ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2

6 ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2

Posted 21/08/2021 by siamsport

ความเข้มข้นของศึก พรีเมียร์ลีก มีให้เห็นเป็นประจำทุกสัปดาห์ และในสุดสัปดาห์นี้ก็มี ดาร์บี้ แมตช์ กรุงลอนดอน เป็นคู่ใหญ่ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกัน ส่วนทีมยักษ์ใหญ่อื่น ๆ ก็ลงฟาดแข้ง และมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เราไปดูกันเลยว่าแต่ละคู่มีเรื่องราวอะไรบ้าง
    "ลิเวอร์พูล-เบิร์นลี่ย์"

    ลิเวอร์พูล ทำผลงานยอดเยี่ยมในเกมนัดเปิดสนามเมื่อบุกไปเอาชนะ นอริช 3-0 มาเกมนี้พวกเขาอาจยังไม่มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่มีปัญหาเจ็บข้อเท้า และเพิ่งกลับมาลงซ้อมได้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ส่วน เบิร์นลี่ย์ พ่ายคารังต่อ ไบรท์ตัน ทว่าสถิติการมาเยือนที่ แอนฟิลด์ 2 ครั้งหลังสุดทำได้ดีเกินคาด

    ในตอนนี้ "หงส์แดง" คือทีมที่รักษาสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันนานสุด (11 นัด) โดยเอาชนะได้ถึง 6 เกม ถึงกระนั้น "เดอะ คลาเร็ตส์" คือทีมที่หยุดสถิติไร้พ่ายที่บ้านของ ลิเวอร์พูล ไว้ที่ 68 นัด ด้วยชัยชนะ 1-0 เมื่อเดือนมกราคม


    โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ มีส่วนร่วมกับประตูที่ทำได้ใส่ เบิร์นลี่ย์ โดยตรง 6 ลูกจาก 6 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก ที่เจอกัน (5 ประตู 1 แอสซิสต์)

    ขณะที่ เบิร์นลี่ย์ ปราชัย 8 จาก 10 นัดหลังสุดในเกมลีก (ชนะ 2) และแพ้ติดต่อกันมาแล้วถึง 4 เกม

    "แมนฯ ซิตี้-นอริช"

    "แชมเก่า" แมนฯ ซิตี้ เปิดหัวซีซั่นใหม่ไม่ดีเท่าไหร่ บุกพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส ส่วน "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ก็แพ้มาเช่นเดียวกัน

    การเจอกันที่บ้านของ "เรือใบสีฟ้า" เป็นเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่า โดย 3 นัดหลังสุดชนะได้ทุกนัดแถมถล่มประตูใส่ผู้มาเยือนรวมกันด้วยสกอร์ 14-1

    หากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แพ้อีกในเกมวันเสาร์นี้ จะทำให้พวกเขาแพ้ทุกรายการติดต่อกัน 4 เกม (นับจากแพ้ เชลซี นัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีก, แพ้ เลสเตอร์ ศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ และ สเปอร์ส ในเกมลีก) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2006

    ถ้าชัยชนะเป็นของฝั่งผู้มาเยือน จะทำให้ นอริช เป็นทีมที่ 2 ที่เป็นแชมป์ ลีก แชมเปี้ยนชิพ แล้วบุกชนะทีมแชมป์เก่า พรีเมียร์ลีก ต่อจาก บอร์นมัธ ที่ทำได้กับ เชลซี (1-0) เมื่อฤดูกาล 2015/2016

    อย่างไรก็ตาม การเจอกันนับรวมทุกรายการ นอริช บุกเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้นจากจำนวน 31 เกม(เสมอ 7 แพ้ 22)

    "เซาธ์แฮมป์ตัน-แมนฯ ยูไนเต็ด"

    เซาธ์แฮมป์ตัน บุกแพ้ เอฟเวอร์ตัน ทั้งที่เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน สภาพทีมฤดูกาลนี้ เปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ไล่ตั้งแต่กองหลังยันกองหน้า ส่วนฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ฟอร์มสุดหรูปูพรมอัด ลีดส์ ยูไนเต้ด ในศึกสงครามดอกกุหลาบ 5-1

    เป็นงานหนักของ "เดอะ เซนต์ส" อย่างแท้จริงเมื่อมาเจอกับ "เร้ด เดวิลส์" เมื่อการเล่นในบ้าน 10 เกมหลังสุดที่เจอกันพวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้เลยสักนัด(เสมอ 4 แพ้ 6) โดยมีถึง 6 ครั้งที่เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน

    อดัม อาร์มสตรอง กองหน้าที่คว้าตัวมาจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มีโอกาสเป็นผู้เล่นคนที่ 3 ที่สามารถทำประตูบนลีกสูงสุด 2 เกมแรกให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ต่อจาก มาโนโล่ กับเบียดินี่ ในปี 2017 และ อองรี กามาร่า ในปี 2005

    หาก แมนฯ ยูไนเต็ด หลีกหนีความพ่ายแพ้เกมนี้ได้ จะทำให้พวกเขาทาบสถิติบนลีกสูงสุดของ อาร์เซน่อล ที่ไม่แพ้เกมเยือนนานสุดที่ 27 นัด โดย "เดอะ กันเนอร์ส" เคยทำไว้ช่วงระหว่างเดือนเมษายน 2003 ถึงเดือนกันยายน 2004

    ในการเจอกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ "ปีศาจแดง" ถล่มไปได้ 9-0 ซึ่งเป็นสถิติชนะมากที่สุดร่วมในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

    "วูล์ฟส์-สเปอร์ส"


    บรูโน่ ลาจ ประเดิมพรีเมียร์ลีก กับ วูล์ฟส์ ด้วยความพ่ายแพ้ต่อ เลสเตอร์ ขณะที่ สเปอร์ส ทำผลงานเยี่ยมเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งในรายของ แฮร์รี่ เคน ก็กลับมาซ้อมกับทีมแล้ว น่าสนใจว่าเจ้าตัวจะได้ลงสนามเกมนี้หรือไม่

    การเจอกันที่ โมลินิวซ์ กราวด์ เจ้าถิ่นชนะทีมเยือนได้แค่ครั้งเดียวจาก 7 เกม พรีเมียร์ลีก (เสมอ 2 แพ้ 4) ซึ่งชัยชนะครั้งเดียวนั้นต้องย้อนไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2010 เลยทีเดียว

    นับตั้งแต่ อดาม่า ตราโอเร่ ย้ายมาอยู่กับ วูล์ฟส์ เมื่อฤดูกาล 2018/19 เขาเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้ถึง 412 ครั้งมากที่สุดในบรรดาผู้เล่นคนอื่นๆ ใน พรีเมียร์ลีก

    การเจอกันหนนี้ นูโน่ เอสปิลิโต้ ซานโต้ จะได้กลับมาเยือนทีมเก่า และที่ผ่านมาเขาได้เผชิญหน้ากับกุนซือโปรตุกีส มาแล้ว 7 ครั้ง(มาร์โก ซิลวา, โชเซ่ มูรินโญ่) ปรากฏว่าเขาเอาชนะได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น (เสมอ 3 แพ้ 2)

    นับตั้งแต่ฤดูกาล 2003/04 สเปอร์ส ไม่เคยเอาชนะ วูล์ฟส์ 2 เกมติดต่อกันได้เลย ซึ่งเจอกันหนล่าสุด พวกเขาเอาชนะได้ 2-0 เมื่อซีซั่นก่อน

    "อาร์เซน่อล-เชลซี"


    อาร์เซน่อล ผลงานระส่ำ เกมแรกบุกพ่ายต่อน้องใหม่ เบรนท์ฟอร์ด มาเกมนี้ต้องเจอกับ เชลซี ที่ฟอร์มเยี่ยม และล่าสุด โรเมลู ลูกากู หอกตัวใหม่แต่หน้าเก่าก็พร้อมประเดิมสนาม

    แม้ผลงานโดยรวมไม่ดี แต่ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เอาชนะ เชลซี ในเกมลีกมาได้แล้ว 2 นัดติดต่อกัน และถ้าเกมนี้เอาชนะได้อีกก็จะทำให้พวกเขากำราบทีมคู่แข่งร่วมเมือง 3 เกมติดเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2004

    อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่บุกเอาชนะ 2-1 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2008 "เดอะ กันเนอร์ส" ไม่สามารถเอาชนะ เชลซี ได้เลยใน 10 เกมลีกหลังสุดยามที่เตะกันวันอาทิตย์ (เสมอ 2 แพ้ 8)

    อีกทั้ง เชลซี เอาชนะเกมเยือน ลอนดอน ดาร์บี้ ได้ตลอด 4 นัดหลังสุด ซึ่งครั้งสุดท้ายที่บุกชนะคู่แข่งร่วมเมือง 5 ครั้งติดได้นั้นคือช่วงระหว่างเดือนมกราคม ปี 2005 ถึงเดือนมกราคม ในปีถัดมาภายใต้ยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่

    นับตั้งแต่ที่ โธมัส ทูเคิล เข้ามาคุมทัพ เอดูอาร์ เมนดี้ นายด่านทีมชาติเซเนกัล ของ เชลซี เก็บคลีนชีตใน พรีเมียร์ลีก มาแล้วถึง 10 เกมมากกว่าผู้รักษาประตูคนอื่น ๆ ในลีก

    "เวสต์แฮม-เลสเตอร์"

    สองทีมที่เอาชนะมาได้ในนัดเปิดสนาม เวสต์แฮม บุกไล่ยิง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-2 ส่วน เลสเตอร์ เปิดบ้านเชือด วูล์ฟส์ 1-0

    ถึงตอนนี้ มิคาอิล อันโตนิโอ กองหน้าร่างบึ้กของ "เดอะ แฮมเมอร์ส" กลายเป็นผู้เล่นของทีมที่ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุดเทียบเท่ากับ เปาโล ดิ คานิโอ ไปแล้วที่ 47 ประตู ซึ่งเจ้าตัวสอยตาข่าย "เดอะ ฟ็อกซ์" ได้ทั้งสองเกมหลังสุดที่เจอกัน

    เวสต์แฮม มองหาชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ในเกมลีกเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งครั้งสุดท้ายที่พวกเขาชนะ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" 4 นัดติดคือช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 1994 ถึงเดือนเมษายน 1997

    มีแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่านั้นที่้เก็บแต้มยามเล่นเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นก่อนมากกว่า เลสเตอร์ (38 คะแนน)

    เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ หัวหอกของ เลสเตอร์ มีส่วนร่วมกับประตูใส่ เวสต์แฮม 4 ลูกจาก 4 เกมหลังสุดที่เจอกันใน พรีเมียร์ลีก (3 ประตู 1 แอสซิสต์)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »