ถึงแม้ว่า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะเป็นทีมที่ดี แต่มันก็ถือเป็นผลการแข่งขันที่พลิกล็อกในสายตาของหลายคนกับการที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปแพ้พวกเขา 0-1 ในนัดเปิดฤดูกาล 2021-22 ของทั้ง 2 ทีม เมื่อพืจารณาถึงเรื่องที่ว่า "เรือใบสีฟ้า" มีดีกรีเป็นแชมป์เก่า, ตัวหลักหลายคนยังอยู่กับทีม แถมฝั่ง สเปอร์ส ยังไม่มี แฮร์รี่ เคน กองหน้าคนเก่งลงช่วยทีมอีกต่างหาก
   
แน่นอน มันยังถือเป็นเพียงนัดแรกของฤดูกาลเท่านั้น ทำให้ถึงแม้จะแพ้ สเปอร์ส มันก็ไม่ได้หมายความว่า แมนฯ ซิตี้ จะไม่มีทางป้องกันแชมป์ได้ แต่อีกมุมหนึ่งมันก็ถือเป็นการออกสตาร์ตที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก และในประวัติศาสตร์ของการแข่ง พรีเมียร์ลีก มันมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่แพ้ในลีกตั้งแต่นัดเปิดหัวแต่ยังได้แชมป์ไปครองในบั้นปลาย นั่นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมืองของ "เรือใบสีฟ้า" เอง

แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็น "ทีมเดียว" ที่ทำอย่างนั้นได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ทำอย่างนั้นได้ครั้งเดียว เพราะมันมีถึง 3 ครั้งที่ทีมของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แพ้ในนัดแรกของลีกแต่ยังจบป้ายด้วยการได้ชูถ้วยแชมป์ ซึ่งวันนี้เราจะนั่งไทม์แมชชีนย้อนกันสักหน่อยว่ามันเกิดขึ้นในฤดูกาลไหนบ้าง

: ฤดูกาล 1992-93
ซีซั่นแรกที่ลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก ตอนนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เสริมทัพก่อนเปิดฤดูกาลด้วยการจ่ายเงืน 1 ล้านปอนด์เพื่อเอา ดิออน ดับลิน มาร่วมทัพ แต่พวกเขาก็เปิดหัวฤดูกาลได้น่าหดหู่จากการออกไปแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-2 โดยที่ มาร์ค ฮิวจ์ส เป็นคนทำประตูให้ทีมในวันนั้น

ไม่เพียงแค่นั้น ในนัดต่อมาทีมของ เฟอร์กูสัน ยังแพ้ เอฟเวอร์ตัน คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 0-3 อีก แถมพอถึงเกมลีกนัดที่ 3 ของฤดูกาลก็ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ อิปสวิช ทาวน์ 1-1 กว่าที่พวกเขาจะหาชัยชนะในลีกนัดแรกเจอก็ต้องรอถึงเกมที่ 4 ที่บุกไปเฉือน เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 จากประตูชัยของ ดับลิน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ระเบิดฟอร์มโหดด้วยการแพ้เพิ่มอีกเพียง 4 นัด ในยุคสมัยที่ พรีเมียร์ลีก ยังเตะกัน 42 เกมต่อ 1 ฤดูกาล ส่งผลให้ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ได้แชมป์ลีกไปครองในสภาพที่มีคะแนนมากกว่า แอสตัน วิลล่า ทีมรองแชมป์ 10 แต้ม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาเอา เอริก คันโตน่า มาร่วมทัพในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 1992 นั่นเอง

: ฤดูกาล 1995-96
ก่อนเปิดซีซั่นดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้ซื้อนักเตะมาร่วมทีมแม้แต่คนเดียว โดยที่ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจดันดาวรุ่งหลายคนขึ้นมารับบทบาทในทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ซึ่งนั่นทำให้กูรูหลายคนมองว่า แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะชวดแชมป์ลีกเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน (ซีซั่นก่อนหน้านั้น แบล็คเบิร์น เป็นแชมป์ลีก)

ตอนแรกมันก็เหมือนกับว่าเหล่ากูรูจะคิดถูก เพราะรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก เสียท่าตั้งแต่นัดแรกของซีซั่นด้วยการออกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 1-3 โดยคนที่ทำประตูให้ทีมในวันนั้นคือ เดวิด เบ็คแฮม ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดวลีเด็ดของ อลัน แฮนเซ่น ที่กล่าวเอาไว้ว่า "คุณไม่มีทางได้แชมป์ด้วยการใช้แค่เด็กๆ พวกนี้หรอก"

สุดท้ายแล้วคำพูดดังกล่าวก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ แฮนเซ่น โดนหลายคนล้ออย่างหนักมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเข้าป้ายด้วยการเป็นแชมป์ลีกในซีซั่นนั้นได้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะพวกเขาไม่แพ้ใครในลีกถึง 12 นัดติดต่อกัน ในช่วงกลางเดือนมกราคม ปี 1996 จนถึงวันที่ 8 เมษายนของปีเดียวกัน

: ฤดูกาล 2012-13
นี่ถือเป็นซีซั่นแห่งความทรงจำของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมันเป็นซีซั่นสุดท้ายที่ เฟอร์กูสัน ทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการทีม แถมยังเป็นการสั่งลาอย่างสวยหรูด้วยการนำทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองได้อีกต่างหาก ภายหลังซีซั่นก่อนหน้านั้นต้องทนเห็น แมนฯ ซิตี้ ได้แชมป์ไปครองด้วยการมีผลต่างประตูได้-เสีย ดีกว่าพวกเขา

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่ว่าซีซั่นนั้นพวกเขาเริ่มต้นได้อย่างสวยหรู เพราะว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดหัวด้วยการออกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ปี 2012 ยังดีที่พวกเขาแก้ตัวได้อย่างรวดเร็วด้วยการชนะ ฟูแล่ม 3-2 ในอีก 5 วันต่อมา