การแต่งตั้ง เอริค แรมซี่ย์ เข้ามาทำหน้าที่เป็นโค้ชลูกตั้งเตะ แสดงให้เห็นแล้วว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินมาถูกทางในการสร้างทีมให้แข็งแกร่งในทุกภาคส่วน ไม่ใช่แค่การเสริมทัพด้วยการซื้อผู้เล่นชั้นนำมาร่วมทีมเท่านั้น

ช่วงซัมเมอร์นี้ "ผีแดง" คว้านักเตะเป้าหมายที่ต้องการมาร่วมทีมได้สำเร็จทั้ง เจดอน ซานโช่ และ ราฟาแอล วาราน แต่กระนั้นพวกเขายังได้จิ๊กซอว์ที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือการคว้าตัว แรมซี่ย์ เข้ามาช่วยกำจัดจุดอ่อนในเรื่องลูกเซตพีซของทีม ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในช่วงหลายซีซั่นที่ผ่านมา

หากจำกันได้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของกุนซือขรัวเฒ่า มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เสียประตูจากลูกเซตพีซมากกว่า แมนฯ ยูฯ ฉะนั้นนี่คือหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องทำการแก้ไข และนั่นคือเหตุผลที่ทีมจ้าง แรมซี่ย์ มาจัดการเรื่องนี้

คอลูกหนังน้อยคนนักจะรู้จัก แรมซี่ย์ แต่หารู้ไม่ว่าชายคนนี้ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ลูกตั้งเตะอย่างแท้จริง และการได้เข้ามาร่วมงานในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด จะทำให้ทีมของกุนซือโอเล่ กุนนาร์ โซลชา อันตรายมากยิ่งขึ้นในการเล่นลูกเซตพีซ
 
ผลงานที่น่าจะเป็นไฮไลท์ที่ทำให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของทีมในจุดนี้ก็คงหนีไม่พ้นเกมอุ่นเครื่องที่ไล่ต้อน เอฟเวอร์ตัน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย แมนฯ ยูฯ เล่นได้อย่างโดดเด่นทุกครั้งในเกมรับและรุกจากจังหวะเตะมุม และฟรีคิก

ช่วงที่ผ่านมา แมนฯ ยูฯ มักมีปัญหาเมื่อเจอกับทีมที่เน้นใช้สภาพร่างกายเข้าสู้ และโดนเล่นงานลูกตั้งเตะบ่อยๆ แต่สำหรับแมตช์ดังกล่าว บรรดานักเตะ "ผีแดง" สามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนั้นได้สบายๆ

หนึ่งในเรื่องที่ต้องบอกว่าน่าพอใจมากๆ ก็คือผลงานของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ขึ้นไปโหม่งประตูจากจังหวะลูกเซตพีซ ซึ่งนี่คือสิ่งที่แฟนบอล "เร้ด เดวิลส์" คาดหวังจากตัวเขาตอนที่เซ็นสัญญามาอยู่กับทีมแต่ก็ต้องเศร้าเพราะอัตราการทำประตูของกัปตันทีมจากลูกเตะมุมมันช่วงย่ำแย่เหลือเกิน

นอกจากนี้ แม็กไกวร์ ยังมีโอกาสอีกครั้งหลังจากที่ทำประตูได้ ขณะเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็จัดการยิงประตูจากจังหวะฟรีคิกได้ด้วย ซึ่งคงจะไม่เป็นการกล่าวยกยอเกินไปว่าผลงานที่ดีขึ้นในจังหวะเซ็ตพีซของทีมมาจากการทำงานร่วมกับ แรมซี่ย์

สำหรับประวัติการทำงานของ แรมซี่ย์ ถือว่าไม่ธรรมดา โดยเขาผ่านงานกับ ชูร์บิวรี่ ทาวน์ และ สวอนซี ซิตี้ ก่อนที่จะมีชื่อเสียงมากขึ้นในการดูแลทีมเยาวชนรุ่นยู-23 ของ เชลซี เมื่อปี 2019 แถมยังเป็นโค้ชที่อายุน้อยที่สุดในสหราชอาณาจักรที่ได้รับโปรไลเซนส์จากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ด้วย

การที่ แรมซี่ย์ ได้รับโอกาสสำคัญในการทำงานให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องขอบคุณ คีแรน แม็คเคนน่า ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยลัฟโบโรห์ เป็นคนแนะนำให้ "ผีแดง" เซ็นสัญญากับเขา

นี่ถือเป็นการแต่งตั้งที่สมเหตุสมผลเพราะ แรมซี่ย์ จะมาแก้ไขจุดอ่อนในเรื่องการตั้งรับลูกเซตพีซของแมนฯ ยูฯ และยิ่งทีมจะได้ วาราน มายืนคู่กับ แม็กไกวร์ คงจะทำให้เขาได้โชว์กึ๋นมากยิ่งขึ้น เพราะขนาดเกมกับ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทัพ "ปีศาจแดง" ยังไม่มีแข้งใหม่ที่เพิ่งดึงตัวมาร่วมทีม แต่ผลงานของเขาก็เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาไปแล้ว

แซม ริคเก็ตต์ส อดีตดาวเตะฮัลล์ ซิตี้ และ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งเคยมีโอกาสได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ แรมซี่ย์ และยังร่วมเรียนโค้ชโปรไลเซนส์ของยูฟ่า ผ่านสมาคมฟุตบอลเวลส์ เชื่อว่าบอร์ดบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องตื่นเต้นกับพรสวรรค์ของชายคนนี้

"เขาเป็นคนที่มีความคิดชัดเจน มันสมองในการวางแท็กติกที่ยอดเยี่ยม และเก็บรายละเอียดทุกอย่าง บุคลิกของเขามีความโดดเด่น เขาเป็นคนมีมิตรสัมพันธ์ดี เขาเป็นคนที่รอบรู้ในทุกๆ ด้านซึ่งไม่วอกแวกกับสิ่งอื่นๆ แต่เป็นคนที่ใส่ใจกับทุกๆ รายละเอียดในทุกๆ สิ่งที่เขาทำ" ริคเก็ตต์ส กล่าว

นอกจากการดูแลเรื่องลูกเซตเพลย์แล้ว แรมซี่ย์ ยังทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานักเตะเป็นรายบุคคล เพื่อที่จะดึงศักยภาพที่แท้จริงของผู้เล่นเหล่านั้นออกมาให้ได้อย่างเต็มที่ ฉะนั้นในซีซั่นนี้ แฟนบอล "ผีแดง" อาจจะได้เห็นนักเตะของตัวเองระเบิดฟอร์มแบบหน้าเป็นหลังมือเลยก็ได้

ด้าน โซลชา ได้เคยแสดงความเห็นตอนที่สโมสรคว้าตัว แรมซี่ย์ มาร่วมงานว่า "เราโชคดีมากๆ ที่โน้มน้าวให้ เอริค แรมซี่ย์ มาร่วมงานกับสโมสรที่ดีที่สุดในโลก และประเทศนี้ เขาเป็นโค้ชที่ได้รับการประเมินเอาไว้สูงมากๆ ซึ่งจะรับหน้าที่ดูแลนักเตะเป็นรายตัว และจัดการเรื่องลูกเซตเพลย์ทั้งหมด เราตื่นเต้นมากๆ เขาเป็นคนหนุ่ม, สดใหม่ และมีไอเดียเจ๋งๆ"

จะว่าไปแล้วบทพิสูจน์ศักยภาพของ แรมซี่ย์ จะเริ่มขึ้นอย่างจริงจังในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แต่สิ่งที่ทุกๆ คนโดยเฉพาะสาวก "เร้ด อาร์มี่" ได้เห็นในเกมกับเอฟเวอร์ตัน คงทำให้รู้สึกได้ถึงเหตุผลในเชิงบวกมากมายกับการแต่งตั้งชายคนนี้เข้ามาพัฒนาทีม