อดีตประธานเทคนิค ส.บอลฯ "โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล พูดตรงๆ ถ้าไม่มีการประเมินโค้ชทีมชาติ ยังไงก็ล้มเหลว ไม่ใช่ปล่อยให้เขาทำงาน เสร็จงานหอบเงินใส่กระเป๋ากลับบ้าน ทำงานต้องทำจริง เห็นอะไรผิดพลาดต้องบอกกันตรงๆ เผยเคยประเมินจน "อเล็กซานเดร กามา" ลาออกจากทีมชาติมาแล้ว งงนิชิโนะ เอานักบอลไปเยอะไรขนาดนั้น ต้องรู้อยู่แล้วจะเล่นอย่างไรในคัดบอลโลก ระบุชัด เห็นตั้งแต่แรกที่ไม่เอาผู้ช่วยมาด้วย ยังไงก็ไม่รอด เปิดใจตอนสมัยนั่งปธ.เทคนิค ส.บอลฯ ตอนประชุมพิจารณา "โค้ชนิชิโนะ" บอกนายกฯตรงๆว่า อย่าไปเอาเลย เพราะต่อรองเงินเดือนเยอะเกินไป ดูแล้วคงไม่ใช่ ชี้ชัดฟุตบอลไทยมันก็เหมือนการพายเรือในอ่าง ยังไม่เข้าระบบสากลสักที แพ้ทีต้องเปลี่ยนโค้ช อนาคตอยากเห็นโค้ชคนไทยเข้ามาทำงานแล้วมีเงินเดือนที่สูง มีสัญญา 4 ปี แล้วก็ได้
    "โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล อดีตประธานเทคนิค ส.บอลฯ ที่ปัจจุบันทำหน้าที่ประธานฝ่ายเทคนิคของทีมชลบุรี เอฟซี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีความล้มเหลวของทีมชาติไทยชุดคัดบอลโลก2022ภายใต้การคุมทัพของ อากิระ นิชิโนะ ซึ่ง โค้ชเฮง เผยว่า

    "ต้องบอกแบบนี้ครับว่า ระบบที่เมืองไทยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว คือ พอโค้ชต่างชาติเข้ามา หรือเป็นโค้ชคนไทยก็ตาม เราไม่เคยไปประเมินอะไรเขา มีคนถามมาเยอะครับว่า นิชิโนะต้องออกไปไหม เราต้องถามก่อนว่า ถ้าเราประเมินเขา แนวทางการเล่นมันเหมาะสมไหม มันยั่งยืนไหม มันทำต่อเนื่องในอนาคตแล้วมันจะดีไหม คือมันไม่มีใครประเมินไงครับ"

    "ดังนั้นตรงนี้มันก็เป็นเหมือนโค้ชทุกคน ไล่มาตั้งแต่อดีตหรือแม้กระทั่งโค้ชคนไทยก็ตาม เราไม่เคยประเมินอะไรเขาเลย เราปล่อยให้เขาทำไปเลย เสร็จแล้วเขาก็เอาเงินหอบใส่กระเป๋ากลับบ้าน แค่นั้นเอง"

    "ผมยกตัวอย่าง ตอนผมทำหน้าที่ประธานเทคนิค ผมก็เคยประเมิน มิโลวาน ราเยวัช และ อเล็กซานเดร กามา ก็เอาวีดีโอให้เขาดู ผมบอก กามา ทำไมคุณเล่นฟุตบอลส่งขวางไปขวางมา ฟุตบอลสมัยใหม่ต้องเล่นให้รวดเร็ว ทะลุทะลวงอะไรแบบนี้ หลังจากนั้นเขาก็ลาออกครับ"

    "มันต้องมีคนติดตาม เรียกเขามาคุย คอยดูข้อบกพร่อง คือถ้าเราให้ใครทำงานสักคน แน่นอนเราเป็นคนจ่ายตังส์เขา เราต้องบอกได้ สมมุตสมัยก่อนผมได้งานที่กัมบะ โอซาก้า เขาก็บอกว่าทำให้เหมือนอันเดอร์เลชได้ไหม เขาต้องการแบบนั้น คือถ้าเราเอาโค้ชต่างชาติมา เราแค่จ่ายเงินแล้วปล่อยให้เขาทำ ตรงนี้มันก็จะประเมินเขาไม่ได้"

ADVERTISEMENT

    ผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็น"โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล เพิ่มเติมว่า ได้เห็นข้อผิดพลาดของ อากิระ นิชิโนะ อย่างไรบ้างหรือไม่ ซึ่งโค้ชเฮงตอบว่า

    "การทำสโมสรกับการทำทีมชาติของโค้ชต่างชาติจะไม่เหมือนกัน เหมือนตอน ราเยวัช คัดเลือก คือธรรมชาติของคนไทยจะต้องเล่นเกมบุก แต่ให้เขาไปเล่นเกมรับมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ อย่าง นิชิโนะ ประสบการณ์เยอะมาก ตามไปดูนักฟุตบอลไทยทุกๆสนาม แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอานักฟุตบอลไปเยอะขนาดนั้น มันต้องรู้แล้วว่าจะต้องเล่นอย่างไร จะเล่น 4 คนใช่ไหม หรือหลัง 3 ระบบต่างๆ ผู้เล่นคนไหนเข้ากับระบบ เขาต้องทำงานละเอียดอยู่แล้วครับ"

    "แต่ผมบอกตรงๆว่า ตั้งแต่มาครั้งแรกแล้ว เขาไม่เอาผู้ช่วยมาด้วย ผมก็พอรู้แล้วว่าคงไปไม่รอด"  

    โค้ชเฮง ยังเผยถึงตอนที่ยังทำหน้าที่เป็นประธานเทคนิค ส.บอลฯ ในตอนที่พิจารณาตัวโค้ชใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ ซึ่งโค้ชเฮงเผยว่า "ผมก็กระทุ้งนายกเลยว่า อย่าไปเอาเลยดีกว่า เขาไม่เอาผู้ช่วยมา และเขาก็ต่อรองเงินเดือนเยอะเกินไป อันนี้ผมคงพูดรายละเอียดไม่ได้ แต่ผมอยากจะเห็นผลงานก่อน โอเคว่ารายละเอียดในอดีตเขามีอยู่แล้ว"

ADVERTISEMENT

    "ที่ผ่านมา ผมเห็นโค้ชต่างชาติเข้ามาเยอะ แสดงผลงานออกมาก่อน แบบนี้ผมชอบ ไม่ใช่ว่ามาต่อรองเรื่องเงินอย่างเดียว ผมมองว่าถ้ามีผลงานจริงๆ แล้วค่อยมาพูดเรื่องเงิน เรียกเท่าไหร่เขาก็ให้ครับ"

    "แต่ว่าจะมาเอาเงินก่อน ผมดูว่ามันไม่ใช่"

    ผู้สื่อข่าวสอบถามอีกว่า ต่อจากนี้ เราควรให้นิชิโนะทำงานต่อไปหรือไม่ในมุมมองของ โค้ชเฮง ซึ่ง โค้ชเฮง ตอบว่า

    "เราไม่มีข้อมูลประเมินเขา เราคงตัดสินใจลำบาก ซึ่งผมบอกตรงๆว่าเราไม่ละเอียดตรงนี้ ถ้าจะมีกลุ่มสต๊าฟฟ์เพิ่ม ก็ควรต้องเป็นกลุ่มสต๊าฟฟ์ที่ไว้ใจได้ ทำงานละเอียด งานระดับชาติมันต้องละเอียด ซึ่งที่เห็นมามันยังไม่มีรายละเอียดและข้อมูลเลย"

    "ฟุตบอลไทยมันก็เหมือนการพายเรือในอ่าง แพ้ทีก็เปลี่ยนโค้ชที ซึ่งจริงๆมันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว มันยังไม่เข้าระบบสากลสักที ผมอยากเห็นโค้ชคนไทยเข้ามาทำงานแล้ว มีเงินเดือนที่สูง มีสัญญา 4 ปี แล้วก็ได้ทำงานต่อเนื่อง ถ้าไม่ได้ทำงานต่อเนื่อง มันลำบาก ให้ทำเป็นช่วงๆ มันทำไม่ได้หรอกครับ"

    "ผมไม่รู้ว่าประธานเทคนิคคนปัจจุบัน คุณกาเลส โรมาโกซ่า ได้ขอแผนงานการเตรียมทีมของนิชิโนะแล้วหรือเปล่า มันอยู่ที่กาเลสจะควบคุมดูแลและถามหาตรงนี้ว่าอย่างไร ว่าคุณจะเล่นสไตล์แบบไหน แนวทางเป็นอย่างไร จุดนี้ก็จะทำให้เราสามารถประเมินได้ครับว่าสไตล์แบบนี้มันเหมาะหรือไม่อย่างไร บ้านเรามันยังต่างคนต่างทำ การสื่อสารตรงนี้มันยังอ่อนอยู่"