จบลงไปกับศึกจ้าวลมกรด100ม.ชาย โตเกียว2020ที่เรียกว่า "พลิกล็อค จนน็อคปากกาเซียน" ทำลายโพยทุกสำนัก เพราะแชมป์ ตกเป็นของ "ลามองต์ มาร์กแซลล์ จาค็อบส์" ม้ามืดจากอิตาลี ประวัติศาสตร์แดนมะกะโรนีใน100เมตร ชายได้สำเร็จ..
   
นอกจากพลิกล็อคแชมป์แล้ว รายการนี้ช็อคแฟนๆตั้งแต่รอบรองแล้ว เพราะ เต็ง1 "เทรย์วอน โบรเมลล์" ลมกรดมะกัน ที่วิ่งเร็วสุดในโลกของปีนี้ และ เบอร์1จาเมกา "โยฮัน เบลค" หลุดฟอร์ม ไม่มาตามนัด แต่ที่พีคไปกว่านั้น เวลาดีที่สุดในรอบรองชนะเลิศ ตกเป็นของ "ซู ปิงเทียน" ลมกรดจีนคนนี้แทน เร็วสุดในลมกรดทั้งหมดอีก 23 คนที่เหลือ !!!!

"9.83 วินาที" คือเวลาที่ ซู กดไว้ได้ในรอบรองฯ ทำลายสถิติเอเชียของตัวเองจากเดิม 9.91ลงได้สำเร็จ จนเฮลั่นสนาม

เพราะ "ซู" แข่งรอบรองเป็นกลุ่มสุดท้าย เห็นเวลาแชมป์กลุ่มอื่นมาหมดแล้ว ด้วยเวลา 9.83 นี้ จึงไม่ใช่แค่เข้าชิงแบบเฉียดฉิว แต่เป็นการเข้าแบบสุดเฟี๊ยส จนเจ้าตัวเองก็คาดไม่ถึง

ซึ่ง "ซู ปิงเทียน" ชื่อนี้ไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นจ้าวลมกรดเอเชียในยุคนี้ ที่สามารถ กำราบไนจีเรียโอนสัญชาติ อย่าง "โอกูโนเด้" คนน้อง จากการ์ตาร์ ในศึกเอเชียนเกมส์2018 ทวงเหรียญทองพร้อมศักดิ์ศรีสายเลือดเอเชียแท้ๆได้สำเร็จ

ก่อนมาโตเกียว2020 "ซู" เรียกความมั่นใจครั้งสุดท้าย ทำเวลาได้ที่ 9.98 วิ ซึ่งเป็นถือเป็นสถิติ ซีซั่นเบส (SB)  ขึ้นแท่น เป็นเบอร์5ที่เร็วที่สุดในโลกของ "ปีนี้"

ก่อนที่โอลิมปิกจะเริ่มขึ้น!! และเมื่อสื่อรุมถามถึงความมั่นใจในโตเกียวเกมส์

พ่อหนุ่มยิ้มสวย ตอบอย่างฉะฉานว่า  "ตั้งใจให้ได้ 9.86 วิ"

นั่นหมายถึง "ซู" วางเป้าตัวเองไว้ที่การทำลายสถิติเอเชีย โดยไม่ได้โฟกัสไปถึงการชนะใคร เค้าต้องการเอาชนะใจตัวเองเท่านั้น

ในรอบชิงชนะเลิศ "ซู" อยู่ลู่ที่6 โดนประกบโดยสองความหวังเหรียญสหรัฐ อย่าง "รอนนี่ เบเกอร์" และ "เฟรด เคอร์ลี่ย์"

พลันที่ เสียงปืนดัง ก็มีการ ฟาวล์สตาร์ทเกิดขึ้น เมื่อ  "ซาร์เน็ต ฮิวจ์ส" จากสหราชอาณาจักร ออกตัวก่อน โดนออกจากการแข่งขันทันที ลมกรดที่เหลือต้องกลับมาเข้าเส้นสตาร์ทใหม่อีกรอบ

สีหน้าทุกคนออกอาการเซ็ง เพราะกล้ามเนื้อทุกอย่างรวมทั้งสมาธิไปหมดแล้ว ต้องมารวบรวมกันใหม่อีกรอบ โดยเฉพาะ "ซู" ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ "ประสาทสัมผัสหูดี" ทำให้ออกตัวไว จนถูกเลือกจากแคมป์ทีมชาติจีน ให้ลงแข่งระยะสั้นสุดๆ อย่าง 60ม. จนได้สถิติเอเชียมาครอง ที่ 6.43 วิ. มาแล้ว

สุดท้าย เกมก็ดำเนินต่อไป "ซู" จบอันดับ6 ทำเวลาได้ 9.98วิ. ซึ่งเท่ากับสถิติก่อนมาโอลิมปิก แต่พกสถิติใหม่เอเชียกลับไป พร้อมประวัติศาสตร์ลมกรดจีนคนแรกในรอบชิง 100 เมตร ชายโอลิมปิก เป็นที่กล่าวขานกันไปทั่ววงการ

แม้กระทั่งอดีตลมกรดระดับตำนานไทย หลายคน อาทิ "บิ๊กโจ๊ก" สิทธิชัย สุวรประทีป ตำนานสปินเตอร์เมืองไทย ถึงกับเสียดายสุดๆ และคิดว่า "ซู" กดดันมากไปหน่อยจากเวลาในรอบรองฯ ที่ทำให้เจ้าตัวมองไปถึงเหรียญในรอบชิง และส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่กดดันกับสถิติรอบรอง ยังไงก็มีเหรียญติดมือแน่นอน

หรือ "กอบ"ลภัสภร ถาวรเจริญ ตำนานไต้ฝุ่นสาวไทยเหรียญทอง อชก. ก็เสียดายเหมือนกัน "กอบ" ให้ข้อสังเกตุไว้ว่า ถ้าไม่มีการฟาวล์สตาร์ทตอนแรก สมาธิของ "ซู" จะดีกว่านี้  เพราะมีจุดเด่นคือการออกตัวไว น่าจะหยิบเหรียญได้ ถ้าไม่ต้องออกตัวใหม่อีกครั้ง…

แต่ "ซู" ยังเหลือรายการให้เชียร์อีก ในการเป็นหนึ่งในทีมไต้ฝุ่น 4x100 ชายของจีน ในวันที่ 7 ส.ค.นี้อีกครั้ง ต้องจับตามองให้ดี เพราะด้วยวัย 31 ปี อาจจะเป็นโอลิมปิกครั้งสุดท้าย ของยอดลมกรดแดนมังกรคนนี้แล้วก็ได้

เบน ไม่ต้องสืบ