ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » สิงโตเคลื่อนทัพบุกกรุงโรม!เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม อังกฤษ ปะทะ ยูเครน 8 ทีมยูโร

สิงโตเคลื่อนทัพบุกกรุงโรม!เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกม อังกฤษ ปะทะ ยูเครน 8 ทีมยูโร

Posted 03/07/2021 by siamsport

     แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เตรียมนำลูกทีมเปิดศึกสำคัญในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ปะทะ ยูเครน ศึกยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยงานนี้ต้องบอกเลยว่า "สิงโตคำราม" มีภาษีเหนือกว่าคู่แข่งค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
     ทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความกระหายที่จะคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ให้ได้ และเป็นแชมป์ระดับชาติครั้งแรกนับตั้งแต่ที่พวกเขาสถาปนาตัวเองเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 1966

     ชัยชนะเหนือ เยอรมนี ทำให้ตอนนี้ อังกฤษ เต็มไปด้วยความฮึกเหิม ที่สำคัญเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศของพวกเขาก็ไม่ได้ยากลำบาก เพราะหากสามารถผ่าน ยูเครนไปได้ ในรอบตัดเชือกไม่ว่าจะเจอกับ เช็ก หรือ เดนมาร์ก ณ ตอนนี้คงต้านทางพลัง "สิงโตคำราม" ยากจริงๆ  

1.  ใครจะได้ลงมาแทน ซาก้า
     ต้องบอกว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับ อังกฤษ เพราะ บูกาโย่ ซาก้า มีปัญหาบาดเจ็บในช่วงซ้อมกับทีม งานนี้ เซาธ์เกต ต้องรีบหาทางแก้ไขเป็นการด่วน แต่ด้วยขุมกำลังในเกมรุกที่มีอยู่ในมือน่าจะทำให้เขาสามารถจับคนลงไปแทนได้ไม่ยาก

     หาก  ซาก้า ลงสนามไม่ได้จริงๆ งานนี้ตัวเลือกเกมรุกทางฝั่งขวา เซาธ์เกต อาจตัดสินใจใช้งาน เจดอน ซานโช่ ลงสนามเป็นตัวจริงก็ได้ เพราะหากมองเรื่องศักยภาพแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับ ดาวรุ่งอาร์เซน่อล แถมมีดีตรงที่ประสบการณ์บนเวทียุโรปมีเยอะกว่า

     อย่างไรก็ตามถ้าให้เดาใจ เซาธ์เกต มีความเป็นไปได้สูงที่ ฟิล โฟเด้น อาจจะได้ลงสนามไปทำเกมทางริมเส้นฝั่งขวา แม้ว่าฟอร์มของเขาในยูโรยังไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ก็น่าจะปั่นป่วนเกมรับของ ยูเครน ได้พอสมควร

     กระนั้น เมสัน เมาท์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นายใหญ่ทัพ "สิงโตคำราม" จะเลือกใช้งานเพราะเขาประสานงานได้ดีเวลาที่เล่นร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และ แฮร์รี่ เคน ส่วน แจ็ค กรีลิช ที่หลายๆ คนเชียร์ให้ลงตัวจริง เชื่อว่า เซาธ์เกต คงอยากเก็บเขาเอาไว้เป็นไพ่เด็ดในยามคับขันมากกว่า เพราะศักยภาพของเขาสามารถช่วยเปลี่ยนเกมได้ทันทีเมื่อลงสนาม

2. เกมรับตัดสินชัยชนะ
     ต้องยอมรับว่าเกมรับของ อังกฤษ ในเวลานี้แข็งแกร่งมากๆ ผลงานไม่เสียประตูตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์จนถึงตอนนี้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การที่จะเจาะเข้าไปทำประตูพวกเขามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเอาซะเลย

     ระบบกองหลัง 3 ตัวที่เซาธ์เกตนำมาใช้ในเกมทุบ เยอรมนี ต้องบอกว่าลงตัวอย่างมากทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์, จอห์น สโตนส์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมสามารถปิดเกมบุกของ "อินทรีเหล็ก" ได้หมด

     ขณะเดียวกันสองฟูลแบ็กอย่าง คีแรน ทริปเปียร์ กับ ลุค ชอว์ สามารถช่วยเติมเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้การทำหน้าที่เกมรับก็ไม่มีขาดตกบกพร่อง ฉะนั้นนี่คือแผงหลังที่ต้องบอกว่าลงตัวอย่างที่สุดสำหรับ อังกฤษ ในตอนนี้

     ยังไม่หมดแค่นั้น จอร์แดน พิคฟอร์ด ก็อยู่ในช่วงท็อปฟอร์มสุดๆ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำไมถึงได้รับเลือกให้เป็นมือ 1 ของอังกฤษ การเก็บคลีนชีต 4 เกมติดต่อกันเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพของนายทวารเอฟเวอร์ตันอย่างแท้จริง

     ฉะนั้นในเกมกับ ยูเครน มีความเป็นไปได้สูงที่ เซาธ์เกต น่าจะเลือกใช้แผนหลัง 3 ตัวพร้อมกับมีวิงแบ็กซ้ายขวาคอยวิ่งขึ้นลง แต่ก็ไม่แน่เพราะ ยูเครน ไม่ใช่คู่แข่งที่แข็งแกร่งเหมือน เยอรมนี นั่นอาจทำให้กุนซือเลือดผู้ดี ปรับมาใช้กองหลัง 4 ตัว เพื่อจะได้มีพื้นที่เหลือในแผงมิดฟิลด์จะได้ส่งกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมลงไปเพิ่ม เพื่อโอกาสในการครองเกมที่เหนือกว่าคู่แข่ง
 
3. เคน-สเตอร์ลิง ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ
     สำหรับตอนนี้ อังกฤษ คงไม่มีแนวรุกคนไหนที่คู่ควรลงตัวจริงมากไปกว่า แฮร์รี่ เคน กับ ราฮีม สเตอร์ลิง เพราะสี่ประตูที่ทัพ "สิงโตคำราม" ทำได้ในทัวร์นาเมนต์นี้มาจากพวกเขาสองคนเท่านั้น

     สตาร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมาไปแล้ว 3 ประตู ขณะที่ กัปตันทีมชาติอังกฤษ เพิ่งจะเปิดซิงประตูแรกในยูโร 2020 แมตช์สอย เยอรมนี แต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่าเขากำลังกลับมามีความมั่นใจในการสอยตาข่ายคู่แข่ง

     จริงๆ แล้ว เคน ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่เป็นหน้าเป้าเท่านั้น เพราะนักเตะมักจะคอยเชื่อมเกมรุก และยังพยายามหาช่องเพื่อที่จะยิงประตู อย่างไรก็ตามหากทีมเกิดมีปัญหากระสุนด้าน เซาธ์เกต ก็ยังมีออปชั่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ลงมาได้

     ขณะเดียวกัน อังกฤษ ก็ห้ามประมาทเกมรุกของ ยูเครน เพราะยิงได้ถึง 6 ประตูจาก 4 เกมที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทีมของกุนซืออันเดร เชฟเชนโก้ ต้องลุ้นหนักก็คือสภาพความฟิตของ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ หัวหอกจอมเก๋า หลังมีอาการเหนื่อยล้าจากการกรำศึกจนถึงวินาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษชนะ สวีเดน

4.  สภาพร่างกายแข้งยูเครน
     เรื่องความสามารถและขุมกำลังของ ยูเครน อาจจะเป็นรอง อังกฤษ อยู่พอสมควรในเวลานี้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากยิ่งกว่าก็คือสภาพความฟิตของนักเตะ เพราะพวกเขากรำศึกหนักในเกมกับ สวีเดน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

     ในแมตช์นั้น ยูเครน ห่ำหั่นกับทัพ "ไวกิ้ง" แบบหมดแม็กซ์ไม่มีเหลือพลังจนกระทั่งนาทีสุดท้ายของการต่อเวลาพิเศษถึงมาได้ประตูชัยจาก  อาร์เตม โดฟบิค ซึ่งแน่นอนว่าสภาพร่างกายของพวกเขาอาจจะมีปัญหาในเกมพบ อังกฤษ

     อย่าลืมว่าแมตช์นี้ต้องเดินทางไปแข่งที่ประเทศอิตาลี ฉะนั้นยิ่งทำให้นักเตะยูเครนอ่อนล้าเข้าไปอีก สวนทางกับ อังกฤษ ที่สู้กับ เยอรมนี จบในเวลา 90 นาทีทำให้พวกเขาได้พักร่างกายอย่างเต็มที่

     ลองนึกภาพหากเกมนี้ต้องยืดเยื้อไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที นักเตะยูเครนจะกรอบมากขนาดนั้น ฉะนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำให้ได้ก็คือฮึดเต็มสูบในช่วง 90 นาทีและเอาชนะ "สิงโตคำราม" ให้ได้

5. เส้นทางสู่รอบชิงเปิดกว้าง
     หาก อังกฤษ สามารถชนะ ยูเครน ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันเสาร์ที่ 3 ก.ค.ได้ นั่นจะทำให้พวกเขาได้กลับมาเล่นในรอบตัดเชือกที่สนามเวมบลีย์อีกครั้ง และถือเป็นเรื่องได้เปรียบอย่างมากเพราะ "สิงโตคำราม" ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อเล่นในบ้านตัวเอง

     พลังของแฟนบอลทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ที่ปรารถนาจะได้เห็น "ฟุตบอล'ส คัมมิ่ง โฮม!" (Football's coming home!) หรือ "การได้เห็น อังกฤษ คว้าแชมป์" มันเต็มไปด้วยความเร่าร้อน และนั่นทำให้ขุนพลเมืองผู้ดีมีพลังฮึกเหิมเป็นทวีคูณ ซึ่งดูได้จากเกมที่พวกเขาปราบ เยอรมนี มาได้อย่างสุดยอด

 

     ถ้าหากทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศได้จริงๆ ต้องบอกเลยว่าคู่แข่งของ อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น สาธารณรัฐเช็ก หรือ เดนมาร์ก ทั้งชื่อชั้นและขุมกำลังเป็นรองพวกเขาเยอะพอสมควร กอปรกับการมีกองเชียร์ในบ้านหนุนหลัง ยิ่งทำให้ อังกฤษ ได้เปรียบมากยิ่งขึ้น

     นี่ไม่ใช่การอวย อังกฤษ มากจนเกินความจริง แต่ด้วยศักยภาพของพวกเขาในตอนนี้ ยูเครน คงยากจะต้านทานได้ ขณะเดียวกับในรอบตัดเชือกก็ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรง ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องผิดหากจะเห็น "สิงโตคำราม" ยืนตระหง่านในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกยูโร 2020

     แต่จะไปถึงฝั่งฝันหรือเปล่า ต้องไปถาม สเปน หรือ อิตาลี เอาเอง !!!

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »