้ ค่อนข้างนาน แทนที่ในบางจังหวะ "หงส์แดง" มีโอกาสที่จะเล่นสวนกลับฉับพลันฉบับ คล็อปป์ ซึ่งการครองบอลรอจังหวะแบบนั้น ทำให้ทีมเสียโอกาสในการทำลายเกมรับของคู่แข่ง

ยกตัวอย่างจังหวะที่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูนำ เวสต์แฮม 2-0 หากบอลไปอยู่ที่เท้าของ ติอาโก้ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะใช้เวลาในการครองบอลเพื่อรอให้เพื่อนร่วมทีมวิ่งเติมขึ้นมา ซึ่งนั่นถือเป็นการตัดโอกาสในการสวนกลับไปอย่างน่าเสียดาย แต่เดชะบุญที่เรื่องแบบนั้นไม่เกิดขึ้น

แม้แต่ คล็อปป์ ก็ยอมรับว่า ดาวเตะชาวสแปนิช ต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่และแนวทางการเล่นของ "เดอะ เร้ดส์" ฉะนั้น ติอาโก้ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ใช่นักเตะที่ทำลายสไตล์ "เฮฟวี่ เมทัล" ของ  ลิเวอร์พูล

5. ต้องชนะเพื่อความฮึกเหิมก่อนดวล แมนฯ ซิตี้


การรับมือกับ ไบรท์ตัน เป็นแมตช์สำคัญมากๆ เพราะ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถพลาดได้แม้แต่เกมเดียวหากยังต้องการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากพวกเขามีแต้มตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูง 4 คะแนน แถม "เรือใบสีฟ้า" แข่งน้อยกว่า 1 นัด

ยิ่งไปกว่านั้นในแมตช์ต่อไปทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะต้องเดินทางมาเยือนถิ่นแอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ด้วย ซึ่งแน่นอนว่านี่คือหนึ่งในเกมที่มีความสำคัญมากๆ เพราะอาจจะเปลี่ยนสถานการณ์ในเกมลีกไปเลย

ฉะนั้นหาก คล็อปป์ สามารถกระตุ้นให้ลูกทีมปราบ ไบรท์ตัน ได้ ก็ถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่จะต้องปะทะกับ "ของจริง" ที่สำคัญในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ คาดว่าผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล น่าจะสมบูรณ์ครบทุกตำแหน่ง ซึ่งคงจะทำให้เกมนี้มีความสนุกเข้มข้นแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ไบรท์ตัน ไม่ใช่หมูที่จะให้เชือดได้ง่ายๆ เพราะพวกเขาก็เพิ่งจะจัดการดับซ่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาแล้วในเกมล่าสุด แถมรูปเกมยังเหนือกว่า "ไก่เดือยทอง" ซะด้วย ฉะนั้น ลิเวอร์พูล ต้องเล่นให้ละเอียดหากจะเก็บ 3 คะแนนในแมตช์นี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • มาแล้ว!คาบัคเปิดตัวกับลิเวอร์พูลเรียบร้อย
    โอซาน คาบัค ปรารหลังดาวรุ่งเลือดเติร์ก เปิดตัวเป็นแข้งใหม่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เรียบร้อย หลังปิดดีลย้ายมาจาก ชาลเก้ 04 แบบยืมตัว เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
  • ของดีราคาย่อมเยา! "คล็อปป์" เปิดใจเหตุผลเลือกเซ็นเบนเดวิส
    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเลือดด๊อยท์ชของ ลิเวอร์พูล เนื้อเต้นหลังได้ เบน เดวิส กองหลังตัวใหม่มาเสริมทัพก่อนปิดตลาดพ่อค้าแข้ง โดยงานนี้เจ้าตัวมั่นใจ กองหลังเลือดผู้ดี จะสามารถเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องเกมรับของทีมได้เป็นอย่างดี และถือเป็นผู้เล่นที่สามารถพัฒนาศักยภาพได้อีกเยอะ
  • ทางการ!ลิเวอร์พูลประกาศปล่อยมินามิโนะซบเซาธ์แฮมป์ตันแบบยืมตัว
    ลิเวอร์พูล ระบุเอง ยอมปล่อย ทาคูมิ มินามิโนะ ปีกเลือดซามูไรให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยสัญญายืมตัวจนจบซีซั่นนี้ ขณะที่ เจมส์ เพียร์ซ เหยี่ยวข่าวที่รู้เรื่องเกี่ยวกับ "หงส์แดง" เป็นอย่างดี แฉว่าที่จริง "นักบุญ" อยากใส่อ็อปชั่นซื้อขาดเข้าไปด้วย แต่ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธไป
  • ให้ทายใครเสี้ยม! "เดวิส" วิ่งแจ้นลบทวิตพาดพิงแรงแฟนลิเวอร์พูล
    เบน เดวิส กองหลังเลือดผู้ดี ที่กำลังมีข่าวเตรียมย้ายจาก เปรสตัน นอร์ธเอนด์ มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล โดนดีเข้าแล้วหลังเคยทวิตข้อความหยอกล้อแฟนบอล "หงส์แดง" เมื่อหลายปีก่อน จนต้องรีบเข้าไปลบข้อความในทวิตเตอร์ แต่งานนี้โดนมือดีแคปหน้าจอและนำไปโพสต์ล้อเลียนเรียบร้อย

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »