กรานิต ชาคา มอบโชคชิ้นใหญ่ด้วยการเปิดบอลให้ คริส วู้ด ยิงเข้าไปง่ายๆให้ เบิร์นลีย์ ไล่ตามตีเสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ทำให้ทีม "ปืนใหญ่" ชวดขยับขึ้นไปรั้งที่ 9 ของตาราง ส่วนทัพ "เดอะ คลาเรตส์" ไร้ชัย 5 นัดรวดยังรั้งที่ 15 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา

   ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2564 ที่สนาม เทิร์ฟ มัวร์ ระหว่าง เบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 15 พบ อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 10 ของตาราง

    ฌอน ไดช์ กุนซือเบิร์นลี่ย์ พาทีมเสมอเลสเตอร์ 1-1 ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 4 เกมแล้ว เกมนี้ยังไม่มีชื่อของ แอชลีย์ บาร์นส์ ดาวยิงตัวเก่ง โดยส่ง มาเตจ์ วีดร้า, คริส วู้ด ลงล่าตาข่ายร่วมกัน

    มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซน่อล พาทีมชนะเลสเตอร์ 3-1 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัย2 นัดติด เกมนี้ไม่มีชื่อของ เอมิล สมิธ โรลว์ ที่มีอาการบาดเจ็บ มาร์ติน โอเดการ์ด ลงเป็นเพลเมกเกอร์ โดยมี ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง ยืนเป็นหอกตัวเป้า ขณะที่แบ็กขวาใช้ คัลลั่ม แชมเบอร์ส ลงเล่นเป็นตัวจริงก่อน เอ็คตอร์ เบเยริน
 
    ครึ่งแรก อาร์เซน่อล เปิดฉากบุกใส่ทันที ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 6 วิลเลียน จ่ายบอลให้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง ในเขตโทษ สับขาหลอกก่อนหนึ่งจังหวะแล้วยิงยัดเสาแรก นิค โป๊ป บินปัดแต่ไม่สำเร็จบอลข้ามเส้นเข้าประตูไป

    จากนั้นนาที 19 อาร์เซน่อล เกือบได้ลูกสองเมื่อ แม็ทธิว โลว์ตัน สกัดบอลพลาดไปเข้าทางปืนของ โอบาเมย็อง ได้ซัดจ่อๆหน้าปากประตูแต่บอลไม่ตรงกรอบ

    "ปืนใหญ่" ยังครองเกมเหนือกว่าชัดเจน และมาชวดโอกาสทองที่จะได้ลูกสองอีกครั้ง ในนาที 22 จากจังหวะที่ บูกาโย่ ซาก้า ทำชิ่งกับ โอบาเมย็อง แล้วหลุดเข้าเขตโทษไปจิ้มด้วยซ้ายจ่อๆ แต่บอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

    ถัดมา นาที 29 มาร์ติน โอเดการ์ด มิดฟิลด์ อาร์เซน่อล หลุดไปถึงสุดเส้นหลังแล้วจ่ายย้อนไปที่หน้าเขตโทษให้ โธมัส ปาร์เตย์ เติมขึ้นมาซัดตามน้ำด้วยขวาบอลเหินข้ามคาน

    อย่างไรก็ตาม นาที 38 เบิร์นลีย์ ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ กรานิค ชาคา พยายามจะเปิดบอลให้เพื่อนหน้าปากประตูแต่พลาดไปโดน คริส วู้ด ที่ยืนขวาดอยู่ใช้ลำตัวกระแทกบอลเข้าไปแบบง่ายๆ

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบครึ่งแรก เบิร์นลีย์ เสมอ อาร์เซน่อล 1-1

    ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 51 อาร์เซน่อล ได้ทักทายก่อน มาร์ติน โอเดการ์ด ลากมซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ แต่บอลยังพุ่งไปตรงตัวของ นิค โป๊ป รับเข้าซองสบาย

    เกมผ่านมาถึง นาทีที 70 ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสี และยังแทบหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งไม่ได้ด้วยกันทั้งคู่ยังเสมอกัน 1-1

    นาที 78 กลายเป็น เบิร์นลีย์ เกือบได้ประตูแซงนำเมื่อ เอริค ปีเตอร์ส ตัวสำรองยิงลูกใบไม้ร่วงจากนอกเขตโทษบอลพุ่งย้อยจะเสียบใต้คาน แต่ แบร์นด์ เลโน่ ยังพุ่งปัดทิ้งออกไปได้หวุดหวิด
   
    เบิร์นลีย์ ได้ลุ้นต่อเนื่อง ในนาที 78 คริส วู้ด จ่ายบอลถวายพานให้ มาเตจ์ วีดร้า หลุดไปซัดเดี่ยวๆก็ยังไม่ผ่านเซฟของ แบรนด์ เลโน่ ใช้เท้าสกัดทิ้งออกมา

    จนกระทั่งนาที 84 บูกาโย่ ซาก้า เปิดบอลให้ นิโกล่าส์ เปเป้ วิ่งมากระโดยิงโล่งๆบอลไปติดไหล่ของ เอริค ปีเตอร์ส แล้วไปชนคาน แต่ผู้ตัดสิน อังเดร มาร์ริเนอร์ มองว่าเป็นเจตนาการทำแฮนด์บอลแล้วแจกใบแดงให้กับ ปีเตอร์ส ก่อนจะเช็กวีเออาร์แล้วกลับคำตัดสิน 

    ช่วงท้ายเกมทดเจ็บนาทีสุดท้าย อาร์เซน่อล พลาดโอกาสทองที่จะขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะซัดด้วยขวาของ ดานี่ เซบายอส บอลไปชนเสาอย่างจัง

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม เบิร์นลี่ย์ เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 ทำให้ทีม "ปืนใหญ่" ชวดขยับขึ้นไปรั้งที่ 9 ของตาราง ส่วนทัพ "เดอะ คลาเรตส์" ไร้ชัย 5 นัดรวดยังรั้งที่ 15     

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป - แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ (เอริค ปีเตอร์ส น.63) - จอช บราวน์ฮิลล์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, โยฮัน เบิร์ก กุ้ดมุนสัน (ร็อบบี้ เบรดี้ น.68), ดไวท์ แม็คนีล - มาเตจ์ วีดร้า (เจย์ โรดริเกซ น.86), คริส วู้ด

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - คัลลั่ม แชมเบอร์ส, ดาวิด ลุยซ์, ปาโบล มารี, คีแรน เทียร์นี่ย์ - โธมัส ปาร์เตย์ (ดานี่ เซบายอส น.81), กรานิต ชาคา - บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.63),วิลเลียน (นิโกล่าส์ เปเป้ น.69) - ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง