ประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย และกีฬาเทควันโดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ "เทนนิส" ภาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะสาวหมายเลข 1 ของโลกวัย 24 ปี เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์พิชิตเหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2020 สร้างความสุขให้แฟนกีฬาชาวไทยในยามที่ต้องเครียดกับสถานการร์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
     
ถึงแม้ในรอบชิงชนะเลิศน้องเทนนิส จะทำเอาแฟนกีฬาชาวไทยเกือบหัวใจวาย เมื่อเจอกับ อาเดรียน่า อาเดรียนา เซเรโซ อิเกลเซียส จากสเปน แชมป์ยุโรป จอมเตะสาววัย17ปี จากสเปน ดีกรีแชมป์ยุโรป ปี 2020 ซึ่งไม่เคยเจอกันมาก่อน ทำให้ทีมงานสต๊าฟโค้ชไม่ได้ศึกษาสไตล์การเล่น จนเกือบทำให้ จอมเตะสาวไทย เกือบแพ้ เมื่อสกอร์ตามหลัง 9-10 คะแนน แต่มาพลิกนรก ช่วง 5 วินาทีสุดท้าย พาณิภัค สามารถเตะเข้าลำตัวที่มีเกราะไฟฟ้าได้แต้มแซงชนะอย่างเหลือเชื่อ 11-10 คะแนน กระชากเหรียญทองที่รอคอยมาได้สำเร็จ ส่งสาวแดนกระทิงดุ ถึงกับนั่งร้องไห้ทันที

เหตุสำคัญที่ทำให้ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์เหรียญทองเทควันโดโอลิมปิกเกมส์ 2020

1.ในโลกใลบนี้ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เก่งที่สุด ไม่แพ้ใครมายาวนานกว่า 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2561 สาวไทย พ่ายรอบชิงชนะเลิศ ได้เหรียญเงิน ในรายการ เวิล์ดกรังด์ปรีซ์ ที่ เหรียญเงิน  ที่เมืองฟูจิราห์  ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จอมเตะจากสุราษฏร์ธานี ไม่เเคยแพ้ใครเลย โดยคว้าแชมป์มาได้ถึง 6 รายการ ซึ่ง 1 ในนี้ มีแชมป์โลกสมัยที่ 2 ของตัวเองได้อีกด้วย จึงเป็นบทพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของ น้องเทนนิส

เหตุผลที่ 2 จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักทั่วโลกจนทำให้ โอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ต้องเลื่อนออกมา 1 ปี ส่งผลดีให้ "น้องเทนนิส" มีโอกาสได้พักแข้ง รักษาอาหารบาดเจ็บ สะโพกขวา และเข้าขวา ที่เรื้อรังมาอย่างยาวนาน  แต่พอโอลิมปิกเลื่อน ได้พักรักษาหายขาด และกลับมาฟิตซ้อมจนร่างกายฟิตสมบูรณ์เต็ม 100 กลัยมาสู้ได้เต็มที่

3.สถานการณ์โควิดที่โตเกียวเกมส์ ต้องเลื่อน ยังทำให้ "น้องเทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ สบายใจ ไม่มีอะไรต้องกังวล โดยเฉพาะการเรียน ในระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งการเรียนมหาวิทยาอันดับต้นๆของประเทศไทย ต้องเรียนอย่างหนัก ไม่มีคะแนนช่วยแต่อย่างใด โดยช่วงที่เกมเทควันโดหยุดพักทั่วโลก น้องเทนนิส มีโอกาสได้เต็มที่กับการเรียน ได้อ่านหนังสือสอบจนสามารถสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรี ปลดล็อกด้านการเรียนเพื่อโฟกัสไปที่เทควันโด โอลิมปิกเกมส์

4.กว่าจะมีวันนี้ ก่อนไปโอลิมปิกเกมส์ โค้ชเช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนพร้อมด้วยสต๊าฟโค้ชทีมชาติ ต้องทำงานกันอย่างหนัก นำเทปนักกีฬาจากทั่วโลกที่ผ่านเข้าโอลิมปิกเกมส์ มาศึกษาการเล่นของแต่ละคน แล้วนำมาใช้ในการฝึกซ้อม โดยนำนักกีฬาชายจำนวน 7 คน มาสวมบทเป็นคู่แข่งของ "พาณิภัค" ในแต่ละชาติ เล่นสไตล์ไหนนำมาใช้ฝึกซ้อมกับ จอมเตะไทย แบบนั้น แถมยังจำลองการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ มาใช้ในการฝึกแทบทุกอย่าง เพื่อให้นักกีฬาได้ซึมซับกับบรรยากาศ จะได้ไม่ตื่นสนามเวลาแข่งจริง ทำให้เป็นอีกเหตุผลของความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

5.การดูแลอย่างกับไข่ในหิน ของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่่งประเทศไทย จาก "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯที่สั่งการด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะนำทีมแพทย์มาช่วยรักษาดูแลอาการบาดเจ็บที่เคยเป็นอยู่จนหายขาด  แถมช่วงโควิดระบาดหนัก "บิ๊กเอ" ยังพานักกีฬาหนีไปฝึกซ้อมที่ เขาใหญ่ ถึง 3 ครั้ง โดยบอสใหญ่พร้อมภรรยา เดินทางไปดูแลด้วยตัวเอง ทำอาหารให้นักกีฬาได้ทานทุกวัน พร้อมทั้งสั่งห้ามนักกีฬาออกนอกพื้นที่ควบคุม อยากได้อะไรสมาคมฯจัดหาให้หมด เพื่อลดความเสี่ยงติดโควิด และขนาดขึ้นเครื่องบินไปญี่ปุ่น สมาคมฯยังอัพเกรดจากชั้นธรรมดา อัพขึ้นไปนั่งชั้น Business Class เพื่อให้นักเทควันโดไทย มีความเป็นส่วนตัวไม่ใกล้คนอื่นที่เราไม่รู้ว่าจะมีใครติดเชื้อโควิดหรือปล่าว เพราะถ้า "พาณิภัค" ติดโควิดก่อนแข่ง ทุกอย่างที่ทำมาจะกลายเป็นศูนย์ทันที มันจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งสร้างประวัติศาสตร์

6.การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ ทุกอย่างดูจะลงตัวไปหมดสำหรับเธอ เส้นทางเดินสู่บัลลังค์ทอง ถูกปูไปด้วยดอกกุหลาบ เพราะคู่แข่งคนสำคัญ ที่ทีมโค้ชหนักใจ ถูกเตะสกัดโดยม้ามืดตกรอบไปกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่ง อย่าง  ซิม แจยอง จากเกาหลีใต้ ที่สื่อยักษ์ใหญ่ เอพี ยกให้เป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าทอง, ซู โป-ยา จากไต้หวัน, ทิยานา บอคดาโนวิช มืออันดับ 2 ของโลก จากเซอร์เบีย  และหวู จิงหยู อดีตเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์  2 สมัย  ทำให้
หนทางช่างสดใสจนมีวันนี้ได้ 

7.สุดท้ายเลยคือ ฝีไม้ลายมือที่เก่งกาจจนก้าวสู่การยืนเบอร์ 1 ของโลก บวกด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง มีระเบียบวินัยที่สูงมาก อดทนฝึกซ้อมมานานนับปี เตะทุกวันจนบางครั้งร่างกายที่กรอบเป็นข้าวเกรียบกุ้ง แต่เธอยังสู้ เชื่อฟังโค้ช ทุกคำที่สอน ไม่หลงระเริงไปกับชื่อเสียง ในระดับดีกรี 2 แชมป์โลก และเจ้าเหรียญทองทุกรายการสำคัญที่โลกใบนี้จัดขึ้น  สิ่งเหล่านี้ ทำให้ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ คือผู้เปิดตำนานเทควันโดโอลิมปิกเกมส์
 
จากนี้ไป "น้องเทนนิส" จะยังคงเดินหน้าเตะเพื่อทำลายสถิติตัวเองที่ทำไว้ในการคว้าแชมป์เทควันโดบนโลกใบนี้...เพราะจอมเตะสาวทีมชาติไทยคนที่เก่งที่สุดในรุ่น 49 กก.ได้ประกาศไว้แล้วว่า จะยังคงรับใช้ทีมชาติไทยต่อไป ตราบใดที่ร่างกายยังคงสู้ไห้