ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เสมอต่อหน้าแฟนบอล! เจาะ 5 ประเด็น แมนยูเปิดบ้านแบ่งแต้มฟูแล่ม

เสมอต่อหน้าแฟนบอล! เจาะ 5 ประเด็น แมนยูเปิดบ้านแบ่งแต้มฟูแล่ม

Posted 19/05/2021 by siamsport

แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฮไม่เต็มเสียงหลังได้หวนกลับเข้ามาชมเกมของ "ปีศาจแดง" แบบสดๆ ในสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ทีมรักดันทำได้เพียงแค่เสมอ ฟูแล่ม 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดรองสุดท้าย เมื่อวันอังคารที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา
    
แม้ว่า "เร้ด เดวิลส์" จะทำได้แค่เสมอเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เพราะการที่ เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ เชลซี ส่งผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าตำแหน่งรองแชมป์ลีกไปเรียบร้อยอย่างเป็นทางการ
 
ตอนนี้เป้าหมายสำคัญของ โซลชา และลูกทีมก็คือการมองไปที่เมืองกดัญสก์ ประเทศโปแลนด์ กลางสัปดาห์หน้า เพื่อทำศึกสำคัญในการลุ้นแชมป์สมัยแรกของ แมนฯ ยูฯ ภายใต้การกุมบังเหียนของ "น้าลูกอม"

1. "คิง คาวานี่" คู่ควรกับสัญญาฉบับใหม่
นี่เป็นการปรากฎตัวต่อหน้าสาวก "เร้ด อาร์มี่" ในสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งแรกของ เอดินสัน คาวานี่ และเขาก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวัง เมื่อโชว์ลีลาการยิงประตูระดับโลกให้พวกเขาได้เห็นเต็มสองตา

ผลงานของ "เอล มาทาดอร์" เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนว่าทำไม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ถึงต้องการขยายสัญญากับเขา เพราะฟอร์มที่สุดยอดกับการเล่นให้กับ "ผีแดง" ในฤดูกาลแรก และมีส่วนสำคัญต่อการช่วยให้ทีมรั้งอันดับ 2 ในพรีเมียร์ลีก และเข้าชิง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

สำหรับประตูที่ คาวานี่ ซัดเกือบครึ่งสนามให้ทีมขึ้นนำฟูแล่มในเกมนี้ มันแสดงให้เห็นถึงความเป็นสุดยอดดาวยิงโคตรเพชฌฆาตอย่างแท้จริง เพราะจังหวะนี้ หัวหอกชาวอุรุกวัย ได้โชว์ให้เห็นถึงสายตาที่เฉียบคม, การวางน้ำหนักบอลที่แม่นยำ และการเช็คไลน์เพื่อไม่ให้ล้ำหน้า ทั้งหมดนี้เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง

ฉะนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม คาวานี่ ถึงคู่ควรการเสื้อหมายเลข 7 และกลายเป็นขวัญใจอีกคนของแฟนบอล แมนฯ ยูฯ ที่สำคัญประสบการณ์และสัญชาตญาณของเขา จะทำให้นักเตะอย่าง เมสัน กรีนวู้ด กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้เรียนรู้ เพื่อจะยกระดับการเป็นยอดดวงยิงเหมือนกับ คาวานี่

2. แนวรับมีปัญหา-ผลงานในบ้านไม่น่าประทับใจ
ในซีซั่นนี้ดูเหมือนว่าการเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะกลายเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะนับถึงตอนนี้พวกเขาเสียประตูในถิ่นตัวเองไปแล้ว 28 ลูกซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ โซลชา ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด

จังหวะที่ โจ ไบรอัน ทำประตูตีเสมอในช่วง 15 นาทีสุดท้าย ต้องบอกเลยว่าเกมรับของ "ผีแดง" ผิดพลาดมากๆ เพราะปล่อยให้นักเตะยืนอยู่โล่งๆ สบายๆ โดย อารอน วาน-บิสซาก้า หลุดจากตำแหน่ง

ขณะที่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ก็ดูเหมือนจะเชื่องช้า และอ่านจังหวะการเล่นไม่ค่อยดี เพราะในช่วงครึ่งแรกเขาเกือบปล่อยให้ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ หลุดเดี่ยวเข้าไปแต่ยิงไม่ดีไปติดมือ ดาบิด เด เคอา ส่วน อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ถือว่าทำผลงานประครองตัวไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่เลวร้าย

สำหรับ ลุค ชอว์ ในเกมนี้ถือว่าผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะเกมรุกของเขาแทบไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับ ฟูแล่ม ในขณะที่เกมรับก็มีจังหวะผิดพลาดเป็นพักๆ ทั้งหมดนี้คือการบ้านที่ "น้าลูกอม" ต้องรีบปรับปรุงเป็นการด่วน

ฉะนั้นสาวก "เร้ด อาร์มี่" คงต้องภาวนาให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กลับมาฟิตสมบูรณ์ให้ทันในเกมพบ "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก เพราะหากใช้แนวรับแบบนี้ มีสิทธิ์ได้เจอทีเด็ดลูกทีมของอูไน เอเมรี่ แหงๆ

3. บรูโน่ เฉิดฉายในฐานะกัปตันทีม
บรูโน่ แฟร์นันด์ส เพิ่งผงาดคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ด ประจำฤดูกาลนี้ก่อนแมตช์ดวล ฟูแล่ม และงานนี้ โซลชา ก็เลยมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้เขา เพื่อลงทำหน้าที่สำคัญนี้

จอมทัพชาวโปรตุกีส แสดงให้เห็นถึงภาวะความเป็นผู้นำ โดยเขาพยายามทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม และยังมีส่วนกับจังหวะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตู หลังเป็นคนแอสซิสต์ให้กับ คาวานี่

นอกจากนี้ บรูโน่ ยังคอยเรียกบอลจากเพื่อนร่วมทีม และส่งบอลสำคัญๆ เพื่อสร้างโอกาสในการทำประตูด้วย แน่นอนว่าทักษะของเขาสามารถปั่นป่วนเกมรับของ "เจ้าสัวน้อย" ได้ตลอด และทำให้คู่แข่งยากที่จะรับมือกับทักษะและแนวทางการเล่นของเขาได้

การขาด แม็กไกวร์ ไปทำให้ โซลชา ได้เห็นแล้วว่าเขามีนักเตะที่มีความเป็นผู้นำสูงอีกรายนั่นก็คือ บรูโน่ เพราะนักเตะแสดงให้เห็นถึงคุณภาพความเป็นผู้นำ และยังคอยกระตุ้นทีมให้เล่นเกมบุกตั้งแต่ต้นจนจบเกม

4. การกลับมาของแฟนบอล
หลังจาก 14 เดือนที่สนามแข่งต้องว่างเปล่าปราศจากกองเชียร์ แมตช์นี้สาวก "เร้ด อาร์มี่" จำนวน 10,000 คน ได้หวนกลับคืนสู่ "เธียเตอร์ ออฟ ดรีม" อีกครั้ง เพื่อจะได้ชมเกมของทีมรักแบบเต็มสองตา

ตอนนี้เกมฟุตบอลค่อยๆ กลับมาเป็นปกติอีกครั้งหลังจากที่แฟนบอลได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอังกฤษ ให้สามารถเข้ามาชมเกมได้อีกครั้ง แม้ว่าจะยังไม่เต็มพื้นที่อัฒจันทร์ก็ตาม แต่แค่นี้ก็ทำให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่คุ้นเคย

การได้ยินเสียงตะโกนของแฟนบอลในช่วงที่นักเตะวอร์มร่างกายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกฮึกเหิม เพราะนี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เจอมานานนับตั้งแต่ที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้เรายังได้เห็นบรรยากาศในการประท้วงตระกูลเกลเซอร์ของแฟนบอลแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยการใช้ผ้าพันคอเขียว-ทองบริเวณอัฒจันทรฝั่งสเตรทฟอร์ด เอ็นด์ ซึ่งถือเป็นสีสันที่น่าตื่นเต้นมากๆ

หลังจากนี้หวังว่าสถานการณ์ของเชื้อไวรัสมรณะจะค่อยๆ จางหายไป และแฟนบอลของทุกๆ สโมสรจะได้หวนกลับเข้ามาชมเกมแบบสดๆ อีกครั้งทั้งในเกมเหย้า และเยือน !!

5. อุ่นเครื่องก่อนลุยนัดชิง ยูโรปา ลีก
11 ตัวจริงในค่ำคืนนี้แฟนบอล "ผีแดง" คงจะได้เห็นหลายคนลงสนามในเกมปะทะ "เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ในแมตช์ที่สนามสตาดิโอน เมียสกี้ เมืองกดัญสก์ ประเทศโปแลนด์ ในวันพุธที่ 26 พฤษภาคมนี้

สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูคงหนีไม่พ้น ดาบิด เด เคอา เพราะเขาทำหน้าที่มาตลอด ในขณะที่แผงแบ็กโฟร์หากไม่มีอะไรผิดพลาด แม็กไกวร์ คงได้กลับมายืนคุมเกมรับโดยมี ลินเดอเลิฟ เป็นคู่หูเซนเตอร์แบ็ก ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลุค ชอว์ ทำหน้าที่แบ็กขวา-ซ้ายตามลำดับ

ในส่วนของกองกลางแน่นอนว่า โซลชา คงเลือกใช้งาน เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เพราะคู่ "แม็คเฟร็ด" มักทำได้ดีเวลาที่ได้เล่นร่วมกัน โดยช่วยให้แผงมิดฟิลด์ของ "ผีแดง" มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ขณะที่ ปอล ป็อกบา กำลังไปได้สวยกับการยืนเป็นมิดฟิลด์ทางฝั่งซ้าย ส่วน บรูโน่ จะทำหน้าที่เป็นเพลย์เมกเกอร์ที่มีอิสระในการเล่น สำหรับคู่หัวหอก คาวานี่ คงจะได้เป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม แต่ โซลชา ต้องเลือกว่าจะใช้งาน แรชฟอร์ด หรือ กรีนวู้ด ลงเป็นตัวจริง

แน่นอนว่าในเกมนัดชิง ฟอร์มเกมบุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงอันตรายเหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเกมรับของพวกเขา เพราะหากทำผิดพลาดง่ายๆ งานนี้มีสิทธิ์ได้น้ำตานองหน้าเลยทีเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »