เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพทีมชาติเบลเยียม ระบุ ไม่ใช่งานง่ายสำหนับทีมตน แม้สอยนิ่ม ฟินแลนด์ 2-0 พร้อมยกเครดิตให้เพื่อนๆ แม้ได้รางวัล "สตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์"
     
เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม เผยว่า ทีมตนเจอบททดสอบที่ยากลำบากไม่น้อย หลังเอาชนะ ฟินแลนด์ 2-0 ในศึก ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสุดท้าย เมื่อวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา

เกมช่วง 45 นาทีแรก จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 จนกระทั่งนาทีที่ 74 เบลเยียม มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ ลูคัส ฮราเด็คกี้ นายทวารทีมชาติฟินแลนด์ ก่อนที่จะมาได้ประตูย้ำชัย 2-0 จากการยิงของ โรเมลู ลูกากู นาทีที่ 81 โดย เบลเยียม ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะทีมแชมป์กลุ่ม บี มี 9 แต้มเต็ม จาก 3 นัด

"วันนี้ถือเป็นเกมที่ยากมาก เรารู้อยู่แล้วว่า ฟินแลนด์ จะเล่นแบบตั้งรับแน่น ซึ่งยากที่จะเจาะเข้าไป แต่หลังจากเราทำประตูได้ เรารู้ว่า พวกเขาจะดันเกมสูงขึ้น ซึ่งทำให้มีพื้่นที่ว่างมากขึ้นเช่นกัน ช่วงครึ่งหลังเราเล่นดีกว่าครึ่งแรกเยอะมาก" ดาวเตะจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วัย 29 ปี กล่าว

เกมนี้ เดอ บรอยน์ เป็นคนแอสซิสต์ให้ ลูกากู ทำประตู 2-0 และได้รางวัล "สตาร์ ออฟ เดอะ แมตช์" ในฐานะนักเตะยอดเยี่ยมประจำเกมไปครอง ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า รู้สึกยินดี แต่อยากให้เครดิตการเล่นเป็นทีมมากกว่า

"การได้รางวัลส่วนตัว มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญสุดสำหรับผมคือ การเล่นกันเป็นทีม ผมพยายามช่วยยกระดับทีม และยกระดับฟอร์มตัวผมเองเช่นกัน เราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเกมในวันนี้ และตอนนี้เราจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับรอบต่อไป" เดอ บรอยน์ ระบุ