ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 7 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 28

7 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 28

Posted 13/03/2021 by siamsport

ศึก พรีเมียร์ลีก สัปดาห์นี้ เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 28 มีบิ๊กแมตช์ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นการเจอกันระว่าง อาร์เซน่อล พบ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ส่วนคู่อื่นๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันได้เลย
    "ลีดส์-เชลซี"

 

    ลีดส์ ยูไนเต็ด แพ้เกม พรีเมียร์ลีก แค่นัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุดในการเจอกับ เชลซี ที่สนาม เอลแลน โร้ด

    มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือ "ยูงทอง" เคยแพ้เกมลีกสูงสุด อังกฤษ 2 นัดติดมาแล้ว 5 ครั้งในซีซั่นนี้ (นัดที่แล้วแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) และกำลังหลีกเลี่ยงความพ่ายแพ้ 3 เกมติดในลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2017


    ภายใต้การทำงานของ โธมัส คูเคิ่ล เชลซี เอาชนะเกมนอกบ้าน 5 จาก 6 นัดหลังสุดจากทุกรายการ และในยุคของกุนซือเยอรมัน พวกเขายังไม่แพ้ใครเลยสำหรับเกมลีก 9 นัดล่าสุด

    "สิงห์บลูส์" ตั้งเป้าหนีความพ่ายแพ้แก่ทีมน้องใหม่ 4 ฤดูกาลติดต่อกันในการออกไปเยือนเป็นครั้งแรก โดย 3 ซีซั่นก่อนหน้านี้ พวกเขาบุกไปแพ้ต่อ นิวคาสเซิล, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส และ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ส่วนผลงานในการออกไปเยือนทีมน้องใหม่ปีนี้ เชลซี เสมอกกับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ที่ เดอะ ฮอว์ธอร์น และชนะ ฟูแล่ม ที่ คราเว่น ค็อตเทจ

    "เอฟเวอร์ตัน-เบิร์นลี่ย์"

    เอฟเวอร์ตัน เอาชนะได้ถึง 5 จาก 6 นัดหลังที่เล่นในบ้านเจอกับ เบิร์นลี่ย์

    ไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ มิดฟิลด์ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" จะมีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดเท่ากับที่เจ้าตัวเจอ เบิร์นลี่ย์ โดย อิโวบี้ ทำได้ 2 ประตู 2 แอสซิสต์ ซึ่งคิดเป็น 13% ของประตูทั้งหมด 31 ลูกที่เขามีส่วนร่วมกับประตูในศึก พรีเมียร์ลีก

    "เดอะ คลาเร็ตส์" ตั้งเป้าบุกเอาชนะทีมในแถบ เมอร์ซี่ไซด์ ในฤดูกาลเดียวเป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมกราคม พวกเขาบุกกำราบ ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ 1-0

    6 จาก 20 ประตูที่ เบิร์นลี่ย์ ทำได้ในลีกซีซั่นนี้มาจากช่วง 15 นาทีแรกของเกม ซึ่งไม่มีทีมใดที่มีเปอร์เซ็นต์ยิงช่วงเวลาเดียวกันนี้มากกว่าพวกเขาอีกแล้ว (30%)

    "ฟูแล่ม-แมนฯ ซิตี้"


    หาก ฟูแล่ม คว้าชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ในเกมนี้ จะทำให้พวกเขาเป็นทีมที่สองที่สามารถเอาชนะ "แชมป์เก่า" กับทีม "จ่าฝูง" ได้สองเกมติดต่อกัน (นัดก่อนบุกชนะ ลิเวอร์พูล 1-0)  หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 เอฟเวอร์ตัน เคยเอาชนะ เชลซี กับ แมนฯ ยูไนเต็ด

    6 เกมหลังสุดในลีกของ "เจ้าสัวน้อย" พวกเขาเอาชนะได้ถึง 3 นัด(เสมอ 2 แพ้ 1) ซึ่งมากกว่าก่อนหน้านี้ 24 นัด(ชนะ 2 เสมอ 9 แพ้ 13) ขณะเดียวกัน ฟูแล่ม ยังเก็บคลีนชีตได้ถึง 5 เกมจาก 7 นัด มากกว่าที่ลงแข่ง 21 นัดแรกของฤดูกาลนี้อีกต่างหาก

    แมนฯ ซิตี้ เอาชนะ ฟูแล่ม ได้ทุกนัดจาก 6 เกมที่เจอกันล่าสุด โดยสอยตาข่ายไปทั้งสิ้น 18 ลูก และไม่เสียประตูเลย ขณะที่ในการออกไปเยือนถิ่น คราเว่น ค็อตเทจ "เรือใบสีฟ้า" 13 ครั้ง พวกเขาแพ้แค่นัดเดียวเท่านั้น(ชนะ 7 เสมอ 5) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2005 ที่พ่ายไป 1-2

    นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2018 เป็นต้นมา ราฮีม สเตอร์ลิง แนวรุกของ ซิตี้ มีส่วนร่วมกับประตูในการเล่นที่กรุงลอนดอนไปแล้ว 16 ลูก 16 เกม (10 ประตู 6 แอสซิสต์) โดยล่าสุดทำประตูชัยได้ในเกมเอาชนะ อาร์เซน่อล

    "เลสเตอร์-เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด"


    เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ได้ตลอด 3 เกมที่เจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก โดยแต่ละนัดพวกเขาทำได้ 2 ประตูตลอด

    เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ กองหน้า "เดอะ ฟ็อกซ์" ทำประตูติดต่อกันในลีกมาแล้ว 2 นัด ซึ่งหากเจ้าตัวทำประตูได้อีกในเกมนี้จะทำให้เป็นครั้งแรกที่เขาทำประตูในลีกสูงสุด อังกฤษ ได้ 3 เกมติด

    "เดอะ เบลด" ตั้งเป้าคว้าชัยชนะเกมแรกในลีกเหนือ เลสเตอร์ ในรอบ 8 นัด

    16 ประตูที่ เชฟฯ ยูไนเต็ด ทำได้ในลีกฤดูกาลนี้ นับเป็นทีมที่สอยตาข่ายคู่แข่งน้อยที่สุดลำดับที่ 4 (จำนวนนัดเท่ากัน) ต่อจาก ดาร์บี้, แอสตัน วิลล่า และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์

    "อาร์เซน่อล-สเปอร์ส"


    อาร์เซน่อล แพ้แค่สองครั้งเท่านั้นจาก 35 เกมที่เล่นในบ้านเจอกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์

    ในจำนวนประตูของคู่นี้ 38 ลูกที่ทำได้โดยทั้งสองทีมคือจำนวนที่มากกว่าคู่อื่นๆ ที่เจอกันในศึก พรีเมียร์ลีก

    "ไก่เดือยทอง" เดินหน้าสู่การไม่แพ้ "เดอะ กันเนอร์ส" 6 นัดติดต่อกันในทุกรายการเป็นครั้งแรก

    แกเร็ธ เบล ทำประตูในเกมลีกไปแล้ว 5 ประตูในการเจอกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดที่เขาทำได้ใส่คู่แข่งในศึก พรีเมียร์ลีก

    "แมนยู-เวสต์แฮม"

    ไม่น่าเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมลีกแบบไป-กลับเลยนับตั้งแต่ฤดูกาล 2013/14 โดยครั้งนั้น "ปีศาจแดง" มี เดวิด มอยส์ กุนซือคนปัจจุบันของ "เดอะ แฮมเมอร์ส" กุมบังเหียน

    แมนยู มองหาการเก็บคลีนชีตในลีก 4 เกมติดต่อกัน ซึ่งหากทำได้จะเป็นครั้งแรกในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

    เวสต์แฮม มีโอกาสเป็นทีมจากกรุงลอนดอนทีมที่ 4 ที่เอาชนะ "เร้ด เดวิลส์" ได้ในฤดูกาลนี้ และจะเป็นทีมแรกจากเมืองหลวงผู้ดีที่เอาชนะ แมนยู ได้ในเกมลีก

    ในฐานะทีมคู่แข่ง มอยส์ ไม่เคยพาทีมไหนบุกมาเอาชนะเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เลยสักครั้งจากโอกาสทั้งหมด 13 เกมก่อนหน้านี้

    "วูล์ฟส์-ลิเวอร์พูล"


    วูล์ฟแฮมป์ตัน แพ้แค่นัดเดียวจาก 7 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก โดย 6 เกมก่อนหน้านั้นพวกเขาแพ้ไปถึง 4 นัด

    ทีมของ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ มองหาชัยชนะเกมในบ้านสองเกมติดต่อกันเป็นครั้งที่สองในรอบสองฤดูกาลหลังสุด โดยครั้งก่อนหน้านี้ที่พวกเขาชนะเกมลีกในบ้าน 2 นัดติดต่อกันนั้นเป็นเกมเหย้า 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาล 2019-20

    ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ในการออกเยือน วูล์ฟส์ มาแล้ว 7 เกมติดต่อกัน (ชนะ 4 เสมอ 3) โดยความพ่ายแพ้ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1981

    ในเกมพรีเมียร์ลีก ที่มีทั้งสิ้น 38 นัด มีแค่ 3 ทีมเท่านั้นที่จบฤดูกาลด้วยการติด 4 อันดับแรกแล้วมีแต้ม 43 คะแนนหรือน้อยกว่านั้นในช่วง 10 เกมสุดท้าย ซึ่งได้แก่ ลีดส์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2000/01 (43), ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2003/04 (42) และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาลที่แล้ว (42)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »