ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เปิดตัวกรีลิชกร่อย! 5 ประเด็นร้อนหลังเลสเตอร์ทุบแมนซิตี้คว้าโล่การกุศล

เปิดตัวกรีลิชกร่อย! 5 ประเด็นร้อนหลังเลสเตอร์ทุบแมนซิตี้คว้าโล่การกุศล

Posted 08/08/2021 by siamsport

เลสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์ เอฟเอ คัพ ฤดูกาลที่แล้วสามารถสานต่อความสำเร็จได้ด้วยการซิวแชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปีหลังได้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กดจุดโทษช่วงท้ายเกมให้ทีมเฉือนชนะแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่ถือเป็นแมตช์เรียกน้ำย่อยก่อนพรีเมียร์ลีกเปิดฤดูกาลสัปดาห์หน้า เรามาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจในเกมนี้กัน
1.แดนกลางไม่เป็นรองเรือใบ

    ปกติทีมที่คุณภาพทีมเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ มักจะเลือกตั้งรับอย่างอดทนและปล่อยให้ แมนฯ ซิตี้ ครองบอลบุกเข้าใส่ แต่เกมนี้ต้องชมแดนกลางของ เลสเตอร์ ที่ไม่เป็นรองคู่แข่งเลย ถึงมิดฟิลด์ “เรือใบ” อาจจะไม่ใช่ผู้เล่นตัวจริงทั้งหมด แต่การมีสถิติครองบอลสูสีกับทีมของเป๊ปถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว

    หลายคนคงจับตาไปที่ เจมส์ แมดดิสัน แต่สำหรับนัดนี้เขาไม่ได้โชว์ฟอร์มโดดเด่นมากนัก บางทีอาจจะเป็นเพราะข่าวการย้ายทีมกับ อาร์เซน่อล หรือเปล่า? แต่คนที่ผลงานน่าประทับใจมากคือ วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ผู้ซึ่งเป็นหัวใจในแดนกลางของ เลสเตอร์ อย่างแท้จริง เกมนี้เขาวิ่งพล่านไปทั่วสนาม หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ เกือบหลุดเข้าเขตโทษแต่ เอ็นดิดี้ วิ่งมากดดันจน มาห์เรซ​ ยิงออกไปไกล เป็นอีกครั้งทีแข้งไนจีเรียวัย 24 ปีโชว์ศักยภาพให้เราได้เห็นเต็มตา

2.เคนคงต้องมาแล้ว

    เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ใช้งาน แฟร์ราน ตอร์เรส ในตำแหน่ง “ฟอลส์ ไนน์” ซึ่งตัวนักเตะก็เคยมีผลงานน่าประทับใจกับบทบาทนี้ด้วยการซัดแฮตทริกใส่ นิวคาสเซิ่ล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อย่างไรก็ตามการที่เขาเป็นแค่แข้ง “ดาวรุ่ง” วัย 21 ปีจึงไม่แปลกใจที่ฟอร์มยังไม่สม่ำเสมอซึ่งรวมถึงนัดนี้ด้วย เขาไม่มีโอกาสง้างยิงเลยสักครั้งเดียวจนถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 74 และโอกาสยิงส่วนใหญ่ของทีมมาจากนักเตะริมเส้นทั้งนั้น

    หากเปิดฤดูกาลแล้ว กาเบรียล เชซุส คงกลับมายึดตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเหมือนเคยหรืออาจใช้ “ฟอลส์ ไนน์” อย่าง เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง หรือ แจ็ค กรีลิช ความจริงมันก็ไม่ได้แน่อะไรนักแต่ แมนฯ ซิตี้ และ เป๊ป ควรต้องมีกองหน้าระดับท็อปเพื่อยกระดับทีมขึ้นไปอีกขั้น และแฮร์รี่ เคน กองหน้าของสเปอร์สจะเป็นคำตอบของปัญหานี้แน่นอน

    เป๊ป ออกมายอมรับตรงๆว่าสนใจ “แฮร์รี่ เคน” จริงแต่การเจรจากับ “ไก่เดือยทอง” คงยากลำบากแน่ แต่หลังจากความพ่ายแพ้เกม คอมมิวนิตี้ ชิลห์ คงทำให้กุนซือผลักดันดีลนี้ให้สำเร็จ ต้องรอดูกันว่า เคย จะได้ย้ายทีมหรือไม่

3.กรีลิชผิดหวังที่เวมบลีย์อีก

    แจ็ค กรีลิช นักเตะเจ้าของค่าตัวสถิติพรีเมียร์ลีก 100 ล้านปอนด์ได้ประเดิมสนามในแมตช์นี้แล้ว โดยลงถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นเป็นริมเส้นฝั่งซ้ายแทน ซามูเอล เอโดซี่ ในนาทีที่ 65 ซึ่งการที่เขาออกสตาร์ทเป็นตัวสำรองเป็นเรื่องไม่แปลกใจเท่าไหร่นักเพราะเพิ่งมาซ้อมกับทีมได้แค่วันเดียวเท่านั้น

    ฟอร์มโดยรวมของเขาอาจจะยังไม่ได้มีอะไรน่าประทับใจนัก แต่ถือว่าลงมามีส่วนร่วมกับเกมรุกมากทีเดียว มีการโชว์ทักษะการเลี้ยงจี้กองหลังอยู่บ้าง มีสร้างโอกาสได้ครั้งหนึ่งด้วย คงต้องให้เวลาเขาปรับตัวกับทีมอีกสักหน่อย

    อย่างไรก็ตาม กรีลิช ถือว่าโชคร้ายทีเดียวที่ชิงแชมป์ 2 ครั้งใน 2 เดือนที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม แต่ชวดหมดทั้งแชมป์ยูโร 2020 และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ โดยทั้งสองเกมก็ทำได้แค่นั่งตัวสำรองและถูกเปลี่ยนตัวมาลงมา หลังจากนี้คงเป็นบทพิสูจน์ของตัวเขาเองแล้วว่าจะทำให้คุ้มค่าตัว 100 ล้านปอนด์ได้หรือไม่

4.จิ้งจอกต้องเสริมหลังบ้าน


    การบาดเจ็บรุนแรงของ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ในเกมอุ่นเครื่องกับ บียาร์เรอัล เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เสียหายใหญ่หลวงทีเดียวและยังทำให้ผู้จัดการทีมเจอปัญหาในการจัดตัวลงเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก


    จอนนี่ อีแวนส์ ปราการหลังตัวเก๋ายังมีอาการบาดเจ็บอยู่ทำให้เหลือเซนเตอร์แบ็กแค่ ซากลาร์ โซยุนชู ให้ใช้งานเพียงคนเดียว ดังนั้น ร็อดเจอร์ส ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้กองกลางอย่าง แดเนียล อมาร์ตีย์ ถอยมาลงเล่นแทน

    ถึง อมาร์ตีย์ จะทำผลงานดีในการป้องกันเกมรุก แมนฯ ซิตี้ แต่เชื่อว่าผู้จัดการทีมคงไม่ได้ใช้เขาในตำแหน่งนี้ระยะยาวแน่ ความจริง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ก็สามารถเล่นเป็นกองหลังได้เช่นกัน ทว่ามันคงดีกว่าถ้าให้เขาเล่นกองกลางที่ถนัด ส่วน จอนนี่ อีแวนส์ ก็ยังไม่รู้ว่าจะฟิตสมบูรณ์เมื่อไหร่ ดังนั้น เลสเตอร์ คงต้องหากองหลังเข้ามาเสริมทัพเพื่อให้ขุมกำลังมีตัวเลือกมากขึ้นเพราะอย่าลืมพวกเขาต้องเล่น ยูโรปา ลีก ด้วย

5.เรือใบต้องรีบฟื้น


    ความผิดหวังจากการชวดแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้วรวมถึง คอมมิวนิตี้ ชิลด์ นัดนี้น่าจะทำให้ความมั่นใจของแข้งแมนฯ ซิตี้ถูกบั่นทอนไปพอสมควรซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก เป๊ป คงต้องเรียกสมาธิลูกทีมกลับมาโดยเฉพาะบรรดาดาวรุ่ง อาทิ โคล พาลเมอร์ และ ซามูเอล เอโดซี่ ที่เจอประสบการณ์ความผิดหวังในเกมใหญ่เป็นครั้งแรก

    “เรือใบ” คงต้องรีบฟื้นฟูสภาพจิตใจเพราะพวกเขาต้องเจองานหนักอึ้งในใน 7 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021/22 ซึ่งต้องปะทะกับทีมใหญ่ทั้ง สเปอร์ส (เยือน), อาร์เซน่อล (เหย้า), เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน), เชลซี (เยือน) และ ลิเวอร์พูล (เยือน) รอดูกันว่าแชมป์เก่าจะเปิดซีซั่นได้ดีแค่ไหน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »