เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล เตรียมนำลูกทีมลงสนามเคาะสนิทออกจากหน้าแข้งในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นในสัปดาห์นี้ โดยประเดิมด้วยการเล่นมินิเกม 30 นาทีพบ แว็คเนอร์ อินน์สบรูค และ สตุ๊ตการ์ท  วันอังคารที่ 20 กรกฏาคมนี้
     สำหรับ 2 แมตช์ดังกล่าวแม้จะเป็นเพียงเกมเรียกความฟิตของนักเตะก็ตาม แต่ก็มีความสำคัญพอสมควร เพราะนั่นหมายถึงโอกาสทองของผู้เล่นใหม่อย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ที่จะได้ลงเล่นเปิดตัวในนามแข้ง "หงส์แดง" อย่างเป็นทางการ รวมทั้งพวกดาวรุ่งและนักเตะสำรองที่จะใช้แมตช์นี้สร้างความประทับใจให้ คล็อปป์ ได้เห็น

     ในขณะเดียวกันเกมอุ่นเครื่องดังกล่าว สาวก "เดอะ ค็อป" อาจจะไม่ได้เห็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ลงสนาม เพราะเชื่อว่า กุนซือชาวเยอรมัน ต้องการให้นักเตะฟิตสมบูรณ์เต็มร้อยก่อน เพราะยังมีเกมอุ่นเกือกอีก 2 แมตช์ที่จะให้นักเตะได้ลงสนามเพื่อเรียกความฟิต

1. เดบิวต์ โกนาเต้ ในนาม "เดอะ เร้ดส์" เต็มตัว
     หลังจากที่ได้เห็นหน้าคราตาของ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ในการฝึกซ้อมช่วงปรีซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล มาเต็มอิ่มแล้ว ตอนนี้ดาวเตะเบอร์ 5 แต่ไม่บ้าเห่อ เตรียมที่จะลงสนามเกมแรกให้กับ "หงส์แดง" อย่างเป็นทางการในเกมอุ่นเกือกวันอังคารที่ 20 กรกฎาคมนี้

     โกนาเต้ ถือเป็นนักเตะแนวรับตัวความหวังใหม่ของ "เดอะ เร้ดส์" หลังจากที่ คล็อปป์ ตัดสินใจดึงตัวจาก แอร์เบ ไลป์ซิก มาเสริมแกร่งทันทีเมื่อจบฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเขาต้องการออปชั่นเสริมเพื่อความปลอดภัยหลังทีมต้องประสบวิกฤติเซนเตอร์แบ็กตัวหลักเจ็บเรียบวุธ

     แน่นอนว่า โกนาเต้ อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ ในการปรับตัวกับการเล่นในลีกอังกฤษ แต่ไม่มีใครสงสัยศักยภาพของเขา และโอกาสที่จะได้ลงสนามเพื่อสร้างความประทับใจให้กับสาวก "เดอะ ค็อป"

     เมื่อถึงช่วงเปิดฤดูกาล 2021/2022 อย่างเป็นทางการ แนวรับเทคนิคเยี่ยมเลือดเฟร้นช์ ต้องสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงกับ โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติช เพราะเซนเตอร์แบ็กตัวหลักของทีมคงหนีไม่พ้น เฟอร์จิ ฟาน ไดค์ ปราการหลังภูผาหินชาวดัตช์

     อย่างไรก็ตามเกมปรีซีซั่นถือเป็นโอกาสทองที่ คล็อปป์ จะได้ลองของเด็ดอย่าง โกนาเต้ โดยจะประเดิมด้วยแมตช์อุ่นเกือก 2 เกมพบ แว็คเนอร์ อินน์สบรูค และ สตุ๊ตการ์ท ที่จะเล่นครึ่งละ 30 นาที

     แม้ว่าสองแมตช์นี้อาจจะไม่ได้วัดศักยภาพของ โกนาเต้ เต็มที่ก็ตาม แต่มันจะเป็นเกมที่จะช่วยเรียกความมั่นใจ และได้เข้าใจถึงระบบรวมทั้งแนวทางในการทำงานร่วมกับ คล็อปป์ และเพื่อนร่วมทัพ "หงส์แดง"

2. ดาวรุ่งเตรียมตัวให้พร้อม
     เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้เล่นชุดใหญ่อย่าง  แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ดีโอโก้ โชต้า, ติอาโก้ อัลกันตาร่า, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เนโก วิลเลี่ยมส์, แฮร์รี่ วิลสัน, เซอร์ดาน ชากีรี่, อลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังอยู่ในช่วงพักร่างกายเนื่องจากพวกเขาเหล่านี้ต้องรับใช้ชาติในศึกยูโร 2020 และ โกปา อเมริกา

     ด้วยเหตุนี้ นายใหญ่ชาวเยอรมัน จึงได้นำนักเตะ 11 คนจากศูนย์ฝึกเยาวชนโดยมีผู้เล่น 7 คนยังโนเนมไม่มีใครรู้จัก เดินทางมาร่วมเก็บเกี่ยวประสบกับรุ่นพี่ในแคมป์เก้บตัวที่ประเทศออสเตรีย 

     ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์, เจค เคน, บิลลี่ คูเมติโอ,  มาร์เซโล่ ปิตาลูก้า, มาเตอุสซ์ มูเซียลอฟสกี้ และ ไทเลอร์ มอร์ตัน มีโอกาสอยู่ตรงหน้าที่จะได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องวันอังคารนี้ และแน่นอนว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและกระหายที่จะสร้างผลงานดีมีคุณภาพให้ได้

     ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ ยืนยันเสียงดังฟังชัดว่าดาวรุ่งเหล่านี้มีดี, เก๋าเกมมากพอที่จะลงสนามช่วยทีม และเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นจะทำให้พวกเขาได้งัดศักยภาพชั้นยอดออกมาให้กับทุกๆ คนได้ประจักษ์ชัดแก่สายตา

     นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่จะได้เห็นบรรดานักเตะดาวรุ่งเหล่านี้โชว์ฟอร์มในช่วงอุ่นเครื่อง และถ้าพวกเขาสามารถสร้างผลงานดีมีคุณภาพออกมาได้ โอกาสที่ คล็อปป์ จะให้พวกเขาได้โลดแล่นกับทีมชุดใหญ่ก็มีมากยิ่งขึ้น
 

3. ไม่รีบเร่ง 3 เซนเตอร์หลักลงสนาม
     แม้ว่าแฟนบอลลิเวอร์พูลจะได้เห็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และ โฌแอล มาติป กลับมาลงฝึกซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมทีมได้แล้วก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คล็อปป์ ต้องรีบเร่งส่งพวกเขาลงสนามในเกมอุ่นเครื่องทันที

     ช่วงเวลานี้คือการเรียกความฟิตและความแข็งแกร่งของ ฟาน ไดค์ กับ โกเมซ ส่วนในรายของ มาติป ดูเหมือนหาก คล็อปป์ ไม่ติดขัดอะไรก็อาจจะมีลุ้นได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องวันอังคารนี้

     อีกหนึ่งจุดที่ต้องจบตามองเช่นกันนั่นก็คือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฟูลแบ็กจอมแอสซิสตที่ตอนนี้หายเจ็บเรียบร้อยแล้ว และสถาพร่างกายพร้อมที่จะให้ คล็อปป์ จับลงสนามในแมตช์ปะทะ แว็คเนอร์ อินน์สบรูค และ สตุ๊ตการ์ท

     แน่นอนว่านี่คือสัญญาณที่ดีเยี่ยมสำหรับ นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช ที่ได้เห็นนักเตะเกมรับทุกคนค่อยๆ กลับมาฟิสสมบูรณ์ แต่กระนั้นเจ้าตัวรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรรีบเร่งทำอะไรเกินไป เพราะเกมอุ่นเครื่องยังเหลืออีกหลายแมตช์ ทั้งเกมพบ ไมนซ์ และ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ฉะนั้นยังมีเวลาให้ผู้เล่นเหล่านี้ได้เคาะสนิมออกจากหน้าแข้ง
 

4. บรรยากาศเดิมๆ ในเกมลูกหนังหวนคืนกลับมา
     ความรู้สึกที่จะต้องลงสนามโดยที่ไร้ผู้ชมมานานกว่า 16 เดือนดูเหมือนว่าจะค่อยๆ หมดไปแล้ว เพราะมีตอนนี้นักเตะจะได้เห็นกองเชียร์กลับเข้ามาในสนามเพื่อส่งเสียงกระตุ้นพวกเขาเหมือนที่เคยทำมาก่อนหน้านี้

     การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมฟุตบอลต้องกร่อยไปมาก เพราะไม่มีแฟนบอลเข้าไปชมเกมสดๆ ในสนาม แต่ตอนนี้บรรยากาศเดิมๆ ค่อยๆ กลับคืนมาโดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนในศึกยูโร 2020

     สำหรับเกมอุ่นเครื่องแบบมินิเกมพบ แว็คเนอร์ อินน์สบรูค และ สตุ๊ตการ์ท ของลิเวอร์พูล ที่ประเทศออสเตรีย มีการเปิดเผยว่าอาจจะได้รับไฟเขียวให้แฟนบอลเข้ามาชมการแข่งขันได้ นั่นถือว่าเป็นข่าวดีของสาวก "เดอะ ค็อป" อย่างมาก

     งานนี้แฟนบอล "หงส์แดง" คงคาดหวังว่าโปรแกรมการแข่งขันของพวกเขาที่จะลงเล่นในแอนฟินด์ แฟนบอลจะได้รับอนุญาตเข้าสนามได้ เพราะมันจะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ที่พวกเขาจะได้เชียร์ทีมรักแบบสดๆ ติดขอบสนาม