ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » นักเตะคนแรกที่ตกเป็นข่าวโอนสัญชาติเล่นให้ไทย

นักเตะคนแรกที่ตกเป็นข่าวโอนสัญชาติเล่นให้ไทย

Posted 04/08/2021 by siamsport

วงการฟุตบอลไทยในครั้งอดีตที่ผ่านมา เมื่อ 47 ปีที่แล้วเกิดกระแสข่าวฮือฮา! เมื่อมีข่าวว่าทีมชาติไทยจะทำการโอนสัญชาตินักเตะชาวกัมพูชามาเล่นให้กับทีมชาติไทย โดยเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2517 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ พาดหัวข่าว ดึง "เพ็ญพัธ"เข้าทีมชาติไทย เป็นพลังไปดวลแข้งเมอร์เดก้า สร้างความครึกโครมให้กับวงการฟุตบอลไทยเป็นอย่างมาก หากสามารถผ่านขั้นตอนทุกอย่างได้จะเป็นแข้งทีมชาติไทยคนแรกที่โอนสัญชาติ
    เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ ที่ได้ชื่อไทย  "พิพัฒน์" ลี้ภัยสงครามมายังประเทศไทย พร้อมกับลงเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรฟุตบอลราชประชา ในปี ค.ศ.1972 หรือ พ.ศ.2515 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม  เซียง คารา ด้วยฟอร์มการเล่นริมเส้นที่เก่งฉกาจเลี้ยงหลบแนวรับคู่แข่งขาดเป็นกระดาษในทุกๆเกม จนก้าวไปติดทีมดาราเอเชียปี 1972 อีกทั้งช่วงพ.ศ. 2515-18 ยังพา ราชประชา คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก  2 สมัย ซ้อน แชมป์ถ้วยพระราชทาน ควีนส์คัพ และเอฟเอ คัพ

    ซึ่ง ประชุม รัตนเพียร ประธานเทคนิควงการฟุตบอลไทย เวลานั้น ให้สัมภาษณ์ว่า มีการเสนอให้โอนสัญชาติให้กับ เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ ลงเล่นให้กับทีมชาติไทยในรายการเมอร์เดก้า ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะทำให้ปีกซ้ายและปีกขวาของทีมชาติไทยเป็นระดับต้นๆของทวีปเอเชีย ที่มีทั้ง นิวัฒน์ ศรีสวัสดิ์ และ เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ ซึ่งแข้งกัมพูชาได้เปิดใจกับฟุตบอลสยามรายเดือนว่า ช่วงปี 1972-73  ทีมชาติกัมพูชาหรือว่าเขมรในเวลานั้นไม่ได้เรียกผมไปติดทีมชาติและคิดว่าเขาไม่เอาผมแล้ว ทีมชาติกัมพูชาไปแข่งขันรายการต่างๆโดยไม่มีผม  แน่นอนว่าการมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยผมมีความสุขมากทุกคนดูแลผมเป็นอย่างดี การโอนสัญชาติมาเล่นทีมชาติไทยจึงทำให้ผมภูมิใจเพราะที่นี่ก็เหมือนบ้านของผมอีกหลัง แต่สุดท้ายเรื่องของการโอนสัญชาติไม่เกิดขึ้นเพราะเรื่องดังกล่าวได้หายเงียบไปในเวลาต่อมา

    หลังจากไม่สามารถโอนสัญชาติเล่นทีมชาติไทยได้ มีแมวมองหลายทีมที่สนใจจะคว้าตัวนักเตะอย่าง เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ ไปร่วมทีม ทั้ง โบรุสเซีย ดุร์ทแซค , ไมน์ 05 (เยอรมัน) อีกทั้งยังมีทีมจากฝรั่งเศสและอิหร่านให้ความสนใจ สุดท้ายเส้นทางฟุตบอลอาชีพของนักเตะฉายา "เจ้างูเก็งกอง" ได้พาตัวเองไปสู่ยุโรปด้วยการลงเล่นให้กับ สโมสรฟุตบอลโกนูป  อองเตอร์ เดอ กิเยต์  ทีมระดับลีกดิวิชั่น 4 ของฝรั่งเศส ช่วงปี 2520 สุดท้ายพาทีมคว้าแชมป์พาทีมเลื่อนชั้น ด้วยฟอร์มการเล่นที่ร้อนแรงแม้ว่าจะเข้าสู่วัย 30ปี ความหลากหลายในเกมรุกทั้งการลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง และ ริมเส้น สวมยูนิฟอร์มหมายเลข 10 สื่อท้องถิ่นตีข่าวเรื่องราวของ เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ อย่างมากมาย  ทำให้สโมสรใหญ่อย่าง มงต์เปลลิเยร์ ติดต่อให้ไปทดสอบฝีเท้า 

    "ช่วงแรกที่มองต์เปลลิเยร์ ติดต่อมาผมไม่ได้ไป จนครั้งที่สองที่เขาติดต่อมาผมก็ออกเดินทางไปที่สโมสรอยู่ที่นั่น 2 สัปดาห์ ลงเล่นเกมที่สโมสรจัดให้ เหลือการแข่งขันอีกสองแมตซ์ที่จะต้องเล่นผมตัดสินใจออกมาก่อน ทั้งที่ตกลงเรื่องเงินเดือนกันแล้วที่ 3,500 ฟรังซ์(ประมาณ20,300 บาท) พร้อมบ้านพัก แต่พอมีคนแนะนำว่าให้ไปสโมสรที่ใหญ่กว่าเวลานั้นในเมืองหลวงอย่าง ปารีส เอฟซี ผมทิ้งโอกาสที่นั่นพร้อมกับไปต่อสู้ในทีม ปารีส เอฟซี เพราะการตัดสินใจของตัวเองยอมทิ้งเงิน 3,500 ฟรังซ์  ไปรับเงิน 2,000 ฟรังซ์ (ประมาณ 11,600 บาท) แทน แต่ก็ไม่สามารถยึดพื้นที่ในทีมชุดใหญ่ได้เนื่องจากการไม่ยอมรับคนเอเชียภายในทีมจึงถูกส่งไปเล่นทีมสำรองในเวลาต่อมา  สมัยก่อนการตัดสินใจทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งหมดไม่มีผจก.ส่วนตัว"


    ปัจจุบัน เพ็ญพัธ พงษ์สวรรค์ ใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นปีที่ 44  อยู่มาตั้งแต่ปี 2520 แต่งงานกับภรรยาชาวกัมพูชามีบ้านพักในเมือง นีราบัง  ชานเมืองปารีส ใกล้ๆกับสนามบิน มีลูกชายชื่อ สเตฟาน เคยก้าวขึ้นไปติดทีมชาติกัมพูชา อีกทั้งยังเคยมาร่วมทีมชื่อดังของไทยอย่าง บีอีซี เทโรฯ ช่วงชีวิตที่เคยผ่านมรสุมมากมายไม่ว่าจะต้องออกจากประเทศกัมพูชามาและไม่ได้เข้าประเทศถึง 11 ปี( 1972-1983) "เจ้างูเก็งกอง" ยึดมั่นถือมั่นในความถูกต้อง ซึ่งมุมมองตำนานทีมชาติกัมพูชารายนี้นับว่าสนใจมากในการดำรงชีวิต "ผมเป็นคนที่บ้าฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กและคิดว่าจะต้องมีวินัยฝึกฝนกับมันให้หนัก ในสนามเราสามารถพาบอลหนีผู้เล่นทีมอื่น 3-4 คนได้ มันเกิดจากการฝึกซ้อมที่ตั้งใจของเรา


    ผมไม่เคยเกเรใครเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่บางครั้งก็จะโดนเตะบ้างอะไรบ้าง แต่คิดว่าเรายังไม่เก่งพอต้องกลับไปฝึกใหม่พยายามใหม่เอาตัวรอดให้ได้ มีเพื่อนๆหลายคนที่กลับไปเยือนเมืองไทยได้มีโอกาสพบปะกันเขาถามว่าผมไม่โกรธเขาหรือที่โดนเขาเตะในสนามฟุตบอล ผมก็บอกไปว่าไม่เคยโกรธทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ สำหรับผมแล้วเมืองไทยเป็นประเทศที่ผมรัก ขณะเดียวกันที่กัมพูชาบ้านเกิดมีโอกาสได้หวนกลับไปทุกอย่างดีขึ้นทุกคนเข้าใจผมมากขึ้นและได้รับการต้อนรับที่ดีให้เกียรติผมมากซึ่งผมก็รักประเทศกัมพูชาไม่แพ้กัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • อันดับโลกฟุตซอลไทยหลังคว้ารองแชมป์ศึกปรีเวิลด์คัพมีขยับขึ้น!
    ฟุตซอลทีมชาติไทย อันดับโลกกลับมาขยับแซง โมร็อกโก กลับไปอยู่อันดับ​ 17 ของโลกอีกครั้ง หลังคว้ารองแชมป์ ศึกโต๊ะเล็กปรีเวิลด์คัพ ตามจี้ อันดับ 16 สาธารณรัฐเช็ก เหลือแค่ 17 คะแนนเท่านั้น
  • ชนาธิปวอนแฟนบอลไทยให้เวลาโค้ชสร้างทีม
    ส่งสารถึงแฟนบอล ! ชนาธิป สรงกระสินธ์ ขอพูดจากใจถึงแฟนบอลชาวไทย ลั่นฟุตบอลไทยต้องให้เวลาโค้ช ชี้โค้ชทุกคนเก่งหมด มีรูปแบบชัดเจน มีสไตล์ที่ทีมชาติต้องการ แต่พอถึงเวลาทีมชาติอุ่นเครื่องแพ้ แฟนบอลไทยกลับรับไม่ได้ ส่งเสียงไล่โค้ชกันแล้ว วอนอยากให้แฟนบอลไทยเปลี่ยนความคิด ยันชัดให้โค้ชเก่งขนาดไหน แต่ฟุตบอลต้องสร้างทีม ต้องใช้เวลา ให้ประสบความสำเร็จเลยเป็นไปไม่ได้ในโลกลูกหนัง
  • โพสต์ปริศนา? ฤา "ตอง กวินทร์" จะกลับมาลุยไทยลีก
    ควันหลงจากที่ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา "ตอง" กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊ค ส่วนตัว "ความอดทนเกือบถึงขีดสุด" ทำเอาแฟนบอลที่ชื่นชอบในตัวอดีตนายทวารดีกรีทีมชาติไทย , เมืองทอง ยูไนเต็ด ผู้นี้เข้าไปแสดงความเป็นห่วงเป็นใยพร้อมตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับ "ตอง" ที่ปกติ จะไม่โพสต์อะไรในลักษณะแบบนี้มาก่อน
  • แข้งฟุตซอลช้างศึกโพสต์ชวนสงสัยหลัง"ปูลปิส"แยกทางโต๊ะเล็กไทยก่อนศึกเวิลด์คัพไม่นาน
    หรือมีอะไรในกอไผ่ ! ณัฐวุฒิ หมัดยะลาน โพสต์มีนัยยะชวนสงสัยหลัง “ปูลปิส” แยกทางคุมโต๊ะเล็กไทย ทั้งที่กำลังมีคิวลุยศึกใหญ่ฟุตซอลโลกกลางเดือน ก.ย.นี้ เผยเปลี่ยนม้ากลางศึกก็ยากประสบความสำเร็จแล้ว นี่เปลี่ยนแม่ทัพจะสำเร็จจริงๆหรอ ก่อนตบท้ายสั้นๆ “คนรู้ไม่พูดคนพูดไม่รู้” ?

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »