จับติ้ว "ช้าง เอฟเอคัพ 2020" รอบ 8 ทีม ! คู่ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านดวลเดือดปะทะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ด้าน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เตรียมฉะ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ขณะที่ดาร์บี้แมตช์ภาคตะวันออก ชลบุรี เอฟซี เปิดรังซดแข้งตราด เอฟซี ส่วนสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด งานเบาสุดเตรียมหวดกับ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ตัวแทนหนึ่งเดียวจากไทยลีก 3 แข่งขันวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.64 ทุกคู่
   
เมื่อวันจันทร์ที่ 1 มี.ค.64 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ฌเยเครื่องดื่มตราช้าง ได้จัดพิธีจับสลากประกบคู่ในศึกฟุตบอลถ้วย "ช้าง เอฟเอ คัพ" 2020 รอบ 8 ทีมสุดท้าย

โดยพิธีจับสลากครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณสุรพล อุทินทุ ผู้บริหารสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย, คุณกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด, คุณสาวิตร ศรอินทร์ ผู้จัดการแผนกพัฒนาการตลาดรถเพื่อพาณิชย์ ฝ่ายการตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, คุณพงษ์วรรธน์ ติยะพรไชย ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและสื่อสารการตลาด บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด รวมถึงตัวแทนจากสโมสรต่างๆ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

โดยสโมสรที่ผ่านเข้ามาสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย มีสโมสรจากไทยลีก 1 ทั้งหมด 7 ทีม ประกอบด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ตราด เอฟซี, ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และสโมสรจากไทยลีก 3 ทะลุผ่านเข้ารอบมา 1 ทีมคือ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด

สำหรับผลการจับสลากประคู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย มีดังนี้

- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

- สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด (ไทยลีก 3)

- ชลบุรี เอฟซี พบ ตราด เอฟซี

- ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ทั้งนี้ศึกฟุตบอลถ้วย “ช้าง เอฟเอ คัพ 2020” รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะแข่งขันในวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.64 โดยกติกาในรอบนี้ แข่งในเวลาปกติ 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที หากเสมอกันจะมีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที และหากเสมอกันอีกจะมีการยิงจุดโทษ โดยใช้การยิงแบบ ABAB โดยทีมที่ชนะเลิศในรายการนี้ จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และได้สิทธิ์ไปเล่นในศึก เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2022

อนึ่งโค้วต้านักกีฬาต่างชาติเป็น 3+1 (ต่างชาติ 3 + เอเชีย 1) โดยการเปลี่ยนตัวนักกีฬา สามารถเปลี่ยนตัวสำรองได้ 5 คน และเปลี่ยนตัวสำรองเพิ่มได้อีก 1 คนในช่วงต่อเวลาพิเศษ