เจมี่ วาร์ดี้ แม้จะกดสองจุดโทษให้ทีม แต่เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องพ่ายคาบ้านให้ สเปอร์ส หลังแกเร็ธ เบลซัดเบิ้ลท้ายเกมพา ไก่เดือยทอง บุกคว้าชัย 4-2 ส่งผลให้ จิ้งจอกสยาม ชวดตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก  คว้าอันดับ 5 ได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ส่วนสเปอร์สคว้าอันดับ 7 ได้ไปเล่นยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีกแทน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดปิดซีซั่น เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

    เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2020-21 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 5 เปิด คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ สเปอร์ส อันดับ 7 เกมนี้มีความหมายของทั้งสองทีม "จิ้งจอกสยาม" ต้องเอาชนะเอาไว้เพื่อไปลุ้นผลคู่ "หงส์แดง" และ"สิงห์บลูส์" เพื่อลุ้นจบท็อปโฟร์คว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ส่วน "ไก่เดือยทอง" ยังได้ลุ้นตั๋วไปเล่นยูโรปาลีก หรือยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก

    เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส กุนซือทัพจิ้งจอก พาทีมเจอกับ เชลซี ใน 2 เกมล่าสุดโดยนัดแรกชนะ 1-0 ที่ เวมบลีย์ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ไปครองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่เมื่อกลางสัปดาห์ออกไปแพ้ 1-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก เกมนี้ชี้ชะตาตั๋วลุยยุโรป จัดทัพเต็มสูบวางคู่หน้าทั้ง เจมี่ วาร์ดี้ และ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ โดยมี เจมส์ แมดดิสัน และยูริ ตีเลมันน์ คุมเกมตรงกลาง

    ส่วน ไก่เดือยทอง ของ ไรอัน เมสัน กุนซือขัดตาทัพพาทีมแพ้-ชนะสลับกันไป นัดล่าสุดพ่ายคาบ้านให้ แอสตัน วิลล่า 1-2 ส่วนการจัดทีมเกมปิดซีซั่นให้ แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวร่วมยืนหน้าเป้า โดยมีสามแนวรุกอย่าง สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เดเล่ อัลลี่ และซน ฮึง-มิน ปั้นเกมสนับสนุน

    เปิดฉากครึ่งแรกมาสองนาทีแรก ทีมเยือน สเปอร์ส ได้ลุ้นก่อนหลังบอลยาวมาถึง ซน ฮึง-มิน เล่นกับ เรกีล่อน ก่อนบอลมาถึง ซน อึง-มิน อีกครั้งซัดด้วยขวาไปแฉลบบล็อคก่อนเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

    เลสเตอร์ เริ่มตั้งเกมได้เปิดเกมรุกเข้าใส่ นาที 9 ได้ลุ้นจากลูกคอนเนอร์ด้านซ้าย ยูริ ตีเลมันน์ เปิดมาเสาไกลให้ คักลาร์ โซยุนชู ขึ้นโขกแต่บอลยังเบาลอยไปเข้ามือ อูโก้ โยริส

    นาที 16 เลสเตอร์ มาได้ลูกที่จุดโทษ หลัง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ไปเกี่ยวขาเจมี่ วาร์ดี้ ล้มลง ผู้ตัดหลังวิ่งไปเช็กจอมอนิเตอร์ วีเออาร์ ข้างสนามวิ่งมาเป่ายืนยันให้จุดโทษ ก่อนที่ เจมี่ วาร์ดี้ จะสังหารเข้าไปเองไม่พลาด "จิ้งจอกสยาม" ขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 18
    
     นาที 22 เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส ต้องแก้เกมด่วนหลัง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง น็อมปาลิส เมนดี้ ลงไปยืนกลางแล้วถอย เอ็นดิดี้ ลงมายืนหลังแทน

    นาที 29 แนวรับสเปอร์สเล่นกันพลาดหลัง เซร์คิโอ เรกีล่อน จ่ายขวางไม่ดีไปโดน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ตัดบอลได้แต่จังหวะลากเข้าไปยิงด้วยซ้ายดันลื่นล้มทำให้ยิงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ทว่าผู้ตัดสินเป่าย้อนหลังว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ อิเฮียนาโช่ ก่อนแล้ว

    นาที 36 ตีเลมันน์ จ่ายให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน กดด้วยขวาจากนอกกรอบบอลพุ่งแต่ยังเบาไปเข้ามือ อูโก่้ โยริส รับไว้ได้ไม่มีปัญหา

    แต่แล้วนาที 41 "ไก่เดือยทอง" มาไล่ตีเสมอ 1-1 จนได้ จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม แมตต์ โดเฮอร์ตี้ ซัดไปติดหัว เอ็นดิดี้ บอลยังไม่ออก ซน ฮึง-มิน ตามไปเก็บบอลก่อนหักมาติดแข้งเจ้าถิ่นแต่ยังมาเข้าทาง แฮร์รี่ เคน วิ่งมาวอลเลย์ตูมเดียวลอดขา แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 23 ของหัวหอกทีมชาติอังกฤษ นำดาวซัลโวเดี่ยวๆ

    จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ สเปอร์ส 1-1

    มาลุ้นต่อในครึ่งหลัง ทัพจิ้งจอกโหมบุกแต่ต้นเลย นาที 51 น็อมปาลิส เมนดี้ ลองซัดนอกกรอบแต่บอลยังพุ่งไปตรงตัวเข้ามือ โยริส

    ทว่านาที 52 เจมี่ วาร์ดี้ มาเรียกจุดโทษได้อีกหลังโดน ดาวินซอน ซานเชซ ดึงล้มในเขตโทษ แอนโทนี่ เทย์เลอร์ เช็กกับวีเออาร์ยืนยันว่าเหตุเกิดในกรอบเขตโทษก่อนเป่าให้จุดโทษที่สองแก่เจ้าถิ่น และเป็น วาร์ดี้ ที่ซัดเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกขึ้นนำ 2-1 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของ วาร์ดี้ และเม็ดที่ 15 ในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้

    นาที 57 ไก่เดือยทอง ทิ้งโอกาสทองไล่ตีเสมอหลัง ตีเลมันน์ จ่ายเข้ากลางพลาดโดน ซน ฮึง-มิน ฉกบอลไปก่อนให้ แฮร์รี่ เคน ทว่าเจ้าตัวดันซัดเหินคานออกไปแบบน่าผิดหวัง

    อีกนาทีถัดมา บอลยาวขึ้นหน้าของ เลสเตอร์  เกือบได้ลุ้นหลัง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ชิงขึ้นโขกก่อนบอลตกอยู่หน้า อิเฮียนาโข่ เลี้ยงแหวกแนวรับไก่เข้าไปซัดแต่ยังเบาไปก่อนเข้ามือ อูโก้ โยริช

    กระนั้น นาที 77 สเปอร์ส มาไล่ตีเสมอ 2-2 อีกครั้ง บอลจากลูกเตะมุม ซน อึง-มิน เปิดโค้งมาในกรอบ 6 หลา ดาวินซอน ซานเชซ พยายามขึ้นโขกแต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมาชกบอลแต่กลายเป็นชกเข้าประตูตัวเองไป

    อีกสองนาทีต่อมา "ไก่เดือยทอง" เกือบพลิกแซงขึ้นนำ คราวนี้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยังดีที่ ชไมเคิ่ล ยังใช้ขาเซฟช่วยทีมไว้ได้

    นาที 87 แฟน "จิ้งจอก" ต้องเงียบกริบหลังมาโดน สเปอร์ส แซงขึ้นนำ 3-2 จากจังหวะที่ แฮร์รี่ เคน ได้บอลหลุดไปแต่ไม่มีมุมยิงหาจังหวะก่อนส่งเข้ากลางให้ แกเร็ธ เบล ตัวสำรองยิงเข้าไปง่ายๆ

     ช่วงทดเจ็บ นาที 90+6 สเปอร์ส มาได้ประตูนำห่าง 4-2 หลัง แกเร็ธ เบล พาบอลแหวกแนวรับเจ้าถิ่นเข้ามาจิ้มบอลผ่าน ชไมเคิ่ล ก่อนบอลพุ่งชนเสาเข้าประตูไป เป็นประตูที่สองของดาวยิงเลือดเวลส์ในเกมนี้

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายคาบ้านให้ สเปอร์ส 2-4 ทำให้ชวดตั๋วไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก คว้าอันดับ 5 ไปเล่นยูโรปาลีก แทน ส่วน ไก่เดือยทอง คว้าอันดับ 7 ไปเล่น ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก
    
     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    เลสเตอร์ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ทิโมธี กาสตานเย่, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (น็อมปาลิส เมนดี้ น.22), คักลาร์ โซยุนชู - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูริ ตีเลมันส์, วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ลุค โธมัส - เจมส์ แมดดิสัน - เจมี่ วาร์ดี้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่

    ผู้จัดการทีม : เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส

    สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แมตต์ โดเฮอร์ตี้, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีล่อน - แฮร์รี่ วิงค์ส, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก - สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น, เดเล่ อัลลี่, ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน

    ผู้จัดการทีม : ไรอัน เมสัน (รักษาการณ์)

    ผู้ตัดสิน : แอนโทนี่ เทย์เลอร์