"สิงห์บูลส์" โชว์ฟอร์มแกร่งหลังบุกไปอัด เวสต์แฮม ที่เหลือ10คนท้ายเกม  1-0 ติโม แวร์เนอร์ ซัดประตูชัยให้ทีมไร้พ่ายนอกบ้าน 10 นัดติดทุกรายการ พร้อมยึดอันดับ 4 แน่นหนึบด้วยการมี 58 คะแนนจี้ อันดับ 3 เลสเตอร์ แค่แต้มเดียว ส่วน "ขุนค้อน" ซึ่งแพ้ในบ้านเกมลีกนัดแรกในรอบ 6 เกม ยังรั้งอันดับ 5 ต่อโดยมี 55 คะแนน ในเกมลอนดอนดาร์บี้ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : ลอนดอน สเตเดี้ยม

    พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา เป็นเกมลอนดอนดาร์บี้ ระหว่าง เวสต์แฮม อันดับ 5 รับการมาเยือนของ เชลซี อันดับ 4 โดยทั้งสองทีมแข่งไป 32 นัดมี 55 คะแนนเท่ากัน เกมนี้ทีมใดชนะจะครองอันดับ 4 แบบเดี่ยวๆ และตามอันดับ 3 เลสเตอร์ แค่หนึ่งคะแนนเท่านั้น

    เดวิด มอยส์ เกมที่แล้วบุกพ่าย นิวคาสเซิ่ล 2-3 เกมนี้แนวรุกให้ จาร์ร็อด โบเว่น ยืนคู่กับ เจสซี่ ลินการ์ด โดยมี ปาโบล ฟอร์นัลส์ ยืนหน้าต่ำ

    ส่วนทางฝั่ง โธมัส ทูเคิ่ล ของ "สิงห์บลูส์" พาทีมเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ เลสเตอร์ ก่อนในเกมลีกล่าสุดจะเสมอกับ ไบรท์ตัน 0-0 เกมนี้ให้ ติโม แวร์เนอร์ ยืนหน้าเป้า มี เมสัน เมาน์ท และคริสเตียน พูลิซิช ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

    เริ่มครึ่งแรกมาแค่ 4 นาที "สิงห์บลูส์" ได้ทักทายก่อนหลัง เมสัน เมาน์ท ครอสมาให้ ติโม แวร์เนอร์ ซัดตามน้ำด้วยขวาจังหวะเดียวแต่บอลหลุดกรอบออกไป

    นาที 10 อัซปิลิกวยต้า ได้ครอสมาให้ เมสัน เมาน์ท ลองซัดด้วยซ้าย แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ รับไว้ได้ไม่มีปัญหา

 จังหวะสวนกลับของ เชลซี ดูน่ากลัวและได้ลุ้นกว่า นาที 14 เกือบได้ประตูขึ้นนำหลัง ติโม แวร์เนอร์ หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนปาดเลียดมากลางประตูให้ คริสเตียน พูลิซิช ซัดเร็วแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัว ฟาเบียนสกี้

    เกมค่อนข้างสูสีทันกัน แต่เป็น เชลซี ที่สร้างโอกาสได้มากกว่า นาที 31 เมสัน เมาน์ท ผ่านบอลมาให้ ติโม แวร์เนอร์ กลับตัวยิงด้วยขวาแบบไม่ถนัดบอลหลุดกรอบออกไป

    นาที 36 เวสต์แฮม นานๆได้ลุ้นทีแต่เกือบพังประตูขึ้นนำหลัง โทมัส ซูเช็ค ตวัดยิงจากมุมขวบอลไปชน เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ก่อนเปลี่ยนทางถากเสาออกไปชนิดเกือบเข้าประตูตัวเอง ซึ่งแม้ว่าแข้งขุนค้อนจะฟ้องว่าเป็นแฮนด์บอลของ อัซปิลิกวยต้า แต่หลัง วีเออาร์ เช็กแล้วยืนยันไม่เป็นแฮนด์บอลแต่อย่างใด

 นาที 43 แม้จะโดนเจ้าถิ่นบดอยู่สักพัก แต่กลายเป็น "สิงห์บลูส์" ที่ขึ้นมาคราวนี้ชิงขึ้นนำขุนค้อนไปก่อน 1-0 บอลจาก พูลิซิช ไหลออกซ้ายให้ เบน ชิลเวลลส์ ตบเลียดมาหน้าประตูให้ ติโม แวร์เนอร์ วิ่งมาซัดจังหวะเดียวส่งบอลซุกก้นตาข่าย

    จบครึ่งแรก เวสต์แฮม ตามหลัง เชลซี 0-1

    ครึ่งหลัง นาที 55 สิงห์บลูส์ ชวดได้ประตูที่สองนำห่าง หลัง ติโม แวร์เนอร์ ไหลให้ เมสัน เมาน์ท ตั้งป้อมซัดนอกกรอบบอลพุ่งเล่นทางจน ฟาเบียนสกี้ ต้องพุ่งปัด แม้จะไปเข้าทาง แวร์เนอร์ แต่ดาวยิงทีมชาติเยอรมันดันตามซ้ำหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

อีกนาทีถัดมา ขุนค้อน ได้สวนขึ้นมาและได้ลุ้นเช่นกันจากจังหวะที่ เจสซี่ ลินการ์ด ผ่านให้ ปาโบล ฟอร์นัลส์ ตะบันนอกกรอบแต่บอลยังพุ่งตรงไปเข้ามือ เอดูอาร์ เมนดี้

    ลินการ์ด เริ่มมีบทบาทมากขึ้น นาที 61 ลองซัดลูกยิงใบไม้ร่วงจากนอกกรอบ บอลพุ่งถากสามเหลี่ยมเสาไกลออกไปแบบได้เสียว

    เกมเปิดหน้าแลกกันมากขึ้น นาที 67 ทีมเยือนหวิดได้ลุ้นประตูที่สอง และเม็ดที่สองของ ติโม แวร์เนอร์ หลังหักหนี บัลบวยน่า เข้าไปซัดด้วยซ้ายเสาแรกแต่ยังไปติดเซฟของ ฟาเบียนสกี้ อีก

    นาที 81 เจ้าบ้าน เวสต์แฮม ต้องเหลือแค่ 10 คน หลังผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากวีเออาร์จากจังหวะที่ ฟาเบียน บัลบวยน่า ปะทะกับ เบน ชิลเวลล์ ซึ่งหลังจากที่  คริส คาวานาห์ วิ่งไปดูจอมอนิเตอร์ข้างสนามก็วิ่งมาแจกใบแดงให้ บัลบวยน่า หลังแนวรับขุนค้อนไปเปิดปุ่มใส่ ชิลเวลล์ อย่างน่าเกลียด

ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี ที่ตัวผู้เล่นมากกว่ารักษาสกอร์ขึ้นนำไว้ได้ก่อนจบเกมบุกมาเอาชนะ เวสต์แฮม 1-0 เก็บสามแต้ม ยึดอันดับ 4 แบบเดี่ยวๆ แถมหนีขุนค้อนอันดับ 5 ไปสามคะแนนด้วยการมี 58 แต้ม ไล่จี้ เลสเตอร์ อันดับ 3 แค่คะแนนเดียวเท่านั้น

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม   
 
     เวสต์แฮม (3-4-1-2) : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้ - อิสซ่า ดิย็อป, ฟาเบียน บัลบวยน่า (ใบแดง น.81), อันเจโล่ อ็อกบอนน่า - วลาดิเมียร์ ซูฟัล, มาร์ค โนเบิ้ล (มานูเอล ลันซินี่ น.69), โทมัส ซูเช็ค, ไรอัน เฟรเดอริคส์ (เบน จอห์นสัน น.83)- ปาโบล ฟอร์นัลส์ (ซาอิด เบนราห์มา น.69) - จาร์ร็อด โบเว่น, เจสซี่ ลินการ์ด

    ผู้จัดการทีม : เดวิด มอยส์

เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - อันเดรีย คริสเตียนเซ่น, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (รีซ เจมส์ น.86), เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, เบน ชิลเวลล์ - เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช (ฮาคิม ซิเย็ค น.74) - ติโม แวร์เนอร์ (แทมมี่ อับราฮัม น.87)