ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » "กรุ๊ปออฟเดธ" แชมป์เก่าโปรตุเกส, แชมป์โลกฝรั่งเศส, โคตรทีมเยอรมัน, ฮังการีมีเซอร์ไพร์ส ปรีวิวยูโร กลุ่ม เอฟ

"กรุ๊ปออฟเดธ" แชมป์เก่าโปรตุเกส, แชมป์โลกฝรั่งเศส, โคตรทีมเยอรมัน, ฮังการีมีเซอร์ไพร์ส ปรีวิวยูโร กลุ่ม เอฟ

Posted 11/06/2021 by siamsport

ฮังการี หนึ่งในเจ้าภาพร่วมรายการนี้แม้ดูเป็นทีมรองบ่อนขอมาลุ้นสร้างเซอร์ไพร์ส แต่ไม่ง่ายเมื่อมี ฝรั่งเศส ทีมแชมป์โลก และ โปรตุเกส แชมป์เก่าที่สตาร์ดังมากันครบ ส่วนทาง เยอรมัน ขุมกำลังไม่น้อยหน้าพร้อมท้ารบเช่นกัน ไปทำความรู้จักเจาะลึกกับทั้ง 4 ชาติ ของกลุ่ม เอฟ ว่าจะดีพอผ่านเข้าไปเล่นในรอบต่อไปได้หรือไม่
กลุ่มเอฟ

ฮังการี "The Magyars" Ready To Fight

ฮังการี ถือว่าเป็นหนึ่งในเจ้าภาพร่วมในยูโรหนนี้ หลังจากนั้นกว่าจะได้กลับมาเล่นในรอบสุดท้ายพวกเขาต้องรอนานถึง 44 ปี แต่อย่างน้อยก็สามารถเข้ามาเล่นได้ 2 หนติดต่อกันได้ ถ้าย้อนมองไปถึงในอดีตพวกเขาจัดว่าเป็นทีมยักษ์หลับทีมหนึ่งของยุโรป หลังจากเคยคว้าอันดับ 3 กับ 4 เมื่อปี 1964 และ 1972 ในรายการนี้ แม้ว่าจะดูเป็นทีมรองบ่อนที่สุดในกลุ่มนี้ก็ตาม

เหล่า "นักรบแมกยาร์" ชุดนี้ของ มาร์โก้ รอสซี่ ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายได้ จากการเพลย์ออฟเอาชนะ "แดนโยเกิร์ต" อย่างทีมชาติบัลแกเรีย มาได้ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่ในรอบชิงชนะเลิศจะชนะม้ามืดจากหนก่อนอย่าง ไอซ์แลนด์ จนคว้าตั๋วมาได้ในที่สุด

ที่น่าตกใจก็คือดาวซัลโวของพวกเขาในรอบคัดเลือก กับเป็นนักเตะในตำแหน่งผู้เล่นในเกมรับอย่าง วิลลี่ ออร์บาน จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ทำไปถึง 3 ประตูจาก 13 ประตูที่ทีมทำได้ทั้งหมดในรอบคัดเลือกรวมถึงในเกมเพลย์ออฟ

ที่น่าเสียดายก็คือพวกเขาจะไม่มี โดมินิค โซบอสไล กองกลางดาวรุ่งวัย 20 ปีที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับต้นสังกัดอย่าง ไลป์ซิก จนพาทีมจบฤดูกาลในตำแหน่งรองแชมป์ เขาถือว่าผู้เล่นที่ดีที่สุดของฮังการีตอนนี้ เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ ทำให้ชวดมาเล่น ยูโร รอบสุดท้ายแบบน่าเจ็บใจ ทำให้ความหวังพวกเขาคงต้องอยู่ที่ดาวยิงจอมเก๋าอย่าง อดัม ซาไล แทน

สตาร์เด่น : วิลลี่ ออร์บาน

ออร์บาน เซ็นเตอร์แบ็คจาก ไลป์ซิก มีความแข็งแกร่งในการสกัดกั้น เขาเป็นกองหลังที่เคร่งขรึมและคอยคุกคามอย่างแท้จริง การทำถึง 5 ประตูในระดับทีมชาติ นับตั้งแต่มาทำหน้าที่ในทีมชาติฮังการี เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ทำให้เขาทำประตูสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่ผลงานที่ผ่านในนามสโมสร เขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยปราการหลังวัย 28 ปีถือว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญที่ช่วยพาทัพ "กระทิงแดง" แอร์เบ ไลป์ซิก จบฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยตำแหน่งรองแชมป์ บุนเดสลีกา ด้วยการทำไปถึง 4 ประตูจากการลงสนามในตำแหน่งตัวรับ ซึ่งเชื่อว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยพาทีมหักปากกาเซียนทีมยักษ์ใหญ่ในกลุ่มได้แน่นอน

เทรนเนอร์ : มาร์โก้ รอสซี่

อดีตปราการหลังชาวอิตาเลี่ยนเข้ามารับงานคุมทีมตั้งแต่ปี 2018 โดยมารับช่วงต่อจาก จอร์เกส เลเกนส์ ที่เข้ามาคุมทีมชาติฮังการีได้เพียง 4 เกม แต่แพ้ไม่ถึง 3 ทำให้ถูกปลดออกไป ก่อนที่ทางสมาคมฟุตบอลฮังการีจะไปเข้าตากับผลงานของ มาร์โก้ รอสซี่

ซึ่งนับตั้งแต่ที่กุนซือวัย 56 ปีก้าวเข้ามารับตำแหน่งผลงานโดยรวมขึ้นทีมก็ดีขึ้นตามลำดับโดยเขาพาทีมชาติฮังการีกวาดชัยชนะได้ถึง 15 เกม เสมอ 4 และแพ้เพียงแค่ 9 นัดเท่านั้น ถือว่าเข้ามายกระดับทีมได้อย่างชัดเจนจนสามารถเข้ามาถึงยูโรรอบสุดท้ายในครั้งนี้ได้

รายชื่อนักเตะทีมชาติฮังการี ชุดทำศึกยูโร 2020

เบอร์     ชื่อ    อายุ    สโมสร

            ผู้รักษาประตู

1        ปีเตอร์ กูลัคซี่        31        ไลป์ซิก
12        เดเนส ดิบุสซ์        30        เฟเรนซ์วารอส
22        อดัม บ็อกดาน        33        เฟเรนซ์วารอส

            กองหลัง

2        อดัม แลง            28        โอโมเนีย
3        เอคอส เคชส์เคส        25        ลูกาโน่
4        อัตติลา ซาไล        23        เฟเนร์บาห์เช่
5        อัตติลา ฟิโอล่า        31        เฟเฮร์ว่าร์
6        วิลลี่ ออร์บาน        28        ไลป์ซิก
7        โลอิก เนโก้        30        เฟเฮร์ว่าร์
14        เกร์โก้ ลอฟเรนซิสซ์        32        เฟเรนซ์วารอส
21        เอ็นเดร บ็อทก้า        26        เฟเรนซ์วารอส
26        เบนเดกัซ โบลล่า        21        เฟเฮร์ว่าร์

            กองกลาง

8          อดัม นาจี้            25        บริสตอล ซิตี้
10        ตามาส เซรี่        33        เมโซโคเวสด์
13        อันดราส ชาเฟอร์        22        ดูนาชสก้า สเตรด้า
15        ลาซโล ไคลน์ไฮสเลอร์    27        โอซิเย็ค
16        แดเนี่ยล กัซดัก        25        ฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน
17        โรแลนด์ วาร์ก้า        31        เอ็มทีเค บูดาเปสต์
18        ดาวิด ซิเกอร์        30        เฟเรนซ์วารอส
19        เควิน วาร์ก้า        25        คาซิมปาซ่า

            กองหน้า

9        อดัม ซาไล            33        ไมนซ์
11        ฟิลิป โฮเลนเดอร์        26        ปาร์ติซาน
20        โรแลนด์ ซัลไล        24        ไฟรบวร์ก
23        เนมานย่า นิโคลิช        33        เฟเฮร์ว่าร์
24        ซาโบลช์ โชน        20        เอฟซี ดัลลัส
25        ยานอส ฮาห์น        26        ปัคส์

ฝรั่งเศส ตราไก่จะไปถึงแชมป์

แน่นอนว่าในยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าภาพ และพวกเขาก็ถูกคาดหวังว่าจะได้แชมป์มาครอง แต่กลับตกม้าตายในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ในยูโรหนนี้ ทัพตราไก่ที่มีแข้งระดับโลกอยู่เต็มทีมหวังจะกลับมาทวงบัลลังก์เจ้ายุโรปให้ได้

ฝรั่งเศส ผ่านเข้ามาเล่นยูโรรอบสุดท้ายอย่างสบายๆ ด้วยการชนะ 8 จาก 10 นัด เข้ารอบมาเป็นที่ 1 ของกลุ่ม แต่ในรอบสุดท้ายนี้ตราไก่ถูกจับไปอยู่ในกลุ่มที่แข็งที่สุดร่วมกับ 2 ชาติยักษ์อย่าง โปรตุเกส, เยอรมัน และอีกหนึ่งทีมคือ ฮังการี แต่ยังไงก็ดีพวกเขาก็ยังถูกยกให้เป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์

เนื่องจากการมีนักเตะที่ครบเครื่องทุกตำแหน่ง ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง นำมาโดย เอ็มบั๊ปเป้, กรีซมันน์, คิงส์เล่ย์ โกมัน, ปอล ป๊อกบา, ก็องเต้, ราฟาแอล วาราน และที่เซอร์ไพรส์คือ เบนเซม่า กองหน้าตัวเก๋าของ เรอัล มาดริด ที่กลับมาติดทีมชาติในรอบกว่า 5 ปี ซึ่งหากดูจากตัวผู้เล่นแล้วถือว่าแทบจะเป็นต่อทุกทีมในศึกยูโรครั้งนี้

รายการทัวร์นาเมนต์แบบนี้ ทีมชาติฝรั่งเศส เป็นทีมที่ได้เปรียบทีมอื่นอยู่พอสมควร ด้วยขุมกำลังและประสบการณ์ของเหล่านักเตะชุดนี้ที่ลงเล่นด้วยกันมานาน ทำให้ทัพตราไก่ถูกคาดหวังไว้สูงว่าจะต้องคว้าแชมป์ ซึ่งพวกเขาก็คงมีเป้าหมายเดียวคือการชูถ้วยยูโรให้ได้

สตาร์เด่น : คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ทีมชาติฝรั่งเศสอุดมไปด้วยสตาร์ดังล้นทีม แต่ เอ็มบั๊ปเป้ ถือเป็นแนวรุกที่สำคัญที่สุดของทัพตราไก่เลยก็ว่าได้ โดยฟอร์มในลีกฤดูกาลล่าสุดจัดการซัดไป 27 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ จึงไม่แปลกที่จะถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลดาวซัลโวในยูโรหนนี้

ดาวเตะวัยเพียง 22 ปี ถูกมองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกต่อจาก โรนัลโด้ และ เมสซี่ ซึ่งตัวเขาถือว่าประสบความสำเร็จในทีมชาติเร็วมากๆ เนื่องจากเอ็มบั๊ปเป้ช่วยให้ทัพตราไก่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2018 มาแล้ว

เทรนเนอร์ : ดิดิเย่ร์ เดชองส์

ตำนานทีมชาติฝรั่งเศสที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยเป็นนักเตะมาแล้ว และเมื่อก้าวขึ้นมาคุมทัพตราไก่ก็ยังสามารถพาทีมบ้านเกิดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้อีกเมื่อปี 2018

ซึ่งยูโรในครั้งนี้ เดชองส์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะพาฝรั่งเศสคว้าแชมป์ให้ได้ หลังจากที่เป็นได้แค่พระรองในยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสเองเป็นเจ้าภาพ แต่ไปพลาดถ้าแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ

รายชื่อนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ชุดทำศึกยูโร 2020

เบอร์ ชื่อ อายุ สโมสร

    ผู้รักษาประตู

1   อูโก้ โยริส          34       ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
23 ไมค์ เมนญอง         25     ลีลล์
16 สเตฟ ม็องด็องด้า     36     โอลิมปิก มาร์กเซย

    กองหลัง

18 ลูก้าส์ ดีญ         27     เอฟเวอร์ตัน
24 เลโอ ดูบัวส์         26     โอลิมปิก ลียง
21 ลูกัส แอร์กน็องเดซ     25     บาเยิร์น มิวนิค
3 เพรสแนล คิมเปมเบ้     25     เปแอสเช
25 ชูลส์ กุนเด้         22     เซบีย่า
5 เกลม็องต์ ล็องเล่ต์     25     บาร์เซโลน่า
2 แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์     25     บาเยิร์น มิวนิค
4 ราฟาแอล วาราน         28     เรอัล มาดริด
15 ควร์ต ซูม่า 26 เชลซี

    กองกลาง

13 เอ็นโกโล่ ก็องเต้         30     เชลซี
8 โตม่าส์ เลมาร์         25     แอต. มาดริด
6 ปอล ป๊อกบา         28     แมนฯ ยูไนเต็ด
14 อาเดรียง ราบิโอต์     26     ยูเวนตุส
17 มุสซา ซิสโซโก้         31     ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
12 โกร็องแต็ง โตลิสโซ่     26     บาเยิร์น มิวนิค

    กองหน้า

22 วิสซาม เบน เยแดร์     30     อาแอส โมนาโก
19 คาริม เบนเซม่า         33     เรอัล มาดริด
20 คิงส์เล่ย์ โกมัน         24     บาเยิร์น มิวนิค
11 อุสมาน เด็มเบเล่         24     บาร์เซโลน่า
9 โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์         34     เชลซี
7 อ็องตวน กรีซมันน์     30     บาร์เซโลน่า
10 คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้         22     เปแอสเช
26 มาร์กกุส ตูราม         23     โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

โปรตุเกส ฝอยทองขอป้องกันแชมป์

ทีมชาติ โปรตุเกส เคยก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ฟุตบอลรายยูโรมาแล้ว ในปี 2016 ด้วยการเฉือนชนะ ฝรั่งเศส ไป 1-0 ในวันนั้น ซึ่งปีนี้พวกเขาก็เตรียมตัวมาเพื่อป้องกันแชมป์ให้กับชาติของตัวเองอีกปีนึง

ช่วงรอบคัดเลือกทัพฝอยทองทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่โดยพวกเขาผ่านเข้ารอบมาเป็นอับดับที่ 2 ทำให้ต้องมาอยู่ในกลุ่ม เอฟ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ เลยทีเดียว เพราะมีทั้ง ฝรั่งเศส แชมป์โลก หนล่าสุด ไหนจะ เยอรมัน ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นตัวเต็งในฟุตบอลรายการเมเจอร์ รวมไปถึง ฮังการี ที่ชื่อชั้นอาจจะดูสู้ไม่ได้ แต่ 5 ปีที่แล้วพวกเขาก็สามารถ เสมอกับ โปรตุเกส ในรอบแบ่งกลุ่มไปได้ 3-3

แต่ขุมกำลัง โปรตุเกส ชุดนี้ บอกว่าพวกเขาล้วนมีแต่ผู้เล่นคุณภาพอยู่ล้นทีมในทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น รุย ปาตริซิโอ นายด่าน จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน กองหลังมี รูเบน ดิอาส แข้งยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก ไหนจะ 2 ตัวเก๋าจากชุดแชมป์อย่าง เปเป้ และ โฆเซ่ ฟอนเต้

ส่วนแดนกลางก็มีชื่อของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส, แบร์นาโด้ ซิลวา, ชูเอา มูตินโญ่, รูเบน เนเวส ที่ล้วนแต่มีพิษสงอันตรายๆทั้งนั้น รวมไปถึง กองหน้าพวกที่มี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีม บวกกับ อังเดร ซิลวา และ  ดิโอโก้ โชต้า ที่ฟอร์มฮอตในซีซั่นนี้ แถมยังมีดาวรุ่งพุงแรงอย่าง ชูเอา เฟลิกซ์ อีกด้วย และเมื่อดูรายชื่อแล้วปีนี้พวกเขาก็ถือเป็นอีกหนึ่งทีมเต็งในการลุ้นแชมป์

สตาร์เด่น : คริสเตียโน่ โรนัลโด้

แน่นอนว่า จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก 'คริสเตียโน่ โรนัลโด้' ซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของทีม แม้ด้วยอายุที่เพิ่มแต่ พี่โด้ ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ายังเป็นยอดนักเตะระดับโลกอยู่ด้วยการเป็นดาวซัลโว เซเรีย อา หลังซัดให้ทัพม้าลายไป 29 ประตูในลีกซีซั่นนี้

และด้วยวัย 36 ปี นี่อาจจะเป็นยูโรสุดท้ายแล้วของเจ้าตัวในสีเสื้อฝอยทอง ซึ่งตัว ซีอาร์7 เองก็คงอยากพาทีมไปเป็นแชมป์อีกสมัยให้ได้อย่างแน่นอน

เทรนเนอร์ : แฟร์นานโด ซานโตส

เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส วัย 66 ปี เข้ามารับงานคุมทีมโปรตุสเกสในปี 2014 ต่อจาก เปาโล เบนโต้  โดยหลังจากนั้นเพียงแค่ 2 ปี  ซานโตส ก็พาทัพฝอยทองผงาดคว้าถ้วยรางวัลยูโรมาครองได้สำเร็จ จนทำให้ ซานโตส ถูกโหวตให้เป็นผู้จัดการทีมชาติยอดเยี่ยมแห่งปี 2016

หลังจากนั้น ซานโตส ก็ได้ตัดสินใจขยายสัญญาในคุมทีมชาติโปรตุเกสต่อไปจนถึงปี 2024 ซึ่งตัวเขาเองก็จะอยู่ทำหน้าที่เป็นหัวเรือในการพาฝอยทองลุยศึกยูโรครั้งนี้อีกด้วย

รายชื่อนักเตะทีมชาติโปรตุเกส ชุดทำศึกยูโร 2020

เบอร์    ชื่อ    อายุ    สโมสร

    ผู้รักษาประตู

1    รุย ปาตริซิโอ    33    วูล์ฟแฮมป์ตัน
12    แอนโธนี่ โลเปส    30    โอลิมปิก ลียง
22    รุย ซิลวา        27    กรานาด้า

    กองหลัง

2    เนลซอน เซเมโด้    27    วูล์ฟแฮมป์ตัน
3    เปเป้        38    ปอร์โต้
4    รูเบน ดิอาส    24    แมนฯ ซิตี้
5    ราฟาเอล เกร์เรยโร่    27    โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
6    โฆเซ่ ฟอนเต้    37    ลีลส์
20    ชูเอา คันเซโล่    27    แมนฯ ซิตี้
25    นูโน่ เมนเดส     18    สปอร์ติ้ง ลิสบอน

    กองกลาง

8    ชูเอา มูตินโญ่    34    วูล์ฟแฮมป์ตัน
10    แบร์นาโด้ ซิลวา    26    แมนฯ ซิตี้
11    บรูโน่ แฟร์นันด์ส    26    แมนฯ ยูไนเต็ด
13    ดานิโล่ เปเรยร่า    29    เปแอสเช
14    วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่    29    เรอัล เบติส
15    ราฟา ซิลวา    28    เบนฟิก้า
16    เรนาโต้ ซานเชส    23    ลีลส์
18     รูเบน เนเวส    24    วูล์ฟแฮมป์ตัน
19     เปโดร กอนซัลเวส    22    สปอร์ติ้ง ลิสบอน
24    แซร์โจ้ โอลิเวยร่า     29    ปอร์โต้
26    ชูเอา ปาลินญ่า     25    สปอร์ติ้ง ลิสบอน

    กองหน้า

7    คริสเตียโน่ โรนัลโด้    36    ยูเวนตุส
9    อังเดร ซิลวา    25    แฟร้งค์เฟิร์ต
17    กอนซาโล่ เกเดส    24    บาเลนเซีย
21    ดิโอโก้ โชต้า    24    ลิเวอร์พูล
23     ชูเอา เฟลิกซ์    21    แอตฯ มาดริด

เยอรมัน ถึงเวลาที่อินทรีจะโบยบิน

หลังจากที่ ทีมชาติเยอรมัน ของ โยอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ฝีมือดี ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ได้สำเร็จ พวกเขาก็ไม่เคยเข้าใกล้ความสำเร็จอีกเลย

ในศึกฟุตบอล ยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส อินทรีเหล็ก พลาดท่าตกรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือของ ฝรั่งเศส ด้วยสกอร์ 0-2 ก่อนที่ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ลูกทีมของ เลิฟ ก็ไม่สามารถไว้ลายความเป็นแชมป์เก่าได้เลย เพราะตกรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม เอฟ ด้วยผลงานการชนะได้แค่เกมเดียวจากการลงสนามทั้งหมด 3 เกมด้วยกัน

แน่นอนว่าเมื่อทัวร์นาเมนต์การชิงความเป็นใหญ่ในยุโรปโคจรมาถึงอีกครั้ง เยอรมัน ต้องการที่จะคว้าแชมป์มาครอง เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่พวกเขาประสบความสำเร็จในรายการนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 หรือ 25 ปีที่แล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศึกหนนี้จะเป็นเวทีสุดท้ายแล้วที่ เลิฟ จะนำลูกทีมของเขาลงสนามไล่ล่าชัยชนะ ก่อนที่จะส่งไม้ต่อให้กับผู้ที่มาสานต่ออย่าง ฮันซี่ ฟลิค ดังนั้นจึงเชื่อได้เลยคงไม่มีใครที่อยากจะปิดฉากกับทีมด้วยความล้มเหลวอย่างแน่นอน

สตาร์เด่น : ไค ฮาแวร์ตซ์

ถึงแม้ว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปรับตัวเข้ากับต้นสังกัดอย่าง เชลซี หลังจากที่ย้ายมาจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นที่ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

แต่การเข้ามากุมบังเหียนใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์เพื่อนร่วมชาติ ทำให้เจ้าตัวเค้นฟอร์มเก่งกลับมาอีกครั้งในบทบาทของการยืนตำแหน่งฟอลส์ไนน์ พร้อมกับยิงประตูชัยช่วยให้ สิงโตน้ำเงินคราม คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จ และหาก ดาวเตะวัย 21 ปี ยังสามารถรักษาฟอร์มที่ยอดเยี่ยมเอาไว้เขาก็จะเป็นอาวุธเด็ดของ อินทรีเหล็ก อย่างแน่นอน

เทรนเนอร์ : โยอาคิม เลิฟ

ถือเป็นหนึ่งในเทรนเนอร์ประสบการณ์สูงมากที่สุดในยุคปัจจุบันสำหรับ โยอาคิม เลิฟ ในวัย 61 ปี ที่อยู่ในตำแหน่งบุนเดสเทรนเนอร์เขาผ่านร้อนผ่านหนาวกับมาอย่างมากมาย และแน่นอนว่าหนึ่งในความสำเร็จของเขาก็คือ แชมป์ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล

ถึงแม้ว่าตัวเขาและทัพ อินทรีเหล็ก จะห่างหายจากความสำเร็จมานานพอสมควรแล้ว แต่ในครั้งนี้ นายใหญ่จอมเก๋า ก็ได้ขนเอาผู้เล่นชุดที่เขาคิดว่าดีที่สุดโดยมีตัวเก๋าอย่าง มานูเอล นอยเออร์ และ โธมัส มุลเลอร์ ผนึกกำลังร่วมกับดาวรุ่งอย่าง จามาล มูเซียล่า และ ไค ฮาแวร์ตซ์

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องที่แปลกเกินไปหากเราจะพูดว่า เยอรมัน ก็พร้อมสำหรับการเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงใน ยูโร 2020 เช่นกันเพื่อที่ เลิฟ จะได้ก้าวลงเก้าอี้เทรนเนอร์ของทีมอย่างสวยงาม

รายชื่อนักเตะทีมชาติเยอรมัน ชุดทำศึกยูโร 2020

เบอร์    ชื่อ    อายุ    สโมสร

   ผู้รักษาประตู

1    มานูเอล นอยเออร์         35        บาเยิร์น มิวนิค
12    แบรนด์ เลโน่        29        อาร์เซน่อล
22    เควิน ทรัปป์        30        แฟร้งค์เฟิร์ต

   กองหลัง

2    อันโตนิโอ รือดิเกอร์        28        เชลซี
3    มาร์เซล ฮัลสเตนแบร์ก    29        แอร์เบ ไลป์ซิก
4    มัตติอัส กินเตอร์        27        มึนเช่นกลัดบัค
5    มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์        32        ดอร์ทมุนด์
15    นิคลาส ซือเล่        25        บาเยิร์น มิวนิค
16    ลูคัส คลอสเตอร์มันน์        25        แอร์ไบ ไลป์ซิก
20    โรบิน โกเซ่นส์        26        อตาลันต้า
23    เอ็มเร่ ชาน        27        ดอร์ทมุนด์
24    โรบิน ค็อค            24        ลีดส์ ยูไนเต็ด
26    คริสเตียน กุนเทอร์        28        ไฟร์บวร์ก

   กองกลาง

6    ยชัว คิมมิช            26        บาเยิร์น มิวนิค
8     โทนี่ โครส            31        เรอัล มาดริด
10    แซร์จ นาบรี้        25        บาเยิร์น มิวนิค
13    โยนาส ฮอฟมันน์         28        มึนเช่นกลัดบัค
14    จามาล มูเซียล่า        18        บาเยิร์น มิวนิค
17    ฟลอเรียน นอยเฮาส์        24        มึนเช่นกลัดบัค
18    ลีออน โกเร็ตส์ก้า        26        บาเยิร์น มิวนิค
19    ลีรอย ซาเน่        25        บาเยิร์น มิวนิค
21    อิลคาย กุนโดกัน        30        แมนฯ ซิตี้

    กองหน้า

7    ไค ฮาแวร์ตซ์        21        เชลซี
9    เควิน โฟลลันด์         28        อาแอส โมนาโก
11    ติโม แวร์เนอร์        25        เชลซี
25    โธมัส มุลเลอร์        31        บาเยิร์น มิวนิค
           
โปรแกรมการแข่งขัน กลุ่ม เอฟ

วัน        คู่แข่งขัน                สถานที่

15 มิ.ย. 64        ฮังการี - โปรตุเกส            ปุสกัส อาเรน่า, ฮังการี
15 มิ.ย. 64        ฝรั่งเศส - เยอรมัน            อัลลิอันซ์ อารีน่า, เยอรมัน
19 มิ.ย. 64        ฮังการี - ฝรั่งเศส            ปุสกัส อาเรน่า, ฮังการี
19 มิ.ย. 64        โปรตุเกส - เยอรมัน            อัลลิอันซ์ อารีน่า, เยอรมัน
23 มิ.ย. 64        โปรตุเกส - ฝรั่งเศส            ปุสกัส อาเรน่า, ฮังการี
23 มิ.ย. 64        เยอรมัน - ฮังการี            อัลลิอันซ์ อารีน่า, เยอรมัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • งานนี้ไม่ได้มาเล่นๆ ! "มูรินโญ่" วิเคราะห์โอกาส อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ ในศึกยูโร
    อีกไม่กี่ชั่วโมงศึกยูโร 2020 จะฟาดแข้งอย่างเป็นทางการซะที หลังจากที่ต้องเลื่อนแข่งมานานถึง 12 เดือนเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยงานนี้แฟนบอลต่างตั้งตาคอยว่าชาติไหนจะประสบความสำเร็จในมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนผืนแผ่นดินทวีปยุโรป
  • ซานโช่เปิดใจ!แข้งแมนยูในแคมป์ทีมชาติถามเรื่องอนาคตร่วมสโมสร
    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมที่จะเพิ่มค่าตัวของ เจดอน ซานโช่ ให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จาก 60 ล้านปอนด์เป็น 91 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยมหาศาล หลังจบยูโร 2020 ขณะที่นักเตะยอมรับว่าเพื่อนร่วมทีมชาติอังกฤษที่มาจากค่าย "ปีศาจแดง" เนื้อเต้นยกใหญ่เกี่ยวกับเรื่องนี้ และพยายามถามว่าตนจะย้ายไปอยู่กับพวกเขาหรือไม่
  • โอกาสทอง!เจมส์เชื่อทีมชาติอังกฤษเจ๋งพอซิวแชมป์ยูโร
    รีซ เจมส์ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ มั่นใจ "สิงโตคำราม" มีดีพอที่จะคว้าแชมป์ ยูโร 2020 พร้อมแย้มกุนซือ แกเร็ธ เซาธ์เกต พร้อมใช้งานตน 3 บทบาท
  • อัซซูร์รี่คลีนชีทกว่า13ชั่วโมง! เกร็ดน่ารู้คู่เปิดหัวยูโร"ตุรกีฟัดอิตาลี"
    เกมคู่เปิดสนามฟุตบอลยูโรคืนนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ตุรกี กับ อิตาลี ที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก ณ กรุงโรม โดยจะมีแฟนบอลเข้าสนามมาชมทั้งหมด 16,000 คน ซึ่งเกมนี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นสองทีมที่โชว์ฟอร์มในช่วงอุ่นเครื่องได้ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะทางฝั่ง "อัซซูร์รี่" ของนายใหญ่ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่คว้าชัยชนะต่อเนื่องมายาวนาน เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนชมฟุตบอลยูโร เรามาดูสถิติและเกร็ดเด็ดๆจากทั้งสองทีมกัน

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »