เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ลองนักเตะในเกมอุ่นเครื่องเฉือน ไมนซ์ 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งในแมตช์นี้ต้องบอกเลยว่า "หงส์แดง" เริ่มมีพัฒนาการในด้านบวกอย่างต่อเนื่อง

นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช ชัดผู้เล่นตัวจริง 45 นาทีแรกค่อนข้างดุดัน แต่ก็ไม่สามารถเจาะตาข่าย ไมนซ์ ได้ กระนั้้นภาพรวมเรื่องฟอร์มการเล่นค่อนข้างน่าประทับใจ ส่วนครึ่งหลังมีการเปลี่ยนตัวยกชุดส่วนใหญ่จะให้โอกาสดาวรุ่งกับนักเตะที่เพิ่งเจ็บ และพวกที่ไม่ค่อยได้ลงสนามได้พิสูจน์ศักยภาพตัวเอง

สำหรับผลงานของ "เดอะ เร้ดส์" ต้องบอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ยังมีเรื่องให้ปรับปรุงแก้ไขอีกเยอะ แต่นั่นก็เป็นเพราะทีมขาดนักเตะตัวหลักไปหลายคน ฉะนั้นในแมตช์อุ่นเกือกเกมต่อไปที่พบกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน สัปดาห์หน้า คล็อปป์ น่าจะมีอะไรเด็ดๆ ให้สาวก "เดอะ ค็อป" ได้เห็นแน่นอน

1. มาติป-โกนาเต้ เล่นเข้าขากันได้ดี
ในช่วงเริ่มต้นอุ่นเครื่องปรีซีซั่น เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆที่จะได้เห็นผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กของ ลิเวอร์พูล กลับคืนสู่สนามอีกครั้ง หลังจากที่ต้องดวงแตกบาดเจ็บหนักเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามแมตช์นี้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กับ โจ โกเมซ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์ ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจใช้งาน โฌแอล มาติป ซึ่งได้ลงสนามเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เดี้ยงไปนาน ยืนคู่กับ อิบราฮิม่า โกนาเต้ กองหลังอนาคตไกลที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมซัมเมอร์นี้

สำหรับคู่หูแนวรับคู่ใหม่นี้ต้องบอกว่าค่อนข้างดูดีมีคุณภาพมากกว่ากองหลังเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา โดย โกนาเต้ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในการเล่นได้ดีเยี่ยม และพร้อมที่จะดันเกมขึ้นสูงเพื่อช่วยเกมบุกของทีม ขณะเดียวกันก็เล่นได้อย่างเข้าขาในเกมรับกับ มาติป ตลอดช่วง 45 นาทีแรก

กระนั้นเรื่องสภาพความฟิตของ ฟาน ไดค์ กับ โกเมซ ยังคงเป็นคำถามที่หลายๆ คนสงสัยว่าพวกเขาจะพร้อมเมื่อไหร่ งานนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเห็น มาติป กับ โกนาเต้ ยืนคู่กับในเกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่นพบ นอริช ซิตี้
 

2. อนาคตของ มินามิโนะ กับโอริกี้ ยังเป็นคำถามต่อไป ?
สำหรับแมตช์นี้ช่วง 45 นาทีแรก คล็อปป์ เลือกผู้เล่นที่ค่อนข้างดีพอสมควรลงสนาม และผลงานก็น่าสนใจมากๆ อย่างไรก็ตามในครึ่งหลังมีการเปลี่ยนทีมแบบยกชุด เพื่อที่จะได้ให้โอกาสนักเตะที่เหลือได้ลงสนาม และยังเป็นการลองทีมไปในตัว

ทีมชุดหลังส่วนใหญ่จะเป็นพวกดาวรุ่ง โดยมี ทาคูมิ มินามิโนะ กับ ดิว็อค โอริกี้ และเคอร์ติส โจนส์ ทำหน้าที่เป็นแกนหลัก งานนี้ต้องบอกเลยว่าผลงานของ ดาวเตะชาวญี่ปุ่น กับหัวหอกเลือดเบลเยียม ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่

ในรายของ มินามิโนะ ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรทีมได้มากนัก ยิ่งเกมแบบนี้เป็นโอกาสทองของเขาที่จะได้พิสูจน์ศักยภาพของตัวเองในยามที่ตัวเลือกอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กับ ดีโอโก้ โชต้า ไม่อยู่ แต่เขากลับไม่สามารถสร้างผลงานเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย

ขณะที่ โอริกี้ อาจจะสร้างความประทับใจในเรื่องของความรวดเร็ว แต่ตลอดการเล่น 45 นาทีหลัง เขาก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับแนวรับของ ไมนซ์ มากนัก จากผลงานจากเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา อาจทำให้ คล็อปป์ มีคำตอบในใจสำหรับอนาคตของ มินามิโนะ กับ โอริกี้ แล้ว !!

3. เอลเลียตต์ เด็กคนนี้มันมีของ
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยังคงสร้างผลงานได้น่าประทับใจอีกแมตช์ โดยงานนี้ คล็อปป์ มองเห็นแล้วว่าควรจะจับเจ้าหนูตัวแสบรายนี้ไปเล่นในตำแหน่งไหนถึงจะทำให้เขางัดศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้อย่างเต็มที่

เจ้าหนูวัย 18 ปี เคยสร้างความประทับใจกับการเล่นในตำแหน่งแนวรุกริมเส้นให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตอนที่ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา และในเกมนี้เขาได้ลงเล่นตัวจริงโดยเป็นส่วนหนึ่งในแผงมิดฟิลด์ 3 คน

เอลเลียต์ อาจจะไม่ได้มีสไตล์เหมือนกับ จอร์จินโย่  ไวจ์นัลดุม แต่ผลงานของเขาทำให้ คล็อปป์ อาจจะเลือกส่งลงเล่นในเกมพบ นอริช ในเกมพรีเมียร์ลีก นัดเปิดซีซั่น โดยจุดเด่นสำคัญก็คือเทคนิคการเล่นที่แพรวพราวของนักเตะ แถมยังเป็นเด็กที่กล้าเล่นกล้าได้กล้าเสีย และมีแรงกระตุ้นในการครองบอล สิ่งเหล่านี้บ่งบอกได้ถึงทัศนคติในการเล่นของเขาได้เป็นอย่างดี

ผลงานช่วง 45 นาทีแรกของ เอลเลียตต์ น่าจะทำให้ คล็อปป์ ไว้วางใจนักเตะดาวรุ่งคนนี้มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญความยอดเยี่ยมของเขาคงจะทำให้บรรดาสาวก "เดอะ ค็อป" ได้ตื่นเต้นกับฟอร์มที่ดุดันของเจ้าหนูสิงห์นักเตะรายนี้
 
4. เกอิต้า กลับมามั่นใจมากยิ่งขึ้น
สิ่งเดียวที่ทำให้ นาบี เกอิต้า ไม่ค่อยได้พัฒนาฝีเท้ากับ ลิเวอร์พูล นั่นก็คือปัญหาบาดเจ็บ เพราะเจ้าตัวไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เลยนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับทีม เพราะส่วนใหญ่แล้วชีวิตของเขาวนเวียนอยู่กับเตียงในโรงพยาบาลมากกว่าสนามแข่ง

อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวกีนี ยังคงได้รับความไว้วางใจและโอกาสจาก คล็อปป์ อยู่เสมอ นี่เป็นอีกครั้งที่นายใหญ่ชาวเยอรมัน จับเขาลงสนามเป็นตัวจริงในเกมอุ่นเกือกกับ ไมนซ์ และก็ทำผลงานได้น่าประทับใจซะด้วย

เกอิต้า แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่เต็มไปด้วยความมั่นใจซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมา แน่นอนว่าฟอร์มการเล่นที่เต็มไปด้วยศักยภาพของเขา คงจะทำให้ คล็อปป์ รู้สึกสบายใจยิ่งขึ้น เพราะจะได้ใช้งานนักเตะได้อย่างเต็มที่ในฤดูกาลใหม่

อย่างไรก็ตามสิ่งเดียวที่สาวก "เดอะ ค็อป" ยังคงต้องสวดภาวนาก็คือ เกอิต้า จะไม่กลับมาเจอโรคเดี้ยงเล่นงานเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมา เพราะหากเป็นแบบนั้นถือว่าทีมเสียนักเตะชั้นยอดไปอย่างน่าเสียดาย

5. โปรแกรมอุ่นเครื่องที่เน้นจริงจังปกติแล้วในช่วงแรกๆ ของปรีซีซั่น "เดอะ เร้ดส์" มักจะเลือกเล่นเกมอุ่นเครื่องกับทีมเบาๆ ไม่หนักอย่าง โอลด์แฮม, ฟลีทวู้ด หรือ ทรานเมียร์ แต่สำหรับปีนี้ คล็อปป์ ตัดสินใจเลือกที่จะนำทีมลับฝีเท้ากับสโมสรระดับบุนเดสลีกา ไปเลย

แน่นอนว่าฟอร์มของ "หงส์แดง" ในเกมพบกับ ไมนซ์ ไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก อาจจะเป็นเพราะนักเตะทุกคนยังไม่ฟิตเต็มร้อย แถมทีมที่ใช้ลงสนามก็ยังไม่ใช่ชุดที่แข็งแกร่งที่สุดก็ตาม  แต่นี่ถือเป็นการลองของที่จะทำให้ คล็อปป์ มองเห็นจุดบกพร่อง และสามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที

ในแมตช์นี้นอกจากจะได้เห็นผลงานเด็ดๆ ของดาวรุ่งอย่าง เอลเลียตต์ แล้ว คล็อปป์ ยังได้เห็นฟอร์มที่น่าสนใจของ โอเว่น เบ็ค, ไคเด้ กอร์ดอน, ไทเลอร์ มอร์ตัน, บิลลี่ คูเมติโอ และ เลจ์ตัน คลาร์กสัน ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้จะเป็นกำลังเสริมชั้นดีสำหรับการควงความสำเร็จกลับคืนสู่ถิ่นแอนฟิลด์

โปรแกรมอุ่นเครื่องนัดต่อไป ลิเวอร์พูล ต้องดวลกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของ "หงส์แดง" และงานนี้คาดว่าผู้เล่นสำคัญหลายๆ คนน่าจะเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาได้มากยิ่งขึ้น