ในที่สุด ลิโอเนล เมสซี่ กับทีมชาติอาร์เจนติน่า ก็ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์มาครองร่วมกันได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะ บราซิล 1-0 จากประตูชัยของ อังเคล ดิ มาเรีย โดยเป็นแชมป์ โกปา อเมริกา สมัยที่ 15 ของพลพรรค "ฟ้า-ขาว"
    เกมนัดชิงชนะเลิศ ที่ มาราคาน่า อาร์เจนติน่า ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม นักเตะทุกคนโชว์ฟอร์มเก่งออกมา และเล่นกันได้อย่างพร้อมเพรียง และต่อไปนี้คือ 5 ประเด็นร้อนหลังการคว้าแชมป์ของ "ฟ้า-ขาว"

    1. ฟอร์มยอดเยี่ยมทั้งคู่ก่อนนัดชิงดำ แต่ อาร์เจนฯ เจ๋งกว่าในนัดชิง
    อาร์เจนติน่า และ บราซิล ต่างมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ทั้งคู่ไม่แพ้ใครในรายการนี้ โดย "ฟ้า-ขาว" มีสะดุดเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ด้วยการเจ๊ากับ ชิลี 1-1 ก่อนที่จะคว้าชัยรวดจนกระทั่งต้องไปดวลจุดโทษตัดสินกับ โคลอมเบีย ในรอบรองชนะเลิศ

    ส่วน "แซมบ้า" มีเสมอกับ เอกวาดอร์ ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม และเบียดเอาชนะคู่แข่งอย่าง ชิลี กับ เปรู ด้วยการเฉือนหวิว 1-0 ทั้งสองเกม

    อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ ลิโอเนล สคาโลนี่ เปล่งฟอร์มการเล่นได้ดีกว่าในรอบชิงชนะเลิศ พวกเขาเล่นด้วยความรัดกุม และอดทน บดบี้ขยี้บรรดาตัวผู้เล่นเทคนิคเยี่ยมของ บราซิล ได้อย่างอยู่หมัด และประตูโทนของ อังเคล ดิ มาเรีย ดีพอที่จะทำให้ อาร์เจนฯ คว้าโทรฟี่นี้ไปครอง

    2. อาร์เจนฯ ภายใต้ สคาโลนี่ ดีขึ้นเรื่อยๆ
    ลิโอเนล สคาโลนี่ ขึ้นมากุมบังเหียนทีมชาติอาร์เจนติน่า เมื่อปี 2018 ต่อจาก ฮอร์เก้ ซัมเปาลี ที่ทำผลงานน่าผิดหวังในฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย ซึ่ง สคาโลนี่ เองก็ถูกตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเขาเคยมีประสบการณ์แค่เป็นผู้ช่วยโค้ชกับ เซบีย่า และทีมชาติเท่านั้น

    การเริ่มต้นของ สคาโลนี่ กับ อาร์เจนฯ ค่อยๆ เป็นไปอย่างช้าๆ สไตล์การเล่นไม่ได้สวยงาม เร้าใจ และเน้นผลการแข่งขันเป็นหลัก ตลอด 34 นัดก่อนหน้านี้ สคาโลนี่ พา "ฟ้า-ขาว" แพ้แค่ 4 เกมเท่านั้น โดยเอาชนะได้ 21 นัด และเสมอ 9 นัด

    ซึ่งหลังจากจบเกมที่ มาราคาน่า นัดล่าสุด สคาโลนี่ ก็ยังสานต่อฟอร์มการเล่นสวยหรู พร้อมยืดสถิติไม่แพ้ใครของ อาร์เจนฯ เป็นนัดที่ 20 ติดต่อกัน

    3. เมสซี่ ยุติแชมป์กับทีมชาติ ส่วน เนย์มาร์ อกหัก
    ก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ ลงเล่นให้กับทัวร์นาเมนต์ทีมชาติชุดใหญ่กับ อาร์เจนติน่า มาแล้ว 9 รายการ ไล่ตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 2006, โกปา อเมริกา 2007, ฟุตบอลโลก 2010, โกปา อเมริกา 2011, ฟุตบอลโลก 2014, โกปา อเมริกา 2015, โกปา อเมริกา 2016, ฟุตบอลโลก 2018, โกปา อเมริกา 2019 ซึ่งไม่มีครั้งใดเลยที่เขาจะก้าวขึ้นไปชูโทรฟี่ได้สำเร็จ

    ยิ่งไปกว่านั้น ยามใดที่ เมสซี่ พา อาร์เจนติน่า เข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศ เขามีอันต้องอกหักถึง 4 ครั้งซ้อน โดยแบ่งเป็น โกปา อเมริกา 3 ครั้ง และฟุตบอลโลก 1 หน

    อย่างไรก็ดี การเดินทางสู่รายการชิงแชมป์ครั้งที่ 10 และนัดชิงชนะเลิศครั้งที่ 5 ในชีวิต เมสซี่ าามารถทำได้สำเร็จสิ้นสุดระยะเวลา 15 ปีที่รอคอย

    นอกจากนี้ เมสซี่ ยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ด้วยการทำไป 4 ประตู

    ขณะที่ เนย์มาร์ พลาดหวังแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกกับ บราซิล ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยได้แชมป์ร่วมกับชาติบ้านเกิดแค่ ฟีฟ่า คอนเฟดเดอเรชั่น คัพ เท่านั้น(ไม่รวม โอลิมปิค เกมส์)

    4. มาร์ติเนซ สุดเด่น
    เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายด่านวัย 28 ปีของ อาร์เจนติน่า ป้องกันประตูสวยๆ ได้หลายช็อตในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งไม่ใช่แค่เกมนี้เท่านั้นที่เจ้าตัวทำผลงานได้ดี

    ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ผู้รักษาประตูจาก แอสตัน วิลล่า มีอัตราการเซฟถึง 85.71% พร้อมคว้ารางวัลถุงมือทองคำประจำรายการนี้ด้วยการเก็บคลีนชีต 4 นัด และยังทำให้เขาเป็นจอมหนึบเลือดอาร์เจนไตน์คนแรกที่ได้รางวัลนี้

    5. ก้าวต่อไปของ ฟ้า-ขาว และ เมสซี่
    ชีวิตการค้าแข้งของ ลิโอเนล เมสซี่ เหลืออีกไม่มาก และการคว้าแชมป์ โกปา อเมริกา 2021 มาได้ถือเป็นการปลดล็อกความสำเร็จกับทีมชาติที่เขาถูกค่อนขอดมานาน

    เป้าหมายต่อไปของ เมสซี่ และ อาร์เจนฯ คือฟุตบอลโลก ที่ กาตาร์ ซึ่งจะทำการแข่งขันกันในปีหน้า แน่นอนว่าถึงตรงนี้ทีม "ฟ้า-ขาว" ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขึ้นอุดมไปด้วยผู้เล่นที่มีคุณภาพมากมายไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปยังแนวรุก

    แชมป์โลกสมัยที่ 3 คือสิ่งที่ เมสซี่ ต้องการนำมาให้กับ อาร์เจนติน่า มากที่สุด และอยากนำโทรฟี่ใบนี้มาประดับชาติเหมือนกับ ที่ ดีเอโก้ มาราโดน่า เคยทำไว้