เช็กประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก ประจำแมตช์เดย์ที่ 27 โดยในสุดสัปดาห์นี้มีบิ๊กแมตช์ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ส่วนคู่อื่นๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย
    "เบิร์นลี่ย์-อาร์เซน่อล"
    เบิร์นลี่ย์ มองหาชัยชนะเหนือ อาร์เซน่อล ไป-กลับในเกมลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1962/63 หลังเกมแรกบุกคว้าชัยถึงถิ่น เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาได้ 1-0

    แอชลี่ย์ บาร์นส์ มีส่วนร่วมทำประตูคิดเป็น 43% ของประตูทั้งหมดที่ "เดอะ คลาเร็ตส์" ทำได้ใส่ "เดอะ กันเนอร์ส" ในเกม พรีเมียร์ลีก โดยที่เจ้าตัวเป็นผู้เล่นชุดปัจจุบันคนเดียวที่เคยสอยตาข่ายใส่ อาร์เซน่อล ได้

    อย่างไรก็ตาม อาร์เซน่อล ไม่แพ้ที่ เทิร์ฟ มัวร์ สนามเหย้าของ เบิร์นลี่ย์ มาแล้ว 8 เกม(ชนะ 4 เสมอ 4) โดยเก็บคลีนชีตได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุด

    ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ทำประตูใส่ เบิร์นลี่ย์ มากที่สุดเหนือทีมอื่นๆ ที่เขาเคยทำได้ใน พรีเมียร์ลีก (7 ประตู)

    "ไบรท์ตัน-เลสเตอร์"
    ไบรท์ตัน ตั้งเป้าคว้าชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ บนเกมลีกนัดแรกในรอบ 8 เกม หลังก่อนหน้านี้เสมอ 2 แพ้ 5

    นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2017 มีเพียง เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ แมนฯ ซิตี้(339) เท่านั้นที่สร้างสรรค์โอกาสทำประตูมากกว่า ปาสกาล กรอสส์ แข้งตัวกลั่นของ "เดอะ ซีกัลส์"(242)

    เลสเตอร์ ไม่แพ้ตลอด 7 นัดหลังสุดที่เจอกับ ไบรท์ตัน ในเกม พรีเมียร์ลีก (ชนะ 5 เสมอ 2)

    เจมี่ วาร์ดี้ มีส่วนร่วมกับประตู 8 ลูกจาก 6 เกมหลังที่เจอกับ "นกนางนวล" โดยแบ่งเป็น 5 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์

    "ลิเวอร์พูล-ฟูแล่ม"
    แม้จะแพ้เกมในบ้านมาแล้ว 5 นัดติดต่อกัน แต่ ลิเวอร์พูล ก็พ่ายต่อ ฟูแล่ม ที่ แอนฟิลด์ ครั้งเดียวเท่านั้นที่เจอกับ ฟูแล่ม บนลีกสูงสุด 23 เกม(ชนะ 16 เสมอ 6) อีกทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเลือดด๊อยช์ทของ "หงส์แดง" ก็ไม่เคยแพ้ต่อทีมน้องใหม่ พรีเมียร์ลีก เลยสักครั้งจาก 15 เกมก่อนหน้านี้ (ชนะ 14 เสมอ 1)

    อย่างไรก็ตาม ฟูแล่ม ยังมีโอกาสเป็นทีมจากกรุงลอนดอนทีมแรกที่สามารถบุกเอาชนะทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ ลิเวอร์พูล ได้ในฤดูกาลเดียวกัน นับตั้งแต่ที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 2015/16

    นอกจากนี้ เกมเยือนของ "เจ้าสัวน้อย" ช่วงหลังถือว่าโดดเด่นสุดๆ เมื่อพวกเขาไม่แพ้มาแล้ว 7 เกม ซึ่งเป็นสถิตินานที่สุดของสโมสรในการเล่นลีกสูงสุด

    "แมนฯซิตี้-แมนฯยูไนเต็ด"
     หลังจากซีซั่นก่อน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แพ้คาบ้านต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 ทว่าพวกเขาก็ไม่แพ้เกมในบ้านตัวเองในเกม พรีเมียร์ลีก ต่อ "ปีศาจแดง" 2 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2010

    หาก ซิตี้ ไม่แพ้ในเกมนี้ ก็จะทำให้พวกเขาสร้างสถิติใหม่ของสโมสรด้วยการไม่แพ้ใครนาน 28 นัดในทุกรายการ แต่หาก ยูไนเต็ด สามารถบุกชนะ ซิตี้ ได้ จำทำให้ "เร้ด เดวิลส์" เอาชนะถึงถิ่น "เรือใบสีฟ้า" 3 เกมติดต่อกันทุกรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2000

    โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีโอกาสที่จะเป็นกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด คนแรกที่สามารถบุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ทุกรายการได้ตลอด 3 เกมแรกที่ออกไปเยือน

    "สเปอร์ส-คริสตัล พาเลซ"
    ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ไม่แพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ ตลอด 11 นัดหลังสุดที่เจอกันในเวที พรีเมียร์ลีก โดยเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดที่พวกเขาเคยเจอมา

    แฮร์รี่ เคน กองหน้า "ไก่เดือยทอง" ทำประตูในเกมวันอาทิตย์ มากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ ในซีซั่นนี้ โดยเจ้าตัวทำได้ 12 ลูกจากการลงเล่น 16 นัดในวันสุดสัปดาห์

    "ดิ อีเกิลส์" มองหาชัยชนะเกมเยือนสองนัดติดต่อกันในเกมลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2020 อย่างไรก็ตาม พาเลซ ไม่สามารถบุกเอาชนะ สเปอร์ส มาแล้ว 8 นัดติด นับตั้งแต่ที่เคยเอาชนะได้ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน(รังเหย้าเก่า สเปอร์ส) ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1997

    "เชลซี-เอฟเวอร์ตัน"
    การเล่นในบ้านตัวเองของ เชลซี ยามเจอกับ เอฟเวอร์ตัน บอกเลยว่ายอดเยี่ยมสุดๆ เมื่อพวกเขาไม่แพ้ต่อ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" มาแล้ว 25 นัดติดต่อกันบนเวทีลีก พรีเมียร์ลีก (ชนะ 14 เสมอ 11) โดยมีแค่ สเปอร์ส เท่านั้นที่ "สิงห์บลูส์" ไม่แพ้นานกว่าบนประวัติศาสตร์ลีกสูงสุด(27 นัด ระหว่างปี 1990-2016)

    โธมัส ทูเคิ่ล เตรียมกลายเป็นกุนซือ พรีเมียร์ลีก คนแรกที่สามารถพาต้นสังกัดเก็บคลีนชีตในบ้านตัวเองได้ 5 นัดตลอดการลงคุมทีม 5 นัดแรก

    เอฟเวอร์ตัน ตั้งเป้าเอาชนะ เชลซี เหย้า-เยือยได้ในฤดูกาลเดียวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ซีซั่น 1978/79

    คาร์โล อันเชลอตติ มีลุ้นเป็นอดีตกุนซือ เชลซี คนแรกที่จะสามารถชนะทีมเก่าที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกม พรีเมียร์ลีก ได้ โดยก่อนหน้านี้เหล่าอดีตกุนซือ เชลซี บุกไปเยือนถิ่นเก่าในเกมลีกรวมแล้ว 18 นัด แต่สถิติอยู่ที่เสมอ 6 หนกับแพ้ 12 ครั้ง